"...ในชั้นไต่สวน นายวิฑูรย์ อ้างว่าได้รับเงินจากพี่น้องในครอบครัวช่วยกันออกค่าใช้จ่าย แต่จำไม่ได้ว่าแต่ละคนช่วยกันออกเท่าไหร่ ส่วนเงินของ นายวิฑูรย์ อ้างว่าได้มาจากการพนันที่บ่อนต่างประเทศ ได้แก่ ลาลเวกัส สหรัฐอมริกา มาเก้า และกัมพูชา.."
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายวิฑูรย์ นามบุตร ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) ปี 2554 เป็นจำนวนเงินรวม 58,900,000 บาท และเห็นควรให้ส่งสำนวนไต่สวน เอกสารหลักฐาน ให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
โดยเงินจำนวน 58,900,000 บาท แบ่งออกเป็น 3 รายการ ได้แก่
1. เงินที่นำไปใช้ในการสร้างโรงเรือน จำนวน 1 หลัง จำนวน 15,000,000 บาท
2. เงินที่นำไปมอบให้นางสาวสุคนธ์ธา หอมจันทร์ อดีตภรรยานอกสมรส เพื่อชำระค่าซื้อบ้าน จำนวน 14,300,000 บาท
และ 3. เงินที่ได้รับมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 29,600,000 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา นำข้อมูลเชิงลึกเงินรายการที่ 2 และ 3 มานำเสนอไปแล้ว โดยเงินจำนวน 14,300,000 บาท มีการยืนยันข้อมูลว่า ถูกนำเป็นบ้านและที่ดินในโครงการบ้านจัดสรร คาซ่า เลเจ้นด์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า มีความเชื่อมโยงกับคดีที่ นายวิฑูรย์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาในช่วงปี 2565 กรณีถูกกล่าวหาพร้อมพวกรวม 5 รายว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 2556 - 2557 ซึ่งปัจจุบันคดีนี้ อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาลฯ
- มติเอกฉันท์! ป.ป.ช.ชี้มูล 'วิฑูรย์ นามบุตร' คดีร่ำรวยผิดปกติ 58.9 ล. ช่วงเป็น สส.ปี 54
- เบื้องลึก! เงิน 14.3 ล.คดี 'วิฑูรย์' ร่ำรวยผิดปกติ อ้างเล่นพนันได้-โยงกรณีเรียกรับ 30 ล.
- เผยโฉมบ้าน 14.3 ล. 'วิฑูรย์' อ้างใช้เงินเล่นพนันบ่อนเขมรซื้อ - ป.ป.ช.ชี้ซุกทรัพย์สิน
- เปิดเส้นทางเงินลับคดีเรียก 30 ล.'วิฑูรย์-พวก' จ่ายสด-โอน 20 ครั้ง โยงซื้อบ้านร่ำรวยผิดปกติ
คราวนี้ มาดูข้อมูลเชิงลึกในส่วนเงินรายการ ที่ 1 จำนวน 15,000,000 บาท ที่ถูกระบุว่า มีการนำไปใช้ในการสร้างโรงเรือน จำนวน 1 หลัง กันบ้าง
ในการไต่สวนข้อมูลของ ป.ป.ช. พบว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2550 นายวิฑูรย์ นามบุตร ซื้อที่ดินโฉนตเลขที่ 219XX ต.จาระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เนื้อที่ 5 ไร่ 64 ตารางวา กับนาง ก. ต่อมามีการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินโฉนดเลขที่ดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 นาง พ. (น้องสาว) เป็นผู้ยื่นคำร้องขอรหัสประจำบ้าน และป็นเจ้าบ้าน
ขณะที่ นายวิฑูรย์ ชี้แจงว่า เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557 ช่วงพ้นตำแหน่ง สส. มูลค่า 15,000,000 บาท
ในชั้นตรวจสอบ นายวิฑูรย์ อ้างว่าเงินที่นำมาใช้ในการก่อสร้างบ้าน มาจากการกู้ยืมเงินนาง พ. (น้องสาว)
ต่อมาในชั้นไต่สวน นายวิฑูรย์ อ้างว่าได้รับเงินจากพี่น้องในครอบครัวช่วยกันออกค่าใช้จ่าย แต่จำไม่ได้ว่าแต่ละคนช่วยกันออกเท่าไหร่
ส่วนเงินของ นายวิฑูรย์ อ้างว่าได้มาจากการพนันที่บ่อนต่างประเทศ ได้แก่ ลาลเวกัส สหรัฐอมริกา มาเก้า และกัมพูชา
ขณะที่บ้านหลังนี้ นายวิฑูรย์ และพี่น้อง พักอาศัยอยู่ประจำ และตกลงว่าจะใช้เงินมรดกของพ่อแม่ในการสร้างบ้าน นาง พ. (น้องสาว) เป็นผู้เตรียมเงินเพื่อชำระค่าก่อสร้าง โดยนำเงินจากตู้เซฟของครอบครัวไปจ่าย ประมาณ 15,000,000 บาท และมีการแบ่งมรดกให้พี่น้องทุกคนเป็ยเงินสดคนละประมาณ 1-2 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม 2563 นายวิฑูรย์ ได้ยกที่ดินโฉนดเลขที่ 219XX ซึ่งใช้ปลูกสร้างบ้านหลังนี้ ให้บุตรสาว
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของ ป.ป.ช. พบว่า
1. กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ากู้ยืมเงินจากนาง พ. น้องสาว ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ว่ามีการกู้ยืมเงินกันจริง
2. กองบัญชาการตรวจคนเข้าเมือง 3 พบการเดินทางเข้า-ออกประเทศตั้งแต่ปี 2556-2566 แต่กรมศุลกากร ไม่พบข้อมูลการสำแดงเงินตราต่างประเทศเกินกว่ากำหนดระหว่างปี 2549-2560 ของ นายวิฑูรย์
3. จากการไต่สวนไม่มีพี่น้องคนใดยืนยันว่าเงินมรดกของครอบครัวมีจำนวนเท่าใด ไม่มีรายละเอียดการแบ่งมรดกของครอบครัวชัดเจน และภายหลังการแบ่งมรดกแล้วมีเงินเหลือพอที่จะนำมาสร้างบ้านได้หรือไม่ เหตุใด นายวิฑูรย์ ได้รับเงินมรดกถึง 15,000,000 บาท ทั้งที่ที่น้องคนอื่นได้รับเพียงคนละ 1-2 ล้านบาท
4. นายวิฑูรย์ ชี้แจงกลับไปกลับมา บอกว่ากู้ยืมเงินมาจากน้องสาว อ้างว่าเป็นเงินที่พี่น้องช่วยกันออก ของตนเองนำมาจากการเล่นพนัน คำชี้แจงมีลักษณะเลื่อนลอยไม่น่าเชื่อถือ และเมื่อพิจารณาทรัพย์สินที่นายวิฑูรย์ แจ้งว่า ได้มาระหว่างดำรงตำแหน่งกับรายได้ที่ปรากฏตาม ภ.ง.ด. ไม่สัมพันธ์กับทรัพย์สิน
ป.ป.ช.จึงเชื่อว่า เงินที่นำไปใช้ในการสร้างโรงเรือน 1 หลัง จำนวน 15,000,000 บาท เป็นทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งอายัดที่ดินต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี ให้ระงับการจำหน่ายจ่ายโอน เนื่องจากบุตรสาว นำไปวางเป็นหลักประกันปล่อยตัวชั่วคราว นายวิฑูรย์ และพวก ในคดีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเงินรายการที่ 1 จำนวน 15,000,000 บาท ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ของ นายวิฑูรย์ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรงจสอบพบล่าสุด
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
