
"...จากการตรวจสอบพบว่าการไปศึกษาดูงานครั้งนี้มีเพียงที่ไปจีนเท่านั้น ที่ได้ดูงานอันเกี่ยวกับภารกิจของมหาวิทยาลัย เพราะได้ไปดูงานด้านการบริหารและการจัดการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเสฉวน แต่สำหรับการไปดูงานตามโครงการในเยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 21-28 มีนาคม 2557 เป็นเพียงการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศดังกล่าว รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเป็นการท่องเที่ยวตามกำหนดการเดินทางในหัวข้อ “ยุโรปเมืองโรแมนติกในฝัน”..."
รองศาสตราจารย์ประพันธ์ ธรรมไชย จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 การกระทำเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 151 (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 5 ปี
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
นายถนัด บุญชัย จำเลยที่ 2 มีความผิดตามป.อ. มาตรา 157 (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 การกระทำเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม จำคุก 1 ปี 6 เดือน
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี
คือ บทสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่พิพากษาตัดสินลงโทษ รองศาสตราจารย์ประพันธ์ ธรรมไชย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่กับพวก คือ นายถนัด บุญชัย รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในขณะนั้น ดำเนินโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 17 - 29 มีนาคม 2557 โดยมีเจตนาพาคณะร่วมเดินทางไปท่องเที่ยว ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สมาพันธรัฐสวิส และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตามโปรแกรมการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566
ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวไปแล้ว

เกี่ยวกับคดีนี้ หากสาธารณชนยังจำกันได้ ในช่วงปี 2560 สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอข่าวใหญ่ในแวดวงการศึกษาไทย กรณีเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ได้มีการพิจารณาผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับการโครงการไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ของ กรรมการสภามหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ จำนวน 40 คน ในช่วงวันที่ 17-29 มี.ค. 2557 กำหนดเดินทางไปดูงานที่ จีน เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส 4 ประเทศ รวมระยะเวลา 13 วัน ใช้เงินจำนวนทั้งสิ้น 6,040,487.13 บาท
โดย สตง.ตรวจสอบพบว่า การศึกษาดูงานในส่วนของจีน จำนวน 4 วัน มีการศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศเสฉวนครึ่งวัน ส่วนการศึกษาดูงานอีก 3 ประเทศ ที่เหลือรวม 9 วัน เป็นการเยี่ยมชมและท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญภายใต้หัวข้อ "ยุโรปเมืองโรแมนติกในฝัน" เท่านั้น ไม่ได้มีการศึกษาดูงานการบริหารและการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศดังกล่าว ตามที่ระบุไว้ในโครงการศึกษาดูงานที่มีการของบประมาณแผ่นดินไว้แต่อย่างใด
เบื้องต้น ที่ประชุม คตง. มีมติเห็นว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ของ กรรมการสภามหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ในส่วนของประเทศจีน เป็นการศึกษาดูงานที่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบ แต่ในส่วนการเดินทางไปศึกษาดูงานที่เยอรมนี สวิตเชอร์แลนด์ และฝรั่งเศส จำนวน 9 วัน เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาดูงานการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่ระบุไว้โครงการศึกษาดูงานที่มีการของบประมาณแผ่นดินไว้ เป็นเพียงการเยี่ยมชม และท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญเท่านั้น
ขณะที่อธิการบดี ซึ่งเป็นผู้อนุมัติโครงการและรองอธิการบดีซึ่งเป็นผู้ขออนุมัติโครงการและร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งสองคน จึงมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงและต้องรับผิดทางละเมิดคืนเงินแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ด้วย

@ จุดเริ่มต้นชำแหละ ทัวร์ถลุงงบ6ล. อธิการฯ รับไม่มีดูงาน ม.ยุโรป
สำหรับจุดเริ่มต้นการตรวจสอบโครงการฯ สตง.ตรวจสอบพบว่า มรภ.เชียงใหม่ ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อใช้สำหรับโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศของสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 17-29 มี.ค.2557 นั้นเบิกจ่ายจากเงินรายได้จำนวน 6,800,000 บาท
โครงการดังกล่าวได้กำหนดขอบเขตของหลักการและเหตุผล รวมทั้งวัตถุประสงค์และการใช้จ่ายเงินรายได้ที่เป็นไปตามนัยมาตรา 7 และมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 โดยคณะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อศึกษาดูงานด้านการบริหารและการจัดการศึกษา ณ จีน ที่มหาวิทยาลัยเสฉวน และศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ณ เยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส



อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าการไปศึกษาดูงานครั้งนี้มีเพียงที่ไปจีนเท่านั้น ที่ได้ดูงานอันเกี่ยวกับภารกิจของมหาวิทยาลัย เพราะได้ไปดูงานด้านการบริหารและการจัดการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเสฉวน
แต่สำหรับการไปดูงานตามโครงการในเยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 21-28 มีนาคม 2557 เป็นเพียงการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศดังกล่าว รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเป็นการท่องเที่ยวตามกำหนดการเดินทางในหัวข้อ “ยุโรปเมืองโรแมนติกในฝัน” ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.)พี.ดี.เอ็กซ์เพรส เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการนำเที่ยวจัดให้คณะผู้เดินทาง
@ คำชี้แจงผู้เกี่ยวข้อง
จากการสอบถ้อยคำ กรรมการสภามหาวิทยาลัยหลายรายที่ร่วมเดินทางไปด้วย ต่างๆให้ถ้อยคำว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นการเดินทางไปตามกำหนดการที่ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรส เชียงใหม่ จัดให้ (อ่านประกอบ : เปิดตัวหจก.ฯนำมรภ.เชียงใหม่ตะลอนยุโรป ยันทำธุรกิจปกติ-เคยพาทัวร์อียิปต์ปี53)
ขณะที่ รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดีฯ ในขณะนั้น ให้ถ้อยคำว่า ก่อนจะมีการเดินทางไปศึกษาดูงาน ที่เยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส ผู้เกี่ยวข้องได้มีการพูดคุยกันว่าจะไปดูงาน ณ สถานที่ใดบ้าง แต่ทางมหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้มีการติดต่อและหรือ ประสานงานเพื่อศึกษาดูงานกับสถานที่นั้น ๆ เหมือนที่ไปมหาวิทยาลัยเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประกอบกับในรายงานการศึกษาดูงาน ต่างประเทศ ด้านการบริหารและการจัดการศึกษา ณ สถาบันอุดมศึกษาในประเทศ จีน และยุโรป ระหว่างวันที่ 17 -29 มี.ค.2557 นั้น ไม่ได้สรุปผลที่ได้รับจากการไปศึกษาดูงานทางด้านการจัดการศึกษาหรือ ทางวิชาการในประเทศทางโซนยุโรปที่ไปมาอย่างชัดเจนแต่อย่างใด มีเพียงแต่การบรรยายสภาพบ้านเมือง สถานที่ที่ได้ไปเยี่ยมชม และสภาพทางวัตถุธรรมเท่านั้น ประกอบกับมีเพียงภาพถ่ายการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสิ้น
ขณะที่ นายถนัด รองอธิการบดี ผู้รับผิดชอบโครงการในขณะนั้น (ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรักษาราชการแทนอธิการบดี) ชี้แจ้งว่า สาเหตุที่ไม่ได้มีการประงานกับสถาบันอุดมศึกษา ที่เยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส ดังเช่น การไปศึกษาดูงานที่ จีน เนื่องจากการเดินทางไปในประเทศทางโซนยุโรป นั้น เป็นการไปศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในเมืองต่างๆ รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ซึ่งถ้อยคำของนายถนัด สอดคล้องกับถ้อยคำของ ผศ.ดร.รายหนึ่ง ผู้ได้รับหมายหมายให้ติดต่อกับมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศเสฉวน เพราะเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษาระหว่างกัน แต่มรภ.เชียงใหม่ ไม่ได้มีการทำข้อตกลงความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษาระหว่างกันกับสถาบันการศึกษาในเยอรมัน สวิส และฝรั่งเศส จึงไม่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งในยุโรป จะมีฮังการี และสวีเดนเท่านั้น ที่ มรก.เชียงใหม่ ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษาระหว่างกัน
@ พบเลี่ยงจัดจ้าง-ใช้วิธียืมเงินม.โอนเข้าบัญชีบ.ทัวร์
ในรายงานการตรวจสอบของ สตง. ยังมีการระบุว่า การจัดโครงการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศครั้งนี้ ของ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ผู้เกี่ยวข้องได้นำเงินงบประมาณตามโครงการไปมอบให้กับผู้บริหารของหจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ โดยตรง
กล่าวคือ ตั้งแต่เดือนธ.ค.2556-ก.พ.2557 มีการยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการเดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 3 ครั้ง และเมื่อได้รับอนุมัติเงินยืมในแต่ละครั้งแล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ ผู้บริหาร หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ และบัญชีของ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ ต่อ
โดยแยกเป็นการยืมเงินครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ของ นายถนัด บุญชัย รองอธิการบดี ได้มีการโอนเงิน จำนวน 420,000 บาท และ 3,000,000 บาท ตามลำดับ เข้าบัญชีธนาคารของ ผู้บริหาร หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ และในการยืมเงินครั้งที่ 2 ของนางประไพ ปรีชา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ได้มีการโอนเงิน จำนวน 2,566,300 บาท เข้าบัญชีธนาคารของหจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่
ขณะที่สตง.ระบุว่า การยืมเงินครั้งนี้ ได้รับการอนุมัติจาก รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดี และมีการจัดทำเอกสารใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในต่างประเทศ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 การเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง จำนวนเงิน 1,185,600 บาท ค่าเช่าที่พักจำนวนเงิน 1,975,398 บาท และค่าพาหนะ (ตั๋วเครื่องบิน) จำนวนเงิน 2,602,810 บาท รวมเป็นเงิน 5,763,808.13 บาท ด้วย
ขณะที่ นายถนัด บุญชัย รองอธิการบดี ในขณะนั้น ได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่มีการจัดหาผู้รับจ้างตามระเบียบพัสดุ ว่า เพราะที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย เคยทำโดยวิธีนี้มาตลอด และชี้แจงว่า นอกจากการติดต่อกับ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่แล้ว ยังได้ศึกษาข้อมูลทางด้านราคาค่าใช้จ่าย โปรแกรมการเดินทาง ทั้งที่จีน และทางยุโรป ทางเว็บไซต์ของบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อให้มีข้อมูลสำหรับเปรียบเทียบด้านราคา
ส่วนเหตุที่เลือก หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ เนื่องจากมหาวิทยาลัย เคยใช้บริการพาไปศึกษาดูงานในต่างประเทศเมื่อปี 2555 แล้วเกิดความประทับใจในการบริการ
ขณะที่ในขั้นตอนการสอบสวนของสตง. มีการเชิญผู้บริหารบริษัททัวร์รายหนึ่ง มาให้ถ้อยคำ โดยผู้บริหารบริษัททัวร์รายนี้ ยืนยันว่า นายถนัด บุญชัย เคยโทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อขอทราบราคาค่าใช้จ่ายของการเดินทางไปจีน และประเทศต่างๆ ในโซนยุโรปจริง
โดยบริษัทเสนอราคาค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละประมาณ 120,000-130,000 บาท แต่ไม่ได้รับการว่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม สตง. มีความเห็นว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 เพื่อใช้สำหรับโครงการศึกษาดูงานครั้งนี้ไว้เป็นที่ชัดเจนแล้ว คือ 6,800,000 บาท หากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ โดยผู้เกี่ยวข้องมีความประสงค์จะจัดจ้างเอกชนเข้ามาจัดทัวร์ให้ จะต้องดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบอย่างเคร่งครัด
แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่าไม่มีการดำเนินการจัดจ้างบริษัททัวร์ ให้ถูกต้องตามระเบียบพัสดุ
โดยรศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดี ได้อนุมัติเงินยืมของ นายถนัด และนางประไพ เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ
แต่เมื่อได้รับเงินยืมแล้ว มีการนำเงินฝากเข้าบัญชีบัญชีผู้บริหาร หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ และบัญชีของ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่
ขณะที่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ที่ร่วมเดินทางไปด้วย ยืนยันถ้อยคำตรงกันว่า หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ เป็นผู้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางให้ ร่วมถึงการพาไปทำวีซ่า จัดมัคคุเทศก์ มานำเที่ยว พาไปรับประทานอาหาร ไปโรงแรม ด้วย ประกอบกับภาพถ่ายของคณะที่ร่วมเดินทางไปก็มีกระเป๋าเดินทางใบเล็กสีน้ำเงินที่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์และเบอร์โทรศัพท์ ของหจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ไว้ ชี้ให้เห็นว่า หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ เป็นผู้รับผิดชอบนำคณะเดินทางไปศึกษาดูงานครั้งนี้จริง
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจัดทัวร์เดินทางไปต่างประเทศของบริษัททัวร์อีกราย ที่ นายถนัด ชี้แจงว่า ได้สอบถามราคาเพื่อเปรียบเทียบกัน อยู่ในอัตราคนละประมาณ 120,000-130,000 บาท ถูกกว่า ค่าใช้จ่ายจริงที่ดำเนินการ โดย หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ คือ คนละประมาณ 151,679 บาท
สตง. จึงมีความเห็นว่า พฤติการณ์ของ รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดี และนายถนัด บุญชัย มีเจตนาที่จะจัดจ้าง หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ เพื่อให้เข้ามารับงานจัดทัวร์ครั้งนี้ และหลีกเลี่ยงวิธีการจัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และน่าเชื่อว่ากระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับทางราชการ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

@ อธิการฯรู้ใช้วิธียืมเงิน-เซ็นอนุมัติให้!
ในรายงานการตรวจสอบ สตง. ยังระบุถึงการตรวจสอบการยืมเงินในครั้งที่ 1 กรณีของ นายถนัด บุญชัย เพื่อเป็นค่ามัดจำเดินทางไปราชการ (เดินทางไปดูงานต่างประเทศ) จำนวน 420,000 บาท และกรณีของนางประไพ ปรีชา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวน 200,000 บาท นั้น ยังมิได้มีการส่งใช้คืนเงินยืมแต่อย่างใด ซึ่งหากบุคคลทั้ง 2 จะขอยืมเงินในครั้งใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ต้องไม่อนุมัติให้มีการยืมเงินตามระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ว่าด้วยการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการเบิกจ่ายเงินรายได้ พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 70 ที่กำหนดห้ามมิให้อนุมัติให้ยืมเงินรายใหม่ ในเมื่อผู้ยืมมิได้ชำระคืนเงินยืมรายเก่า ให้เสร็จสิ้นไปก่อน
ต่อมาพบว่า บุคคลทั้งสอง ได้ขอยืมเงินในครั้งที่ 2 คือ กรณีของนายถนัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวนเงิน 3,420,000 บาท และกรณีของนางประไพ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จำนวน 6,186,300 บาท แต่นางวัฒนา อุตมา นักวิชาการเงินและบัญชี ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีหนี้เก่าค้างจ่าย และ รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ได้เป็นผู้อนุมัติให้บุคคลทั้งสอง ยืมเงินจำนวนดังกล่าว ทั้งที่ นายถนัด และนางประไพ ยังมิได้ส่งใช้คืนเงินยืมครั้งที่ 1 เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการอนุมัติให้ยืมเงินรายใหม่ในเมื่อผู้ยืมมิได้ชำระคืนเงินยืมรายเก่าให้เสร็จสิ้นไปก่อน ซึ่ง รศ.ดร.ประพันธ์ ได้ยอมรับว่า ตนทราบว่า นายถนัด ได้ยืมเงินตามสัญญายืม จำนวน 420,000 บาท และ 3,420,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการ และทราบว่านางประไพ ได้ยืมเงินตามสัญญายืม จำนวน 6,186,300 บาท เพื่อนำไปหักล้างเงินยืมของ นายถนัด และเพื่อนำไปจ่ายให้แก่ หจก.หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่
สตง.ยังระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่านางวัฒนา อุตมา นักวิชาการเงินและบัญชี ได้ยอมรับว่าการปฏิบัติดังกล่าว อาจจะไม่เป็นไปตามระเบียบ แต่กลับอ้างว่าเพื่อต้องการให้บุคคลทั้งสอง ไม่เป็นลูกหนี้เก่าค้างชำระ (ลูกหนี้ซ้อน) และสามารถยืมเงินในครั้งใหม่ได้ ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าการยืมเงินและการส่งใช้คืนเงินยืมไม่ต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ส่วนนางสาวชมพูนุช เธียรสุภรพงษ์ ผู้อำนวยการกองคลัง (ในขณะนั้น) ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบสัญญาการยืมเงินโดยตรง แต่จะมีหน้าที่ลงนามในเช็คจ่ายเงินยืม ตามที่ได้รับอนุมัติ จึงน่าเชื่อว่า นางวัฒนา และรศ.ดร.ประพันธ์ ได้รับทราบแล้วว่า การปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบ
นอกจากนี้ ยังพบว่า มหาวิทยาลัย ได้ออกเช็คจำนวนเงิน 420,000 บาท ระบุว่าจ่าย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สำหรับการยืมเงินในครั้งที่ 2 ของนายถนัด และมีการนำเช็คฉบับดังกล่าว มาส่งใช้คืนเงินยืมในครั้งที่ 1 ของนายถนัด จำนวนเงิน 420,000 บาท และกรณีมหาวิทยาลัย ได้ออกเช็คจำนวน 3,620,000 บาท ระบุว่าจ่าย มรภ.เชียงใหม่ ตามสัญญายืมในครั้งที่ 2 ของ นางประไพ และมีการนำเช็คฉบับดังกล่ามาส่งใช้คืนเงินยืมในครั้งที่ 2 ของนายถนัด จำนวน 3,420,000 บาท และในครั้งที่ 2 ของนางประไพ จำนวน 200,000 บาท เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการนำเช็คเงินยืมที่ออกโดย มรภ.เชียงใหม่ดังกล่าว มาส่งใช้คืนเงินยืมของบุคคลทั้งสอง ไม่ถือว่าเป็นการที่ผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายเพื่อประกอบการส่งใช้คืนเงินยืม
เบื้องต้น สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า รศ.ดร.ประพัน์ นายถนัด นางประไพ ในฐานะผู้อนุมัติเงินยืมแลผู้ยืม กรณีส่งใช้คืนเงินยืมโดยไม่มีหลักฐานการจ่าย และการยืมเงินครั้งใหม่ เพื่อส่งใช้เงินยืมครั้งก่อน และนางวัฒนา อุตมา ในฐานผู้ตรวจสอบว่าไม่มีเงินยืมคงค้าง ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มรภ.เชียงใหม่ ว่าด้วยการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการเบิกจ่ายเงินรายได้ พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 66 วรรคแรก ประกอบระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ข้อ 60
นอกจากนี้ จากพฤติการณ์การยืมเงินและส่งใช้คืนเงินยืมที่ไม่ปฎิบัติตามระเบียบดังกล่าวนั้น น่าเชื่อว่า รศ.ดร.ประพันธ์ นายถนัด และนาวประไพ มีเจตนาร่วมกันที่จะนำเงินรายได้ของ มรภ.เชียงใหม่ตามโครงการไปให้ หจก.พี.ดี.เอ็กซ์เพรสเชียงใหม่ โดยไม่มีกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการที่เกี่ยวข้องรองรับให้กระทำได้ และมีเจตนาฝ่าฝืนระเบียบที่บังคับใช้โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัย

******************
จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่ง ป.ป.ช.ได้เผยแพร่สรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ตัดสินลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน รองศาสตราจารย์ประพันธ์ ธรรมไชย ส่วน นายถนัด บุญชัย โดนโทษจำคุก 1 ปี ตามที่ปรากฏข่าวไปแล้ว
ส่วนผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ ไม่ได้ปรากฏชื่อเป็นจำเลยด้วยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า รองศาสตราจารย์ประพันธ์ ธรรมไชย และ นายถนัด สองจำเลย ในคดีนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีหรือไม่
แต่ไม่ว่าผลการต่อสู้คดีชั้นศาลสูง จะออกมาเป็นอย่างไร
คดีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาบทเรียนให้กับผู้บริหารสถาบันการศึกษา ไม่ให้กระทำความผิด เดินย้ำซ้ำรอยเดียวกันทั้งในปัจจุบันและอนาคตสืบไป ได้อย่างชัดเจนอีกหนึ่งกรณี
อ่านประกอบ:
- คตง. เชือด 'อธิการฯ-รอง' มรภ.เชียงใหม่ พาผู้บริหารทัวร์ตปท.ปี57 ไม่ชอบด้วยกม.
- สกอ.ไฟเขียวตั้งกก.สอบมรภ.เชียงใหม่ ถลุงงบทัวร์ยุโรป6ล.-สตง.ปัดถูกวิ่งเต้นดองเรื่อง
- โชว์กำหนดการทัวร์ตปท. มรภ.เชียงใหม่ ถลุงงบ 6ล. ชนวนเหตุคตง.เชือด'อธิการฯ-รอง'
- โชว์ภาพชุดตะลอนยุโรป มรภ.เชียงใหม่! ปูด รรก.อธิการฯ ผู้ติดต่อหาบ.ทัวร์
- เปิดตัวหจก.ฯนำมรภ.เชียงใหม่ตะลอนยุโรป ยันทำธุรกิจปกติ-เคยพาทัวร์อียิปต์ปี53
- เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ ทัวร์ถลุงงบ6ล.(1)อธิการฯ รับไม่มีดูงาน ม.ยุโรป
- เลี่ยงจัดจ้าง-ใช้วิธียืมเงินม.โอนเข้าบัญชีบ.ทัวร์!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่(2)
- อธิการฯรู้ใช้วิธียืมเงิน-เซ็นอนุมัติให้!เปิดผลสอบมรภ.เชียงใหม่ทัวร์ยุโรป(3)
- 4ปีชงเรื่องเข้าสภาฯครั้งเดียว! รษก.นายกสภาฯมรภ.เชียงใหม่ ให้ถามอธิการฯปมชี้มูลจัดทัวร์ยุโรป
- ฉบับเต็ม! หนังสือ สกอ. โนติส มรภ.เชียงใหม่ ลงดาบ 5 ผู้บริหารจัดทัวร์ยุโรปถลุงงบ 6 ล.
- สกอ. จี้ มรภ.เชียงใหม่ ลงดาบผู้บริหารจัดทัวร์ยุโรป6ล. หลังสรุปผลสอบไม่พบผิดสวนทาง สตง.
- ผ่าปมร้อนมรภ.เชียงใหม่! ไฉนยื้อลงดาบผู้บริหารจัดทัวร์ยุโรป-แต่ไล่ล่าคนปล่อย นส.ลับ'สกอ.'
