
ป.ป.ช. สุโขทัย เผยมติคกก.ชุดใหญ่ ชี้มูล ว่าที่ร้อยตรี มงคล สีขาว อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลายมิตรภาพที่ 80 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ แสดงตนมีตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับเงิน 5 แสน ช่วยฝากคนเข้ารับราชการ แต่ทำไม่ได้บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินให้ ส่งสำนวน อสส.ฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาแจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษวินัยแล้ว-ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุโขทัย ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ว่าที่ร้อยตรี มงคล สีขาว เมื่อครั้งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลายมิตรภาพที่ 80 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย กระทำการแสดงตนเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่าตนมีตำแหน่งหรือหน้าที่สามารถช่วยให้เข้ารับราชการได้
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนระบุว่า ว่าที่ร้อยตรี มงคล สีขาว อ้างว่าได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการคุมสอบที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำพุ และสามารถช่วยให้ลูกสาวของผู้ร้องทั้งสอง เข้ารับราชการที่องค์การบริหารส่วนตำบล บ้านน้ำพุได้ แต่ต้องจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท หากไม่ได้จะคืนเงินทั้งหมด พร้อมรับประกันว่าบุตรสาวผู้ร้อง ทั้งสองจะได้รับราชการในตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ 3 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำพุแน่นอน หากอยากให้บุตรสาวรับราชการให้ไปหาที่บ้าน
ต่อมาผู้ร้องทั้งสองได้หลงเชื่อตามที่ผู้ถูกกล่าวหาแอบอ้างว่าเป็นคณะกรรมการฯ จึงตกลงจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท ผู้ร้องทั้งสองได้นำเงินไปจ่ายให้ผู้ถูกกล่าวหา จำนวนสองครั้ง ครั้งแรก จำนวน 300,000 บาท และครั้งที่สอง จำนวน 200,000 บาท รวม 500,000 บาท
หลังจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำพุเปิดรับสมัครสอบฯ ผู้ถูกกล่าวหา ได้โทรศัพท์มาแจ้ง ผู้ร้องที่ 1 ว่าองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำพุได้เปิดรับสมัคร ให้บุตรสาวไปสมัครสอบ พร้อมแจ้งว่า ให้กรอกข้อมูลระบุว่า เป็นญาติในใบสมัครด้วย
เมื่อบุตรสาวผู้ร้องทั้งสอง มาสมัครสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำพุในตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ ระดับ 3 ลำดับที่ 62 ตามที่ผู้ถูกกล่าวหา แจ้งมา
หลังจากที่บุตรสาวผู้ร้องไปสมัครสอบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาได้โทรศัพท์มาแจ้งให้เตรียมเอกสารไว้ และได้เข้ามารับเอกสารเกี่ยวกับการสมัครสอบ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาปริญญาบัตร จากบุตรสาวผู้ร้อง
ต่อมามีเหตุถูกระงับการสอบทั้งประเทศ ผู้ร้องทั้งสองรู้ว่าบุตรสาวไม่สามารถทำงานเป็นข้าราชการได้ จึงไปขอเงินคืนแต่ถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินให้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของ ว่าที่ร้อยตรี มงคล สีขาว ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 150 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 171) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดสุโขทัย เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัยการให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ.2545 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง
สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า ตามขั้นตอนหลังการชี้มูลความผิดคดีอาญาและวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
