
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สุทธิชัย พุ่มมาลัย' อดีตพนง.ป่าไม้ชำนาญงาน พิษณุโลก เรียกทรัพย์สินมิชอบ หลังถูกจับสดคาของกลางเงิน 4 พัน เมื่อปี 2564 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสุทธิชัย พุ่มมาลัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เรียกรับเงินสินบนนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมตามระเบียบเพื่อเป็นค่าดำเนินการอนุญาตคำขอทำการแปรรูป และแบบคำขอรับใบอนุญาตหรือมีไว้ครอบครองเพื่อการค้า สิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และ 172 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาว่า นายสุทธิชัย พุ่มมาลัย จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. ม. 149 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิด กฎหมายหลายบทลงโทษตาม ป.อ. ม. 149 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. ม.90 ให้จำคุก 5 ปี
ทางนำสืบจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามป.อ. ม. 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 ปรากฏข่าว นายวิฑูรย์ วรโชติพงศ์พันธ์ ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิษณุโลก (ในขณะนั้น) พร้อมทีมสืบสวน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และพยานผู้เสียหาย ได้ร่วมกันจับกุมนายสุทธิชัย พุ่มมาลัย เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สังกัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) พิษณุโลก ได้ที่สำนักงาน ทสจ. พิษณุโลก พร้อมเงินของกลาง จำนวน 4,000 บาท ที่ได้เรียกรับจากผู้เสียหาย
หลังจากมีผู้เสียหายมากล่าวโทษร้องทุกกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิษณุโลกว่า ในช่วงเดือน มี.ค. 2564 ผ่านมา ได้ไปยื่นคำขอค้าไม้แปรรูปและสิ่งประดิษฐ์ ณ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก หลังจากยื่นคำขอแล้วได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก ให้ไปพบอีกครั้งหนึ่ง โคยในวันที่ 7 มี.ค. 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้เสียหายได้ไปพบเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวตล้อมจังหวัดพิษณุโลก คือ นายสุทธิชัย พุ่มมาลัย เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน โดยนายสุทธิชัย ได้ขอค่าธรรมเนียมนอกเหนือจากใบอนุญาตเพิ่มเติม โดยค่าธรรมเนียมขอค้าไม้ปีละ 1,000 บาท และค่าธรรมเนียมขออนุญาตค้าสิ่งประดิษฐ์ปีละ 2,000 บาท รวม 3,000 บาท ตามกฎหมาย แต่นายสุทธิชัย กลับขอเรียกเงินเพิ่มเติมอีกใบละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 23,000 บาท โดยนายสุทธิชัยฯ ขอให้ผู้เสียหายน้ำเงินมาวางมัดจำล่วงหน้า 4,000 บาท
ต่อมา ผู้เสียให้มาได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 โดยสำนักงาน ป.ป. ช.ประจำจังหวัดพิษณุโลกขอความร่วมมือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก สั่งการให้ชุดสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ไปจับกุมตัว นายสุทธิชัย ได้ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างผู้เสียหายได้จ่ายเงินให้กับนายสุทธิชัยดังกล่าว

