
"...โจทก์ไม่ติดใจให้จำเลยโอนสิทธิเงินลงทุนใน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จำนวน 119,499,000 บาท ให้แก่โจทก์อีกต่อไป และโจทก์ยอมรับว่าจำเลยเป็นผู้ซื้อหุ้นไปจากโจทก์และเป็นผู้มีสิทธิ์ในการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จำนวน 119,499,000 บาท โดยเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ และจำเลยยังคงเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น..."
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ราย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2566 (ประกาศเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติม) โดยเป็นการยื่นหนังสือขอปรับปรุงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้เป็นปัจจุบันพร้อมเอกสารประกอบ 268 แผ่น โดยมีสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 รายการ ได้แก่ 1.คำพิพากษาประนีประนอมยอมความ 1 ชุด 2.สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร 2 ฉบับ 3.บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2568 2 ชุด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบรายละเอียดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 1 ความแพ่ง ประนีประนอมยอมความ ที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยื่นต่อ ป.ป.ช.เพิ่มเติม พบว่า เป็นการประนีประนอมยอมความระหว่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โจทก์ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ จำเลย โดยนายศักดิ์สยามไม่ติดใจให้นายศุภวัฒน์โอนสิทธิเงินลงทุนใน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จำนวน 119,499,000 บาท ให้แก่นายศักดิ์สยามอีกต่อไป และนายศุภวัฒน์ตกลงจะซื้อที่ดิน 19 แปลง จำนวน 323 ไร่ 0 งาน 373 ตร.ว. ของนายศักดิ์สยาม ราคาเฉลี่ยไร่ละ 159,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,505,267.50 บาท เป็นการตอบแทน
เอกสารประกอบ มี 2 ส่วน คือ 1.รายละเอียดสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 2. คำพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2568
มีรายละเอียดดังนี้
@ รายละเอียดสัญญาประนีประนอม
คดีดำหมายเลขที่ พ 328/2568 คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 วันที่ 5 มิ.ย. 2568 ความแพ่ง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โจทก์
นานศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ จำเลย
เรื่อง ขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
ข้อ 1 โจทก์ไม่ติดใจให้จำเลยโอนสิทธิเงินลงทุนใน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จำนวน 119,499,000 บาท ให้แก่โจทก์อีกต่อไป และโจทก์ยอมรับว่าจำเลยเป็นผู้ซื้อหุ้นไปจากโจทก์และเป็นผู้มีสิทธิ์ในการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จำนวน 119,499,000 บาท โดยเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ และจำเลยยังคงเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ซึ่งรายการจดทะเบียนของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ณ วันที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความนี้เป็นของจำเลยตามที่ได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ทุกประการ
ข้อ 2 โจทก์ยอมรับว่าโจทก์ขายหุ้นให้แก่จำเลย จำเลยจึงเป็นผู้มีสิทธิในการดำเนินธุรกิจและบริหารกิจการของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น
ข้อ 3 เพื่อเป็นการยุติข้อพิพาทกันด้วยดีและเป็นการตอบแทนที่โจทก์ให้สิทธิจำเลยตามข้อ 1-2 ดังกล่าว จำเลยตกลงจะรับซื้อที่ดินของโจทก์เป็นการตอบแทน โดยโจทก์ตกลงจะขายที่ดินทั้งหมดรวม 19 แปลงเนื้อที่ 323 ไร่ 0 งาน 373 ตร.ว. ในอำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยโจทก์ตกลงขายที่ดินทั้งหมดแก่จำเลยแบบเหมายกแปลงราคาเฉลี่ยไร่ละ 159,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,505,267.50 บาท ซึ่งโจทก์ขอรับรองว่าที่ดินทั้ง 19 แปลงปลอดภาระผูกพันหรือภาระติดพันใด ๆ ทั้งสิ้น ตลอดจนได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่และภาษีอื่นที่เกี่ยวข้องเรียยร้อยแล้ว ทั้งนี้จำเลยตกลงชำระเงินให้แก่โจทก์จนเสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 ก.ค. 2568 และโจทก์ตกลงดำเนินการจดทะเบียนนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดให้แก่จำเลยภายในวันที่ 9 ก.ค. 2568
@ พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอม
คดีหมายเลขดำ พ 328/2568 คดีหมายเลขแดง 2684/2568
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 วันที่ 16 มิ.ย. 2568
พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ คืนค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ให้จำเลนเป็นกรณีพิเศษ 7 ใน 8 ส่วน แต่มิให้เหลือน้อยกว่า 200 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากที่ส่งคืนให้เป็นพับ
@ ที่มาการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 เวลา 14.00 น. องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ สส.จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) คมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง
ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่า นายศักดิ์สยาม เป็น รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 ก่อนดำรงตำแหน่ง เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการใน หจก.บุรีเจริญฯ เมื่อ 21 มี.ค. 2558 และในปีเดียวกันเป็นหุ้นส่วนในบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ จำกัด
ต่อมาเมื่อ 6 เม.ย. 2560 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 นายศักดิ์สยาม ประสงค์เตรียมลงสมัคร สส. จึงตกลงโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ ให้แก่นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งโอนให้แก่นายศักดิ์สยาม รวม 3 งวด ได้แก่ งวดแรก 2 ส.ค. 2560 จำนวน 3 ล้านบาท งวดสอง 5 ก.ย. 2560 จำนวน 35 ล้านบาท และงวดสาม 5 ม.ค. 2560 จำนวน 49.5 ล้านบาท รวม 119.5 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อ 6 ก.พ. 2561 มีการแจ้งจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งนายศักดิ์สยามลาออกจากหุ้นส่วน และหุ้นส่วนผู้จัดการ พร้อมกับโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์ จำนวนเงิน 119.5 ล้านบาท คิดเป็น 99% ของทุนจดทะเบียน
โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายศักดิ์สยาม และนายศุภวัฒน์ ตกลงนำเงินของนายศักดิ์สยาม ทำธุรกรรมต่าง ๆ ในนามนายศุภวัฒน์ โดยขั้นตอนสุดท้ายนำเงินนั้นซื้อกองทุนต่าง ๆ ในชื่อนายศุภวัฒน์ แล้วขายกองทุนดังกล่าว ชำระค่าหุ้นแก่นายศักดิ์สยาม เช่นนี้ เงิน 119.5 ล้านบาท ยังเป็นของนายศักดิ์สยาม จึงยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยมีนายศุภวัฒน์ ครอบครองหุ้นของ หจก.บุรีเจริญ และดูแล หจก.บุรีเจริญ แทนนายศักดิ์สยาม มาโดยตลอด อันเป็นการถือหุ้นของรัฐมนตรี อยู่ในความครอบครอง หรือดูแลของบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยทางใด ๆ เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้าม มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของศักดิ์สยามจึงสิ้นสุดลงเฉพาะตัว มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า 3 มี.ค. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ศาลจึงต้องสั่งให้นายศักดิ์สยามพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของศักดิ์สยามจึงสิ้นสุดลงตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 นับแต่วันที่ 3 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียงข้างมาก วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบ มาตรา 82 นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คือวันที่ 3 มี.ค. 2566

ทั้งหมดนี่ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นหนังสือขอปรับปรุงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้เป็นปัจจุบัน ของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ต่อสำนักงานป.ป.ช. หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เนื่องจากยังถือหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่นถือว่าเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ม.187 ประกอบพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 ม.4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ม.170 วรรคหนึ่ง (5) ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
