ศึกตำรวจชายแดนใต้ยังไม่จบ หลังมีคำสั่งย้ายอดีตผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส ออกจากตำแหน่งแบบขาดจากตำแหน่งเดิม โดยอ้างเหตุระเบิด “โชเล่ย์บอมบ์” บริเวณกำแพงรั้วแฟลตตำรวจของโรงพัก และเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นอีกหลายครั้งในพื้นที่ เข้าข่ายปล่อยปละละเลย
ส่งผลให้ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อดีตผู้กำกับฯ ออกมาอัดคลิปแถลงโต้กลับผู้บังคับบัญชา โดยยืนยันว่าได้วางมาตรการรับมือกับสถานการณ์อย่างเต็มที่ แถมลงพื้นที่ตลอด ไม่เคยละเลยแม้แต่น้อย
แถมแฉพฤติกรรมของ “เจ้านาย” อย่างรุนแรง โดยเฉพาะ “งานการไม่ทำ เอาแต่ไปรับวีไอพี แม้แต่เข่าเจ็บ ใช้ไม้เท้า ยังดั้นด้นไปรับ” พร้อมเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในส่วนกลางลงพื้นที่มาตรวจสอบบ้าง โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสในการใช้งบประมาณต่างๆ ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และสวัสดิการของกำลังพล
อ่านประกอบ :(มีคลิป) อดีต ผกก.โคกเคียน ดับเครื่องชน “นาย”
หลังเปิดวอร์แฉกันตรงๆ ทางฝั่งผู้บังคับบัญชาที่ถูกพาดพิงก็มีการให้สัมภาษณ์ตอบโต้ และแฉกลับว่า ฝ่ายผู้กำกับฯนั่นแหละที่ไม่ทำงาน ไม่เคยนอนบ้านพัก แถมตอนที่โดนย้าย แล้วมีมวลชนไปเชียร์ ก็ไปบังคับเขามา ชาวบ้านไม่ได้เต็มใจไป
อ่านประกอบ : “ผบช.-ผู้การ” งัดหลักฐาน - ประสานเสียงโต้ “อดีต ผกก.โคกเคียน”
หลังจากนั้นยังมีลูกหลงตามมาอีกคนละทีสองที โดยฝั่งผู้การนราธิวาสมีการโชว์ภาพลงตรวจพื้นที่ ทั้งๆ ที่ยังใช้ไม้เท้า แม้เป็นเวลากลางคืน แต่ทุกภาพไม่มีเงาผู้กำกับฯโคกเคียน ส่วนฝั่งอดีตผู้กำกับฯ ก็เปิดภาพลงพื้นที่ โดยไม่มีผู้บังคับบัญชาเช่นกัน เรียกว่าแลกกันอีกคนละหมัด
แลกกันแล้ว ก็นึกว่าจะจบ เพราะถึงอย่างไรก็ “สีกากีด้วยกัน” แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่จบ แถมบานปลายใหญ่โตเป็นคดีความกันเลยทีเดียว
เพราะล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เม.ย.68 พ.ต.อ.วีรยุทธ ส่งเอกสารรายงานประจำวันเดียวกับคดี เป็นคดีที่ตนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกเคียน ว่าบ้านพักของตน ซึ่งอยู่หลังโรงพักโคกเคียน ถูกบุคคลลึกลับบุกเข้าไป เหตุเกิดตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 เม.ย.68 จึงแจ้งความข้อหาบุกรุก
โดย พ.ต.อ.วีรยุทธ อ้างว่า พบร่องรอยเป็นรอยเท้า และเศษดินจากรองเท้าในบริเวณบ้าน และมีร่องรอยการรื้อค้นสิ่งของ ทำลายลูกบิดประตู อาจจะต้องการหาหลักฐานอะไรหรือไม่ และน่าจะมากันหลายคน
จริงๆ แล้ว พ.ต.อ.วีรยุทธ แจ้งความกล่าวหาผู้บังคับบัญชาของตนเลยด้วย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกว่าฟาดกันตรงๆ ทั้งยังบอกกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ขณะนี้ “บ้านพักตำรวจ” เป็นเขตหวงห้าม เพราะหน่วยพิสูจน์หลักฐานต้องเข้าไปตรวจสอบ
@@ โต้ข้อหาไม่นอนบ้านพัก - บังคับชาวบ้านแห่เชียร์
พ.ต.อ.วีรยุทธ ยังบอกด้วยว่า ประเด็นที่กล่าวหาตนว่าไม่นอนบ้านพักนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นไปไม่ได้เลย แม้ตนจะมีบ้านที่อำเภอตากใบ จ.นราธิวาส แต่ก็นอนบ้านพักหลังโรงพักตลอด มีข้อมูลกล้องวงจรปิดยืนยัน โกหกไม่ได้
ส่วนที่อ้างว่าตนบังคับชาวบ้านให้มาให้กำลังใจ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะพี่น้องมุสลิมบังคับไม่ได้ ตนเป็นตำรวจนับถือศาสนาพุทธด้วย จะบังคับมุสลิมได้อย่างไร แต่เท่าที่ตนทราบ ทั้งกำนันและชาวบ้านกำลังถูกคุกคาม และบังคับให้บอกกับนักข่าวว่าไม่ได้เต็มใจมาให้กำลังใจตน
@@ เปิดตัวให้ข่าวอีกรอบ หลังให้ปากคำเพิ่มเติม
หลังจากให้ข่าว “ทีมข่าวอิศรา” เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เม.ย. อดีตผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน ก็เก็บตัวเงียบ และปฏิเสธที่จะพูดอะไรอีกในวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. เหมือนต้องการให้เรื่องเงียบ
แต่แล้วช่วงสายของวันจันทร์ที่ 28 เม.ย. พ.ต.อ.วีรยุทธ กลับให้ข่าวกับนักข่าวทุกแขนงอีกครั้ง โดยนำเอกสารบันทึกการให้ปากคำเพิ่มเติม จากคดีเดิมที่ได้แจ้งความเอาไว้ มาโชว์กับสื่อมวลชนด้วย
พ.ต.อ.วีรยุทธ อ้างว่าได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม และมอบเอกสารจำนวน 3 แผ่น พร้อมลงลายมือชื่อพนักงานสอบสวน เพื่อนำตรวจสอบหาลายนิ้วมือและดีเอ็นเอที่ลูกบิดประตู โดยโชว์ภาพว่าลูกบิดมีร่องรอยงัดหรือกระแทกเพื่อเปิดประตูเข้าไป พร้อมกล่าวหาผู้บังคับบัญชาว่ารู้เห็นเรื่องนี้ และแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ร่วมบุกรุกบ้านพักของตนพร้อมผู้บังคับบัญชา แต่หากใครให้ความร่วมมือเป็นพยาน ก็จะถอนแจ้งความ ไม่ดำเนินคดี
@@ จี้นายกฯ - ผบ.ตร. – กมธ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบ
พ.ต.อ.วีรยุทธ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยสรุปได้ 3 ประเด็น คือ
1.มีการประชุม ศปก.สภ.โคกเคียน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังย้ายตน และผู้บังคับบัญชามีการกล่าวอาฆาตมาดร้ายตน พร้อมประกาศจะไม่ย้ายตนกลับ แต่จะย้ายออกนอกพื้นที่ ถือว่าไม่มีคุณธรรม-จริยธรรมหรือไม่
2.เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบการบริหารงานของตำรวจภูธรภาค 9 ว่ามีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสต่างๆ จริงหรือไม่ และเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นถี่ๆ
3.ขอให้ย้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อป้องกันการข่มขู่พยาน และเปิดทางให้มีการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
@@ ยอมรับ “สู้เดียวดาย” มีแต่ภรรยาเคียงข้าง
“การต่อสู้ในเรื่องนี้ ผมไม่มีใครช่วยเหลือ ผมมีแค่ภรรยาของผมที่ยืนเคียงข้างความถูกต้อง ผมรู้ว่าผู้บังคับบัญชาแต่ละคนก็มีแบ็กอยู่แล้ว ผมไม่มีอะไร ผมสู้ด้วยตัวของผมคนเดียว เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา”
@@ ผู้การนราฯ ไม่โต้ตอบ เปิดทาง ผบช.ภ.9 จัดการ
“ทีมข่าวอิศรา” ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) กรณี พ.ต.อ.วีรยุทธ แจ้งความกล่าวหาผู้บังคับบัญชาบุกรุกบ้านพัก
พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวเพียงว่า ขอไม่ตอบโต้ใดๆ โดยจะให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) เป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน
“ขี้เกียจตอบโต้กันไปกันมาไม่ได้ประโยชน์อะไร ความจริงมันคือความจริง ปล่อยให้เขาเคลื่อนไหวไปคนเดียว” ผู้การนราธิวาส ระบุ
@@ เปิดข้อมูลอีกด้าน ตรวจโรงพักรับคณะองคมนตรี
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นายหนึ่ง ซึ่งเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงยืนยันได้ กล่าวคือในวันเกิดเหตุ ซึ่งมีการประชุม ศปก.สภ.โคกเคียน ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยผู้การนราธิวาส ลงตรวจพื้นที่ เนื่องจากองคมนตรีมีกำหนดการจัดกิจกรรมในพื้นที่โคกเคียน (พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องประชาชน)
หลังการประชุม ทางคณะ ผบช.ภ.9 ได้เดินตรวจความเรียบร้อย และเดินไปถึงบ้านพักตำรวจหลังโรงพัก เห็นว่าสภาพที่ไม่ค่อยสวยงามตา จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“เมื่อไปถึงหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ผู้บัญชาการก็ถามว่าเป็นบ้านของใคร เจ้าหน้าที่ด้วยกันจึงตอบว่า ของผู้กำกับฯ ท่านผู้บัญชาการจึงเดินเข้าไป เพราะเห็นว่ามีร่องรอยกระจกแตก เพื่อจะตรวจสอบความเสียหายเพิ่ม และเปิดประตูห้องซึ่งไม่ได้ล็อค แล้วท่านผู้บัญชาการก็พูดว่าของเต็มเลย ถ่ายรูปหน่อย เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเอาไว้ ส่วนผู้การฯและเจ้าหน้าที่อีกส่วนก็อยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้าไป คือทุกคนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง เพียงแค่ไปตรวจสอบพื้นที่เท่านั้นเอง”
ตำรวจในพื้นที่บอกด้วยว่า เรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจเสื่อมเสีย และมีกำลังพลหลายนายถูกพาดพิง จึงรู้สึกไม่สบายใจ และเกรงว่าจะทำให้เดือดร้อน เพราะยังต้องทำงานในพื้นที่อีกนาน
@@ อดีต ผกก.โต้ทุกเม็ด โชว์ภาพประตูล็อก แต่โดนงัด
ด้าน พ.ต.อ.วีรยุทธ เมื่อทราบข่าวว่ามีการชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว ก็ได้ออกมาตอบโต้ว่า ประตูบ้านพักตนล็อกแน่นอน และมีร่องรอยงัดหรือกระแทกเข้าไป จนชิ้นส่วนของประตูที่ติดกับลูกบิดเสียหาย โดยเจ้าตัวนำภาพมาแสดงด้วย
พร้อมกับย้ำว่า สาเหตุที่ต้องชี้แจงแบบนี้ เพราะมีรอยนิ้วมือติดอยู่ที่ลูกบิดประตู แต่กลับอ้างว่าประตูไม่ได้ล็อก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
@@ “ชัยชนะ” ลั่น กมธ.พร้อมตรวจสอบปม ตร.ตัด ตร.
ด้านความคืบหน้ากรณีอดีตผู้กำกับโคกเคียน เรียกร้องให้นายกฯแพทองธาร รองนายกฯภูมิธรรม หรืออย่างน้อยก็ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาการบริหารงานของตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธรนราธิวาส หลังมีความขัดแย้ง เปิดข้อมูลสาดเข้าใส่กัน กรณีสั่งย้ายอดีตผู้กำกับโคกเคียน หลังเจอพิษ “โชเล่ย์บอมบ์” นั้น
ล่าสุดยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากนายกฯแพทองธาร และรองนายกฯภูมิธรรม
แต่ “ทีมข่าวอิศรา” ได้คุยกับ “สส.แทน” ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ ได้ความว่า ทราบข่าวที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะนี้รอดูท่าทีของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าจะออกแอคชั่นอย่างไร
ขณะเดียวกันก็จะติดตามท่าทีของสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายกฯแพทองธาร ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอย่างไรหรือไม่ หากนิ่งเฉย และเรื่องยังไม่จบ ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ก็พร้อมเข้าไปตรวจสอบ
สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ตนทราบว่ามีการแจ้งความโดยอดีตผู้กำกับโคกเคียนแล้ว ถ้ายังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถร้องเรียนมาที่ตนได้ เมื่อตนรับเรื่องแล้ว จะส่งหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจง รวมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องเรียนด้วย