ท่ามกลางกระแสแฉ “ส่วยรถบรรทุก - ส่วยสติ๊กเกอร์” ที่กำลังตื่นตูมตรวจสอบกันวุ่นวาย ปรากฏว่าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการแฉและกล่าวหาว่ามีส่วยอีกประเภทหนึ่ง อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ส่วยช่วยชาติ” หรือ “ส่วยร่วมพัฒนาชาติ” ก็ได้
“ดีลลับลังกาวี” เพื่อเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากก้าวไกล เป็นเพื่อไทย ถูกเปิดเผยแบบอ้อมๆ จากสื่ออาวุโสท่านหนึ่ง ซึ่งรายการของสื่อท่านนี้มีคอการเมืองติดตามจำนวนมาก
กลายเป็นประเด็นที่วิจารณ์กันให้แซ่ดในช่วงนี้ นั่นก็คือรายงานพิเศษของสื่อออนไลน์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ ที่เปิดชื่อ เปิดหน้า “คีย์แมนคณะพูคคุยเพื่อสันติภาพดับไฟใต้” ชุดใหม่
ตัวอย่างของความน่าตกใจในการก่อเหตุรุนแรงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นได้ชัดจากกรณีคนร้ายดักยิง นายนาวีวัฒน์ หะยีบาสอ อายุ 53 ปี อดีตแพทย์ประจำตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
สัปดาห์ก่อนส่งท้ายปลายเดือน พ.ค. ในวงการตำรวจชายแดนใต้ ไม่ได้มีแค่ข่าวลบเกี่ยวกับการลงโทษตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จำนวน 14 นายด้วยวิธีที่หลายคนมองว่า “พิสดาร เท่านั้น
ต้องบอกว่า “งานเข้า” ทั้งๆ ที่กำลังมีข่าวดี ได้รับเชิญเป็นแกนนำ “ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล” ก็คือ กัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม
การเปิดตัวว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลของแกนนำก้าวไกล ซึ่งล่าสุดถึง 8 พรรคการเมือง มีพรรคเล็ก-พรรคจิ๋ว ระดับ 1 เสียงรวมอยู่ด้วย 3 พรรค คือ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเป็นธรรม
ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 สังคมโฟกัสไปที่ชัยชนะและความสำเร็จของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะที่เบียดบ้านใหญ่ หรือไม่ก็หักเสาไฟฟ้า แล้วแทงตัวเองเป็นเสาโทรเลขขึ้นมาผงาดแทน
หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต.สรุปออกมาว่า พรรคประชาชาติ ได้ ส.ส.จำนวน 7 ที่นั่ง ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี 3 ที่นั่ง จ.ยะลา 3 ที่นั่งยกจังหวัด ส่วน จ.นราธิวาส 1 ที่นั่ง และได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก 2 ที่นั่ง รวมเป็น 9 ที่นั่ง
บีอาร์เอ็น แถลงการณ์ผ่านคลิปวีดีโอใน YouTube อ้างไม่ได้ล้มโต๊ะพูดคุยเจรจาสันติภาพ-สันติสุข แต่สาเหตุที่ไม่ความคืบหน้าเพราะรัฐบาลไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อว่ากระบวนการสันติภาพจะได้ผลดีกว่าหลังไทยมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยและมีความจริงจังชัดเจน