
ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด 'นิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคูเมือง บุรีรัมย์-พวก คดีทุจริตโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน 3 กรณีรวด 'จัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมแพง - เบิกจ่ายเงินงานก่อสร้างทั้งที่ไม่ได้ดำเนินการ - ไม่ลงประกาศเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง' เผย 'อนุรักษ์ นิตย์กระโทก' ปลัดฯ - 'สมปอง คำบุดดา' ผอ.กองช่าง โดนด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นางสาวนิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคูเมือง อำเภอคูเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก คดีทุจริตโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน 3 กรณี ประกอบไปด้วย
1. กรณีจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรม โครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน ราคาสูงกว่าความเป็นจริง
2. กรณีกำหนดปริมาณงาน Pavement in - Place Recycling ในปริมาณงานอนุมัติเบิกจ่ายเงินเต็มตามสัญญา ทั้งที่ไม่ได้มีการดำเนินการก่อสร้างงาน และใช้ค่า Factor F
3. กรณีปกปิดการประมูลจ้างงานก่อสร้างโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน ไม่นำลงประกาศในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้ง 3 กรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา นางสาวนิภาพร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ,157 และมีมูลเป็นความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 แต่มูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 ขาดอายุความ ทั้ง 3 กรณี
ข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจาก นางสาวนิภาพร ยังมีข้าราชการ ที่ถูกชี้มูลความผิดด้วย 4 ราย ได้แก่ นายอนุรักษ์ นิตย์กระโทก ปลัดเทศบาลตำบลคูเมือง นายสมปอง คำบุดดา ผู้อำนวยการกองช่าง นายศุภมิตร เศรษฐมาก และนายวีรวัฒน์ คำวงศ์
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งสำนวนไต่สวน เอกสารหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยผู้ถูกกล่าวหาด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และมีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
