
ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูล 'สุนี ปูนกลาง' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง - พวก รวมเอกชน ทุจริตจัดซื้อรถบรรทุกเทท้ายติดตั้งเครนโฮดรอลิกพร้อมกระเช้าไฟฟ้า ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว-ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา แถลงผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนหลายคดี

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา ดังกล่าว
มีกรณีกล่าวหา นางสาวสุนี ปูนกลาง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ทุจริตการจัดซื้อรถบรรทุกเทท้ายติดตั้งเครนโฮดรอลิกพร้อมกระเช้าไฟฟ้า (รถกระเช้า) ตามสัญญาเลขที่ 9/2553 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ร่วมอยู่ด้วย
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นางสาวสุนี ปูนกลาง นายกเทศมนตรีตำบลใหม่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เป็นผู้เสนอโครงการจัดซื้อรถกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งมีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลใหม่ได้ทักท้วงแล้วว่ายังไม่มีความจำเป็น ควรนำเงินมาดำเนินการพัฒนาถนนจะเหมาะสมกว่า แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ก็ยังคงดำเนินการจัดซื้อรถกระเช้าไฟฟ้าต่อไป โดยมีนายธีระพงษ์ ปราบสกุล หัวหน้ากองช่างผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้เป็นผู้กำหนดประมาณราคา และกำหนดคุณลักษณะของรถกระเช้าไฟฟ้าว่าต้องมีการทดสอบและรับรองว่าเครนและกระเช้าไฟเบอร์กลาส สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 6.5 KV 50 HZ จากหน่วยงานของรัฐ โดยไม่ปรากฏว่ามีการสืบหาราคาและคุณลักษณะแต่อย่างใด
ต่อมานางศกวรรณ นวลฉวี เจ้าหน้าที่พัสดุ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ได้ขออนุมัติจัดซื้อรถกระเช้าไฟฟ้าโดยวิธีสอบราคา โดยนำเอกสารรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและราคาของรถกระเช้าไฟฟ้าที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้จัดทำขึ้น โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ลงนามอนุมัติให้ดำเนินการ ทั้งที่ไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะและราคากลางแต่อย่างใด ในขั้นตอนการประกาศสอบราคาจัดซื้อรถกระเช้าไฟฟ้าในวันที่ 29 มีนาคม 2553 นั้นก็ไม่ได้มีการประกาศสอบราคาในระบบ e-GP ของกรมบัญชีกลาง
ทั้งที่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันคือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เทศบาลตำบลใหม่ได้มีการประกาศสอบราคาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลใหม่ ในระบบ e-GP ของกรมบัญชีกลาง
โดยนายธีระพงษ์ ปราบสกุล หัวหน้ากองช่าง ผู้ถูกกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้ทำข้อมูล นางสาวสุนี ปูนกลาง นายกเทศมนตรีตำบลใหม่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นผู้อนุมัติ และนางศกวรรณ นวลฉวี เจ้าหน้าที่พัสดุผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นผู้ทำสำเนา อีกทั้งในการส่งจดหมายเชิญชวนผู้ประกอบการให้มาเสนอราคานั้นพบว่าบริษัท ทรัพย์รุ่งโรจน์ซัพพลาย จำกัด บริษัท เฟริสท์ อินโนเวชั่น จำกัด และบริษัท จี.ที. ทรัค แอนด์บัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีเจ้าของเป็นเครือญาติเดียวกัน ส่วนกลุ่มบริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว จำกัด บริษัทผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ จำกัด และบริษัท ศิริกรบราเธอร์ จำกัด มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน มีพนักงานที่มายื่นซอง ซื้อซอง ลงนามในเอกสารต่าง ๆ มาจากกลุ่มบริษัทเดียวกันคือ บริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด (บริษัท กรเทพพบโชค บอดี้ทรัค จำกัด) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 โดยมี นายเทพวิรุฬ พลพุทธิวัฒน์ หรือ นายเทพากร หรือนายเทพกร ชัยสวัสดิถานนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 เป็นเจ้าของ ส่วนบริษัท เอ เอ็ม แอล เทคโนโลยี ก็ไม่ได้ประกอบกิจการในการซื้อขายรถยนต์แต่อย่างใด ในการซื้อซองและยื่นซองในวันเดียวกันคือวันที่ 21 เมษายน 2553 บริษัท ผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9
โดยมีนางสาวยอดขวัญ ปานอยู่ และนายธวัฒน์ชัย ชำลอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 เป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเคยทำงานให้กับบริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด ยื่นเอกสารที่เป็นวิธีการทดสอบความคงทนต่อแรงดันไฟฟ้าของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นเอกสารฉบับเดียวกันกับเอกสารของบริษัท เทพากร บราเธอร์จำกัด ซึ่งเอกสารดังกล่าวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไม่ได้มีการรับรองผลการทดสอบแต่อย่างใด และในเอกสารก็ได้ระบุไว้ว่าห้ามคัดถ่ายรายงานผลการทดสอบ บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นั้นมีนายเสนาะ หรือจิรกร ทองย่น เป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเคยทำงานให้กับบริษัท คอสโมทรัค จำกัด และบริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด ซึ่งมีนายเทพากร ชัยสวัสดิถานนท์ เป็นผู้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และยังได้ให้นางบังอร บินเจริญ เป็นผู้ทำบัญชี นายสุวรรณชัย มงคลศิริชัยกุล เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้บริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด โดยที่บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว จำกัด ไม่ได้ยื่นเอกสารรับรองผลการทดสอบแรงดันไฟฟ้าจากหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใด
การที่เทศบาลตำบลใหม่ได้ประกาศสอบราคาโดยกำหนดในคุณลักษณะของรถกระเช้าไฟฟ้าให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีหน่วยงานราชการรับรองผลการทดสอบแรงดันไฟฟ้าของเครนและกระเช้าไฟเบอร์กลาส ได้ไม่น้อยกว่า 605 KV 50 HZ เป็นการกำหนดเงื่อนไขมีลักษณะเป็นการกีดกันมิให้ผู้อื่นเข้าทำการเสนอราคา ซึ่งมีผลทำให้บุคคลทั่วไปรวมทั้งผู้เสนอราคาทั้งสามข้างต้นนั้นไม่มีเอกสารที่หน่วยงานของรัฐรับรองผลการทดสอบแรงดันไฟฟ้า
แต่คณะกรรมการเปิดซองสอบราคา คือ นางประภาพรรณ โพธิ์มีศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายอัครเดช ชิณวงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 นางสาวรำไพ แปกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายอภิวัฒน์ จงอ่อนกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 นายประเสริฐ กลิ่นโนนสูง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาแล้วคัดเลือกผู้เสนอราคา ที่ถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคา กลับลงนามพร้อมรับรองว่าคุณสมบัติถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคาในการยื่นซองเสนอราคารถกระเช้าไฟฟ้ามีราคากลางจำนวน 2,000,000 บาท ผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย เสนอราคาที่ใกล้เคียงกันมาก คือ บริษัท ผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ จำกัด เสนอราคา 1,998,000 บาท บริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด เสนอราคา 1,995,000 บาท และบริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว จำกัด เสนอราคา 1,999,000 บาท ซึ่งมายื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกันในเวลาใกล้เคียงกัน เสนอราคาต่างกันเพียง 1,000 – 4,000 บาท กับทั้งมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเดียวกัน เสนอราคาต่างกันเพียงเล็กน้อย ในลักษณะสมยอมราคากัน ไม่ได้มีเจตนาเข้าแข่งขันราคาหรือหวังผลชนะกันอย่างแท้จริงแต่อย่างใด
แต่เป็นการเข้าเสนอราคาในลักษณะเป็นคู่เทียบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เทพากร บราเธอร์ จำกัด เป็นผู้ชนะสอบราคา และเข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลใหม่ โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 5,000 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนางสาวสุนี ปูนกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 มีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
2. การกระทำของนายธีระพงษ์ ปราบสกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และนางศกวรรณ นวลฉวี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดนครราชสีมา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง
3. การกระทำของนางประภาพรรณ โพธิ์มีศิริ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางสาวรำไพ แปกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และนายอัครเดช ชิณวงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจ ในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดนครราชสีมา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง
4. การกระทำของบริษัท ผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ หรือบริษัท โปรทรัค อีควิปเม้น จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 นายธวัฒน์ชัย ชำลอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว หรือบริษัท มาร์โค ทรัค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นายจิรกร หรือเสนาะ ทองย่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 บริษัท เทพากร บราเธอร์ หรือบริษัท กรเทพพบโชค บอดี้ทรัค จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 นายเทพกร หรือเทพากร หรือเทพวิรุฬห์ หรือวีรพัทธ์ พลพุทธิวัฒน์ หรือชัยสวัสดิถานนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 และนายธฤษณุ รัตนาภิรมย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจ ในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
สำหรับนายประเสริฐ กลิ่นโนนสูง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 และนายอภิวัฒน์ จงอ่อนกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นางสาวสุนี ปูนกลาง นายธีระพงษ์ ปราบสกุล นางศกวรรณ นวลฉวี นางประภาพรรณ โพธิ์มีศิริ นางสาวรำไพ แปกลาง นายอัครเดช ชิณวงษ์ บริษัท ผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ หรือบริษัท โปรทรัค อีควิปเม้น จำกัด นายธวัฒน์ชัย ชำลอง บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว หรือบริษัท มาร์โค ทรัค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด นายจิรกร หรือเสนาะ ทองย่น บริษัท เทพากร บราเธอร์ หรือบริษัท กรเทพพบโชค บอดี้ทรัค จำกัด นายเทพกร หรือเทพากร หรือเทพวิรุฬห์ หรือวีรพัทธ์ พลพุทธิวัฒน์ หรือชัยสวัสดิถานนท์ และนายธฤษณุ รัตนาภิรมย์ และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นางสาวสุนี ปูนกลาง นายธีระพงษ์ ปราบสกุล นางศกวรรณ นวลฉวี นางประภาพรรณ โพธิ์มีศิริ นางสาวรำไพ แปกลาง นายอัครเดช ชิณวงษ์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) มาตรา 98 และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย
ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง ต่อไปด้วย
รวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของบริษัท ผึ้งหลวง อีควิปเม้นท์ หรือบริษัท โปรทรัค อีควิปเม้น จำกัด นายธวัฒน์ชัย ชำลอง บริษัท ไพโรจน์ อีเอ็มเอสแอนด์เรซคิว หรือบริษัท มาร์โค ทรัค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด นายจิรกร หรือเสนาะ ทองย่น บริษัท เทพากร บราเธอร์ หรือบริษัท กรเทพพบโชค บอดี้ทรัค จำกัด นายเทพกร หรือเทพากร หรือเทพวิรุฬห์ หรือวีรพัทธ์ พลพุทธิวัฒน์ หรือชัยสวัสดิถานนท์ และนายธฤษณุ รัตนาภิรมย์ ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ :
- ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตนายก อบต.ตะขบ-พวก เชิดคนใกล้ชิดคู่สัญญาจัดแข่งโมโตครอส
- คดีที่ 2! ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตคืนเงินเบี้ยยังชีพ อบต.ตะขบ อดีตนายกฯ โดนวินัย-'พวก' อาญา
- พฤติการณ์อดีตนายกเทศฯ โคกสูง! ป.ป.ช.ชี้มูลไม่จัดการผู้รับเหมาส่อทิ้งงาน-แถมจ้างต่อ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.โตนด อำพราง หจก. รับงานรัฐ 13 โครงการ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.บ้านแปรง-พวก หาปย.จัดซื้อที่ดินมิชอบ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายกเทศฯจอหอ-พวก ทุจริตฮั้วซื้อเครื่องออกกำลังกาย
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.ด่านขุนทด -พวก ไม่แพร่ประกาศจ้างงานโครงการฯ
- คดีที่ 2 ! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายกเทศฯ บ้านใหม่-พวก ทุจริตจัดซื้อจ้างวิธีพิเศษ เอื้อเอกชน
- 2 คนรวด! ป.ป.ช.ชี้มูล 2 อดีตนายก อบต.ครบุรี-เทศบาลรังกาใหญ่ มีส่วนได้เสียงานสร้างถนน
- ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตนายกอบต.กฤษณา ปกปิดข้อมูลลงโทษวินัย-ลูกจ้างออมสินโนนไทย เบียดบังเงิน
