
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'นิรัตน์ นราฤทธิพันธ์' อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสุไหงโก-ลก นราธิวาส ยักยอกเงินบริจาค ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายนิรัตน์ นราฤทธิพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพิ้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ยักยอกเงินบริจาคของโรงเรียนสุไหงโก-ลก ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157 ตามพ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 ตามมาตรา 172 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า นายนิรัตน์ นราฤทธิพันธ์ จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 147 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ. มาตรา 90
จำคุก 5 ปี
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยมีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

