
ป.ป.ช. บุรีรัมย์ เผยมติคกก.ชุดใหญ่ ชี้มูลความผิด 'สุรศักดิ์ สมบูรณ์รัมย์' อดีตนายก อบต.บ้านยาง อำเภอเมือง ทุจริตใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ สั่งการจนท.นำทรัพย์สินราชการไปดำเนินงานก่อสร้างบ้านพักลูก แถมนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ประโยชน์ส่วนตน แต่เสียชีวิตแล้ว ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงข่าวมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสุรศักดิ์ สมบูรณ์รัมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านยาง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ทุจริตใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานำทรัพย์สินของทางราชการไปดำเนินงานก่อสร้างบ้านพักของบุตรชาย และนำรถยนต์ส่วนกลางขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางไปใช้ประโยชน์ส่วนตน
ข้อเท็จจริงโดยสรุปจากการไต่สวนเบื้องต้น ปรากฏว่า เมื่อระหว่างวันที่ 13 เมษายน 2560 ถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ผู้ถูกกล่าวหาได้สั่งการให้พนักงานจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางให้ไปช่วยกันก่อสร้างบ้านพักของนายภูริภาคย์ ศรีรัตน์ดีจรัส (นายบิ๊ก) บุตรชายของผู้ถูกกล่าวหา ในวัน เวลา ทำการของทางราชการ (วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 น. – 16.30 น.) ซึ่งไม่ใช่ภารกิจในทางการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยาง นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้สั่งให้ผู้ช่วยพนักงานขับรถบรรทุกน้ำ นำรถบรรทุกน้ำขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางไปฉีดพ่นทำความสะอาดหลังคาบ้าน
นอกจากนี้ ผู้ถูกกล่าวหาและยังให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางนำรถขุดตักขนาดเล็กซึ่งเป็นทรัพย์สินขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยางไปใช้ในการจัดสวนบริเวณบ้านพักของผู้ถูกกล่าวหาด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติว่า การกระทำของนายสุรศักดิ์ สมบูรณ์รัมย์ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
อย่างไรก็ดี นายสุรศักดิ์ สมบูรณ์รัมย์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้ถึงแก่ความตายแล้ว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (1) และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจดำเนินการไต่สวนเพื่อดำเนินคดีอาญา หรือดำเนินการทางวินัยต่อไปได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 57
จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
