
เป็นทางการ! อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ปธ.คกก.อำนวยการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำทีมแถลงข่าวยุทธการถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ ยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน ออกหมายจับผู้ต้องหา 42 ราย รวมตัวได้ 29 ราย ความผิดฐาน อั้งยี่-ซ่องโจร-ฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน ผู้เสียหายกว่า 700 ราย พบเส้นทางฟอกเงินมีโอนต่อเป็นทอดๆ เข้าบัญชี 'ยิม เลียก' รอบ 1 วัน ยอดเงินคงเหลือเพิ่มจาก 1.2 ล้าน เป็น 21.5 ล้าน ส่วน 'เบน สมิธ' ทำหน้าที่สนับสนุนในเชิงโครงสร้างธุรกิจหลีกเลี่ยงตรวจสอบ เผยรายการอายัดทรัพย์ รถหรู ที่ดิน เรือ ATLAS เฉพาะเงินสดใน 37 บัญชี กว่า 1,169 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงข่าวเปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ ยึดกว่า 10,000 ล้านบาท สะเทือนทั้งวงการ” มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองประธานกรรมการ มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรม การป้องกันและปราบปรามเป็นคณะกรรมของคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว
ระบุว่า มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 42 ราย จับกุมได้ จำนวน 29 ราย ซึ่งต้องหาว่าประทำความผิดฐาน อั้งยี่ ซ่องโจร, ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา ได้มีข้อมูลเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นกระแสและได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก
ภายหลังการอภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลว่าด้วยการจัดการปัญหาสแกมเมอร์และความมั่นคง โดยมีการกล่าวถึงแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยและเชื่อมโยงถึงบุคคลสำคัญในประเทศไทยที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีนายยิม เลียกหรือ และยิม ประธาน BIC Group เครือข่ายทุนการเงินรายใหญ่ของกัมพูชา เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจของกัมพูชา ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีพฤติการณ์นำเงินจากการกระทำความผิดมาฟอกเงิน หรือใช้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. รับผิดชอบกำกับดูแลการปฏิบัติพร้อมมอบหมายให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่ ผอ.ศปอส.ตร.และมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผอ.ศปอส.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวนกรณีดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่า ขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชามีลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ มีพฤติการณ์นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ แล้วทำการยักย้ายถ่ายเท เพื่อปิดบังอำพราง ให้ยากต่อการตรวจสอบและจับกุม แล้วนำเงินดังกล่าวมาฟอก ผ่านทางธุรกิจในรูปแบบต่างๆ จนก่อให้เกิดปัญหาซับซ้อนทั้งในด้านความมั่นคงเศรษฐกิจ และความเสียหายต่อประชาชนจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้อง และธุรกิจที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงินในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ

จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้เสียหายเบื้องต้นกว่า 700 ราย ในคดีหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ มีการโอนเงินให้กับบัญชีกว่า 40 บัญชี ซึ่งเจ้าของบัญชีดังกล่าว มีประวัติเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ และคดีร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีการโอนเงินต่อกันเป็นทอดๆ ไปยังบัญชีของนาย ยิม เลียก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี มีการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทย ในคดีหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เป็นหลักฐานชัดว่าเงินก่อนโอนเข้าบัญชีของนายยิม เลียก เป็นเงินที่มาจากผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมออนไลน์โดยตรง
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายยิม เลียก บางเส้นเงินในรอบ 1 วัน ยอดเงินคงเหลือเพิ่มจาก 1.2 ล้านบาท → 21.5 ล้านบาท ลักษณะคล้ายการระดมเงินจากกลุ่มบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและฟอกเงิน ที่รับโอนเงินมาจากบัญชีกลุ่มผู้เสียหาย เชื่อว่าห้วงวันดังกล่าว นายยิม เลียก (Yim Leak) มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อไปฟอกในธุรกิจอย่างใดอย่าง
อย่างหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน การสืบสวนยังพบความเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างยิม เลียก และ“เบน สมิธ” นักธุรกิจต่างชาติที่ถูกสหรัฐฯ จัดอยู่ในกลุ่มบุคคลเสี่ยงเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ระดับนานาชาติ ทั้งคู่มีบริษัทในไทยที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน และมีการถือหุ้นไขว้ระหว่างภรรยาของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการบินส่วนตัว ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่ถูกใช้ในการอำพรางเส้นทางเงินผิดกฎหมายบ่อยครั้ง
การตรวจสอบความสัมพันธ์และธุรกรรมพบว่า ยิม เลียก เป็นศูนย์กลางรับและกระจายเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์ ขณะที่เบน สมิธ ทำหน้าที่สนับสนุนในเชิงโครงสร้างธุรกิจและเส้นทางการเงิน ทั้งสองฝ่ายมีพื้นฐานความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีอำนาจในกัมพูชา ทำให้มีความสามารถในการหลีกเลี่ยงตรวจสอบ
จากหลักฐานทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่าโครงสร้างนี้เป็น “เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ”ที่ประกอบด้วยบัญชีผู้กระทำความผิด แก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา นักธุรกิจต่างชาติ และกลุ่มทุนที่มีอิทธิพลในกัมพูชา โดยมียิม เลียก และเบน สมิธ เป็นแกนกลางที่เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจและเส้นทางการเงินเข้าด้วยกัน
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ(ศปอส.ตร.) ได้มีการเปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ สะเทือนทั้งวงการ” โดยมีการออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 42 คน ในข้อหา “เป็นหัวหน้าอั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มี
การกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
โดยผลการดำเนินการมีดังนี้ เข้าตรวจค้น 50 จุด จำนวน 22 จังหวัด
1. จับกุมผู้ต้องหาหมายจับ จำนวน 29 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 13 ราย มีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ 3 ราย ประกอบไปด้วย นายยิม เลียก, ภรรยาชาวไทย และบัญชีม้าคนสำคัญของเครือข่าย
2. ตรวจยึดทรัยพ์สินซึ่งน่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด จำนวนกว่า 75 รายการ
อาทิเช่น
2.1 ทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึด/อายัด จำนวนทั้งสิ้น 10 รายการ รวมมูลค่า 878 ล้านบาท ดังนี้
- รถยนต์ TOYOTA ALPHARD จำนวน 4 คัน มูลค่า 16 ล้านบาท
- รถยนต์ ZEEKER จำนวน 1 คัน มูลค่า 2 ล้านบาท
- รถยนต์ PORSCHE CAYENNE จำนวน 1 คัน มูลค่า 6 ล้านบาท
- รถยนต์ FERRARI 488 GTB จำนวน 1 คัน มูลค่า 24 ล้านบาท
- รถยนต์ FERRARI 296 GTS จำนวน 1 คัน มูลค่า 30 ล้านบาท
- เรือ ATLAS จำนวน 1 ลำ มูลค่า 800 ล้านบาท
- สมุดบัญชี จำนวน 4 เล่ม
2.2 ทรัพย์สินที่ ปปง. โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งยึดและอายัด ทั้งสิ้น 66 รายการ ราคาประเมินมูลค่า 9,279,322,501 ล้านบาท ดังนี้
- เงินสดในบัญชี จำนวน 37 บัญชี เป็นเงินจำนวน 1,169,815,162.38 บาท
- ที่ดินจำนวน 23 แปลง
- บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จำนวน 6 บัญชี
(*หมายเหตุ ที่ดินและบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ประเมินรวม 8,109,507,339 บาท)

ทั้งนี้ ปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอาชญากรรมเทคโนโลยีและเครือข่ายการฟอกเงิน ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งถือว่าปัญหาอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์ Anti Cyber Scam Center ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาพบว่าสถิติ ในการแจ้งความมีจำนวนลดลง รวมถึงมูลค่าความเสียหายลดลง โดยในเดือนตุลาคม2568 มีการแจ้งความ รวม 35,050 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,379,917,936.-บาท ในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีมูลการแจ้งความ 31,019 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,183,647,992.-บาทซึ่งเป็นความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน
อนึ่งในการเผยแพร่ข่าวครั้งนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้างทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้นสำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น

- ปปง.ยึดทรัพย์เครือข่าย'เฉินจื้อ-ก๊กอาน'หมื่นล.-จ่อออกหมายจับ40คน 'ยิมเลียก-เบนสมิธ' ด้วย
- ย้อนข้อมูล'ยิม เลียก-เบน สมิธ' ก่อน ปปง.ยึดทรัพย์คดีฟอกเงิน กลุ่ม 'น.ส.แตงไทย' 9.2 พันล.
- อยู่นครนายก!แกะรอย 'น.ส.แตงไทย'ปปง.ยึดทรัพย์คดีฟอกเงิน 9.2พันล.โยง'ยิม เลียก-เบน สมิธ'
อ่านประกอบ :
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- นักข่าวดังสหรัฐฯ อ้างข้อมูล 'ทักษิณ' ใช้นายหน้าแอฟริกาใต้เครือข่ายฮุนเซน ซื้อเจ็ทส่วนตัว
- แกะรอย 'เบนจามิน' นายหน้าปริศนาขายเครื่องบินส่วนตัว ให้ 'ทักษิณ-เครือข่ายฮุนเซน' ?
- 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา แปลงเป็นไทย ยุค 'อนุทิน' นั่งมท.1 แต่ไม่ได้เซ็นให้
- เปิดรายงานลับ สน.บท.กรณี 'เบนจามิน'ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา-ปริศนาที่ปรึกษาธุรกิจ ทักษิณ?
- เจาะลึก! เส้นทาง 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชาแปลงเป็นไทย 'บิ๊กตลท.' ให้ถ้อยคำรับรอง
- 'อนุทิน' ยันไม่ได้เซ็นอนุมัติแปลงสัญชาติ 'เบนจามิน' ตีตกชั้นปค.-อย่าโยงขัดแย้ง 'ทักษิณ'
- เปิดข้อมูล บ.ที่ทำงาน 'เบนจามิน' ไฮโซแฟนลูกนักการเมืองกัมพูชาถือหุ้น ก่อนขอแปลงสัญชาติ
- ขุดประวัติ 'เบนจามิน' กุนซือฮุนเซน โยง 'ยิม เลียก'-ที่ปรึกษารมว.คลังไทยนั่งบอร์ด ธ.กัมพูชา
- ที่ปรึกษา 'ธรรมนัส'ยื่นหนังสือ ก.ล.ต.ตรวจความบริสุทธิ์ 'เบนจามิน'หลัง ปชน.อภิปรายพาดพิง
- 'ทอม ไรต์' โต้'ธรรมนัส'หลังให้สัมภาษณ์อิศรา ขู่เรียกค่าเสียหาย ยืนยันจะตีพิมพ์ทุกอย่าง
- ที่ปรึกษา'ธรรมนัส'รับอำนาจ‘เบนจามิน’ฟ้อง‘โรม’อภิปรายหมิ่นฯ ยันปกป้องสิทธิ ไม่ได้ปิดปาก
- 'เบนจามิน' ออกแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาบทความ 'ทอม ไรท์' เตรียมฟ้องอดีตผู้สื่อข่าว WSJ
- ISRA:เอ็กซ์คลูซีฟ! ‘ธรรมนัส‘ เปิดสัมพันธ์ลึก ‘ทักษิณ & เบนจามิน’ จาก ดูไบ ถึง ห้างเกษรฯ
- ‘อภิสิทธิ์’ ยื่นปปง.ตรวจเส้นทางเงินสแกมเมอร์ เผยระดับรมต.เอี่ยว ยุค รบ.อนุทิน มี 2 คน
