
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'จุฬาพร หรือนางฐิติกาญจน์ สีหะวงษ์' อดีตนักวิชาการเงิน อบต. ธาตุน้อย คดีทุจริตสั่งจ่ายเช็คเกินบัญชี 194 ฉบับ หลังถูกรวบตัวหนีกบดานชลบุรี ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 194 กระทง 970 ปี แต่ติดจริง 50 ปี - ชดใช้เงิน 10,725,900 บาท ด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี กับพวก เบียดบังงบประมาณของอบต.ธาตุน้อย ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 , 161 ,265 , 266 (4) และ 268 และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบป.อ.มาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ นางสาวจุฬาพร หรือนางฐิติกาญจน์ สีหะวงษ์ เป็นจำเลยเพียงรายเดียว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นางสาวจุฬาพร หรือนางฐิติกาญจน์ สีหะวงษ์ จำเลย มีความผิดตามกฎหมาย
ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 194 กระทง เป็นจำคุก 970 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 91 (3) ให้จำเลยคืนเงินจำนวน 10,725,900 บาท แก่ อบต.ธาตุน้อย ผู้เสียหาย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ปรากฏข่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปรือ จับกุม นางสาวจุฬาพร หรือนางฐิติกาญจน์ สีหะวงษ์ อายุ 48 ปี อดีตนักวิชาการเงิน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี (อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3) ที่ จ.7/2567 ลงวันที่ 9 มกราคม 2567 ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และ มาตรา 161 และตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ จ.21/2567 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ในฐานความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 266 มาตรา 268 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
มีพฤติการณ์การกระทำความผิด กล่าวคือ ผู้ถูกกล่าวหาขณะดำรงตำแหน่งนักวิชาการและบัญชีชำนาญการ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เก็บรักษาสมุดเช็คทุจริตสั่งจ่ายเช็คเกินบัญชีที่อนุมัติเบิกตามฎีกาด้วยวิธีการแทรกและแต่งเติมตัวเลขลงในเช็คเกินกว่าที่เบิกจ่ายจริง จำนวนกว่า 194 ฉบับ เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 10,725,900 บาท
ขณะที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 พนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 และพนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองปรือ ได้รวบรวมข้อมูลจนสืบทราบถึงแหล่งกบดานของผู้ถูกกล่าวหาที่จังหวัดชลบุรี พนักงานเจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์ในบริเวณใกล้เคียง
เมื่อพบตัวผู้ถูกกล่าวหา จึงแสดงตัวเข้าจับกุมบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 พร้อมทั้ง นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกการจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือลงบันทึกประจำวัน และนำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งไปยัง สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

