เหตุระเบิดที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ย.66 ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ระบุชัดว่า ทหารพรานที่พลีชีพ 1 นายขณะปฏิบัติภารกิจนั้น เป็นเพราะเหยียบกับระเบิด ซึ่งเป็น “ระเบิดแสวงเครื่องแบบเหยียบ”
ตามกันต่อกับโครงการติดตั้งเสาไฟ “ไฮแมส” ซึ่งหมายถึงเสาไฟถนนแบบสูง มีไฟส่องสว่างแบบสว่างจ้าพิเศษ
กิจกรรมของ รมว.กลาโหมคนใหม่ นายสุทิน คลังแสง นอกจากเผยกับสื่อมวลชนว่าจะเดินสายพบ “อดีตทหารใหญ่” เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการทำงาน
เปิดภาพวงจรปิดเหตุคนร้ายโจมตีตำรวจ – อส.ยะรัง หน้าสำนักงานเทศบาล ริมถนนใหญ่ แบ่งกำลัง 3 ชุด ทั้งระดมยิง ขว้างระเบิดใส่ต่อเนื่องจนเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แถมมีอีกทีมกดระเบิดเสาไฟฟ้า 3 จุด ทำไฟดับในวงกว้าง สกัดการช่วยเหลือ คาดฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ พร้อมแนวร่วมรุ่นใหม่ร่วมแสดงศักยภาพ
“ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบโครงการติดตั้ง “เสาไฟไฮแมส” เพิ่มเติม หลังสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่จริง เพราะประชาชนร้องเรียนว่า เสาไฟ 28 ต้น ดับสนิท มืดทั้งหมด ใช้การไม่ได้
กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีชุดลาดตระเวนร่วม ตำรวจ - อส.ยะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่พลีชีพ 3 นาย บาดเจ็บ 5 นาย ทั้งยังวางระเบิดเสาไฟฟ้าเสียหายอีก 3 จุด ฝ่ายความมั่นคงคาดเป็นการสร้างสถานการณ์ในวันก่อตั้งเบอร์ซาตู – วันชาติมาเลย์ ทั้งตอบโต้สมาชิกถูกวิสามัญฯ
“ทุเรียน” เป็นพืชเศรษฐกิจตัวสำคัญของประเทศไทยไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
เจ้าของร้านทุกอย่าง 20 บาทที่มูโนะสุดทน ทั้งน้ำท่วม 2 ครั้ง โกดังพลุระเบิดซ้ำ ประกาศขายบ้านที่ดินทิ้ง หวังอพยพไปตั้งตัวที่อื่น ด้านคนพื้นที่สงสัยเจ้าของโกดังพลุใหญ่มาก แต่ถูกตั้งข้อหาเบาหวิว แฉส่วยมูโนะรายเล็กจ่าย 3-5 พัน แต่มีโกดัง “คนการเมือง” อีกแห่งใหญ่เท่าที่เกิดระเบิด ไม่รู้ด้านในเก็บอะไร
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปิดล้อม ตรวจค้น และยิงปะทะ กระทั่งวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 2 ราย ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.66 ที่ผ่านมานั้น
ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีเหตุรุนแรง อุกอาจที่ต้องนำเสนอเพื่อบันทึกเอาไว้ว่ากลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุกันแบบไม่เลือกสถานการณ์