
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สรรเสริญ ธรรมโชติ' อดีตเจ้าหน้าที่คดีพิเศษดีเอสไอ ใช้อำนาจมิชอบข่มขืนใจผู้ให้ถ้อยคำเรียกทรัพย์สินประโยชน์แลกไม่ดำเนินคดีกันตัวเป็นพยาน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก 7 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสรรเสริญ ธรรมโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพวก ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้ผู้ให้ถ้อยคำในคดีมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง โดยอ้างว่าจะไม่ดำเนินคดีกับผู้ให้ถ้อยคำและจะกันไว้เป็นพยาน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148, 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า นายสรรเสริญ ธรรมโชติ จำเลยมีความผิดตามกฏหมาย ให้ลงโทษตามมาตรา 148 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
จำคุก 7 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต

