เผยเบื้องหลังมติ ป.ป.ช. ชี้มูล 'นิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์' อดีตนายกเทศฯ คูเมือง -พวก คดีทุจริตโครงการวัฒนธรรมขอมแหล่งไม้กลายเป็นหิน กรณีจ้างติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรม สอบพบจัดซื้อแพงเกินจริงต้นละ 130,070 บาท 118 ต้น ราชการเสียหาย 15,348,260 บาท
จากกรณีปรากฏข่าวที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นางสาวนิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคูเมือง อำเภอคูเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก คดีทุจริตโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน 3 กรณี ประกอบไปด้วย
1. กรณีจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรม โครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน ราคาสูงกว่าความเป็นจริง
2. กรณีกำหนดปริมาณงาน Pavement in - Place Recycling ในปริมาณงานอนุมัติเบิกจ่ายเงินเต็มตามสัญญา ทั้งที่ไม่ได้มีการดำเนินการก่อสร้างงาน และใช้ค่า Factor F
3. กรณีปกปิดการประมูลจ้างงานก่อสร้างโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน ไม่นำลงประกาศในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูลกรณีจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรม โครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้กลายเป็นหิน ราคาสูงกว่าความเป็นจริง พบว่ามีการระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดว่า มีการจัดซื้อติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมราคาสูงกว่าความเป็นจริงต้นละ 130,070 บาท จำนวน 118 ต้น รวมเป็นเงินจำนวน 15,348,260 บาท ทำให้ราชการเสียหาย
รายงานข่าวแจ้งว่า จุดเริ่มต้นคดีนี้ เกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2552 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีหนังสือแจ้งเทศบาลตำบลคูเมืองว่าได้เห็นชอบให้เทศบาลตำบลคูเมืองเป็นผู้ดำเนินโครงการสืบสานวัฒนธรรมขอมโบราณแหล่งไม้ลายเป็นหิน วงเงินงบประมาณ จำนวน 59,960,600 บาท ในวันเดียวกันนายอนุรักษ์ นิตย์กระโทก ปลัดเทศบาลตำบลคูเมืองในขณะนั้น ในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุ ได้ทำรายงานขอจัดซื้อจ้างเสนอ นางสาวนิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์ ซึ่งได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบ พร้อมลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดหาพัสดุ
โดยโครงการดังกล่าวคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ประกอบด้วย นายอนุรักษ์ นิตย์กระโทก นายสมปอง คำบุดดา ผู้อำนวยการกองช่าง และนายศุภมิตร เศรษฐมาก นายช่างโยธา ได้ประมาณการราคากลาง เป็นเงินจำนวน 59,960,000 บาท ซึ่งผลการเสนอราคาปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) นิมมานรตี 2552 เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ที่ราคา 59,930,000 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 3 หมื่น) และได้เป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลคูเมือง
ต่อมา หลังจากเทศบาลดำบลคูเมืองได้ตรวจรับงานจ้างและเบิกจ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้าง สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 นครราชสีมา ได้ทำการตรวจสอบสืบสวน พบว่าโครงการดังกล่าวมีข้อบกพร่องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าทุจริตหรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบจำนวนหลายประเด็น โดยเฉพาะในส่วนของการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริงต้นละ 130,070 บาท จำนวน 118 ต้น รวมเป็นเงินจำนวน 15,348,260 บาท
ข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีนี้ ระบุว่า นางสาวนิภาพร เลี้ยงผ่อง พันธุ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ,157 และมีมูลเป็นความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 แต่มูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 ขาดอายุความแล้ว
ส่วน นายอนุรักษ์ นิตย์กระโทก นายสมปอง คำบุดดา นายศุภมิตร เศรษฐมาก มีความผิดทางอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ขณะที่มูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 ขาดอายุความแล้ว เช่นกัน
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งสำนวนไต่สวน เอกสารหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยผู้ถูกกล่าวหาด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และมีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
หมายเหตุ ภาพประกอบข่าวจาก Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคอีสาน
