เปิดชัดๆ พฤติการณ์ทุจริตซื้อกล้าไม้อุทยานฯชุมพรระดมเงินจ่าย 'รัชฎา' แลกไม่โยกย้ายตำแหน่ง

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 14:49 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

2073 views

picpppcfgsdwewesddssdsddsdssd14 7 68

"...นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ได้เรียกรับเงินในงานจ้างบำรุงป่ายเลนและผู้ขายกล้าไม้จาก นางอิงอร แสงแก้ว และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ร่มโกงกาง เพื่อนำไปจ่ายให้กับนายจงรัก ภูไพบูลย์ นักวิชาการป่าไม้พิเศษ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเรียกรับเงินจากการใช้หรือเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์จาก นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ต่ออีกทอดเงิน ก่อนที่เงินดังกล่าวจะถูกนำมาส่งมอบให้นายรัชฎา..."

กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คดีที่ 2 ซึ่งเป็นกรณีกล่าวหาทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ เชื่อมโยงกับกรณีทุจริตจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน จำนวน 161,700 กล้า ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 ผู้ซื้อ กับเอกชน ผู้ขาย ตามข้อตกลงซื้อขายเลขที่ 4/2564 ลงวันที่ 26 เมษายน 2565

ภายหลัง ป.ป.ช.ขยายผลติดตามตรวจสอบข้อมูลเส้นทางเงินของกลางที่พบในห้องทำงานของนายรัชฎา ในวันที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม พบว่า เงินจำนวนหลักแสนบาท ที่ นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร นำมามอบให้นายรัชฎาถูกโอนต่อมาจากเอกชนคู่สัญญา เพื่อไม่ให้มีคำสั่งย้ายตนเองออกจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เป็นเงินที่ได้จากการทุจริตโครงการจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน โดยไม่มีการส่งมอบกล้าไม้ป่าชายเลนตามที่ตกลงซื้อขายแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า โครงการจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลนดังกล่าว เกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2565 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้จัดซื้อกล้าไม้ป่าชายเลน กับห้างหุ้นส่วนจำกัดร่มโกงกาง ผู้ขาย ตามข้อตกลงซื้อขายเลขที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 เป็นเงิน 485,100 บาท จำนวน 5 โครงการ ได้แก่

- โครงการปลูกป่าประชาอาสา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เนื้อที่ 400 ไร่

- โครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบบนิเวศและลดภาวะโลกร้อน ประจำปี 2560 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เนื้อที่ 200 ไร่

- โครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและลดภาวะโลกร้อน ประจำปี 2561 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เนื้อที่ 275 ไร่

- โครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและลดภาวะโลกร้อน ประจำปี 2562 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เนื้อที่ 180 ไร่

- โครงการปลูกป่า กฟผ. "เราทำความดีด้วยหัวใจ ปลูกปาชายเลนเทิดไท้องค์ราชัน" ในพื้นพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ปี 2561 เนื้อที่ 100 ไร่

picppcrararcadadadad11 7 68

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า คดีนี้แบ่งข้อกล่าวหาออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นกรณีกล่าวหาทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ และ ส่วนสอง เป็นกรณีกล่าวหาทุจริตจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน ซึ่งทั้ง 2 กรณี มีผู้ถูกกล่าวหากลุ่มเดียวกัน และมีพฤติการณ์เชื่อมโยงกัน

สำหรับข้อมูลแรก จะขอนำเสนอรายละเอียดในส่วนพฤติการณ์การกระทำความผิดของ ผู้เกี่ยวข้องกรณีทุจริตจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลนก่อน เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในคดีนี้

โดยข้อมูลส่วนนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ติดตามขยายผลตรวจสอบเส้นทางเงินจำนวนหลายแสนบาท ที่ถูกตรวจสอบพบในห้องทำงานของ นายรัชฎา พบว่า เป็นเงินที่ได้จากการทุจริตโครงการจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน ของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า การทุจริตโครงการจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน มีการทุจริตเกิดขึ้นใน 2 ส่วน คือ

1. ส่วนงานจ้างบำรุงปาชายเลน จากการตรวจสอบไต่สวนข้อมูลผู้เกี่ยวข้องพบว่า นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข เจ้าหน้าที่ป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ติดต่อตกลงกับ นางสาวฉันทนา รำเพยพัด และ นางอิงอร แสงแก้ว ซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบการที่มีอาชีพรับรับจ้างปลูกป่าหรือบำรุงป่าชายเลน ให้เข้าเสนอราคาและเป็นคู่สัญญา โดยไม่มีการทำงานบำรุงป่าชายเลนที่รับจ้างแต่อย่างใด

ขณะที่นายกีรติ เพชรทอง นายอดิเทพ นพมาศ นายนิสิต ตระการภาสกุล เป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ นางสาวปิยรัตน์ ฤทธิไกร เจ้าหน้าที่พัสดุ และนางเยาวลักษณ์ สุวรรณคง หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ.เป็นผู้จัดทำเอกสารรายงานขอซือขอจ้าง และรายงานผลการพิจารณาและขออนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้าง

2. ส่วนงานจัดซื้อกล้าไม้ป่าชายเลนเพื่อใช้บำรุงป่าชายเลน จากการตรวจสอบไต่สวนข้อมูลผู้เกี่ยวข้องพบว่า นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ติดต่อตกลงกับนายจิรยุทธ์ รัตนดิลก เจ้าของและหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ร่มโกงกาง ซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายกล้าไม้และมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จตทะเบียนในการประกอบกิจการซื้อขายต้นไม้หรือกล้าไม้ เข้าเป็นคู่สัญญาผู้ขายกล้าไม้บำชายเลน โดยไม่ได้จัดหาและส่งมอบกล้าไม้แต่อย่างใด

โดยมีนายพัฒพงค์ หรือพัฒพงศ์ มนต์นิมิต นายประสงค์ สันติวิมล นายบุญลือ นาคเพ่งพิศ เป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ นางสาวปิยรัตน์ ฤทธิไกร นางเยาวลักษณ์ สุวรรณคง เป็นผู้จัดทำเอกสารรายงานขอซื้อขอจ้าง และรายงานผลการพิจารณาและขออนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้าง

จากนั้น นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ได้เรียกรับเงินในงานจ้างบำรุงป่ายเลนและผู้ขายกล้าไม้จาก นางอิงอร แสงแก้ว และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ร่มโกงกาง เพื่อนำไปจ่ายให้กับนายจงรัก ภูไพบูลย์ นักวิชาการป่าไม้พิเศษ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเรียกรับเงินจากการใช้หรือเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์จาก นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ต่ออีกทอดเงิน ก่อนที่เงินดังกล่าวจะถูกนำมาส่งมอบให้นายรัชฎา (ดูข้อมูลในอินโฟประกอบ)

picpppcinnnfooooooo14 7 68

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้เกี่ยวข้องทุกราย ในกระบวนการจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน ข้างต้น ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดด้วยทั้งหมด

ส่วนเส้นทางเงินทุจริตจัดซื้อกล้าไม้ปาชายเลน ก่อนที่จะเดินทางมาถึงห้องทำงาน นายรัชฎา มีรายละเอียดเป็นอย่างไร

ป.ป.ช.มีหลักฐานสำคัญอะไรที่ใช้ในการยืนยันข้อมูลส่วนนี้

เนื่องจากมีรายละเอียดที่ค่อนข้างซับซ้อน สำนักข่าวอิศรา ขอรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนก่อนแล้ว จะมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในตอนถัดไป

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด นายรัชฎา นายสุวรรณเนาว์ และผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินคดี

atibdifn

อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

ศูนย์ข่าวสืบสวน

เปิดชัดๆ พฤติการณ์ทุจริตซื้อกล้าไม้อุทยานฯชุมพรระดมเงินจ่าย 'รัชฎา' แลกไม่โยกย้ายตำแหน่ง