นวพร เรืองสกุล : นโยบายนายกฯแค่สั่งขี้มูก ขรก.(บางส่วน) ยังเกียร์ว่างเหมือนเดิม?

"...การประท้วงแบบผิดกฎหมาย และการเปิดร้าน ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เย้ยกฎหมายหลายฉบับ และเย้ยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านทั้งหลายไม่เจ็บ ไม่อับอายบ้างหรือ และกระทั่งบางครั้งยังมีการกระทำแบบที่ดูคล้ายเล่นละคร คือ มือขวาจับ มือซ้ายปล่อย ท่านจะทำยังไงดีเพื่อให้ทุกคนในประเทศนี้ทำตามกติกาจริงจัง หรือท่านไม่ต้องการมีกติกา ต้องการเป็นรัฐไร้ระเบียบ ไร้กฎหมาย..."

..................................

เรียนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ปลัดกระทรวง รองปลัดฯ ผู้ตรวจฯ อธิบดี และหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ในภาครัฐ ทุกท่าน)

ตอนที่ 1

ปัญหาของประเทศไทยในเวลานี้ใหญ่หลวงนัก นายกรัฐมนตรีสั่งการไปก็หลายเรื่อง แต่เท่าที่ดิฉันในฐานะประชาชนคนหนึ่งติดตามดู รู้สึกถึงความล่าช้าอืดเอื่อยแถมบางครั้งก็ไม่ไปทางเดียวกันของคนในราชการที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา นโยบายที่สั่งก็เหมือนสั่งขี้มูก

เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะที่เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า มากยิ่งกว่าคราววิกฤติการเงินปี 2540 และน่าจะน้องๆ​ คราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ดิฉันคาดหวังให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แข็งขันอย่างยิ่ง แข็งขันอย่างถูกต้อง และแข็งขันยิ่งกว่าที่การเมืองเป็น และมองอย่างรอบด้าน ช้ามส่วนงาน ข้ามกรม ข้ามกระทรวง เพราะแต่ละท่านก็รู้จักกัน ประสานงานกันได้ และแต่ละท่านที่มาดำรงตำแหน่งล้วนเชี่ยวชาญและก้าวหน้ามาในราชการ อันเป็นเส้นทางที่เริ่มมาตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาวและยืนยาวก้าวข้ามการเมืองหลายสมัย ไม่เหมือนนักการเมืองที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปมา

ท่านได้ทำอะไร และท่านจะทำอะไรบ้าง เพื่อชาติ เพื่อคนที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือน สวัสดิการ และเงินบำนาญให้ท่าน

สำหรับท่านที่ได้ทำเต็มกำลัง และบางครั้งทำนอกเหนือหน้าที่ของท่าน ขอได้รับคำขอบคุณ

ส่วนท่านอื่นๆ ขอตั้งคำถามว่า ท่านจะทำอะไรบ้าง และได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ที่จะกล่าวอย่างภาคภูมิใจให้ลูกหลานและคนรุ่นหลังฟัง ทำอย่างไว้ชื่อให้กับตนเอง วงศ์ตระกูล อย่างคนที่เกิดมามีโอกาสสูงถึงเพียงนี้ จะพึงทำ

อาจจะยกภาระกิจขึ้นมากล่าวได้หลายด้าน ขอเรียงสักสองสามด้าน

1. วัคซีน

วัคซีนจัดสรรกันอย่างไร บอกได้ไหม คนหน้างานรู้แต่ว่าวัคซีนมาบ้าง ขาดบ้าง หน่วยงานฉีดพร้อม คนต้องการฉีดมี วัคซีนก็มี แต่วัคซีนไม่มา
ผู้ไปฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ บางวันมีฉีดให้ผู้สูงอายุพร้อมผู้ติดตาม บางวันฉีดไปกลางทางบอกว่า วันนี้ ต่อไปนี้ผู้ติดตามไม่ได้ฉีดแล้ว

บางหน่วยงานในต่างจังหวัด ขอร้อยได้สิบ

คนหน้างานบอกว่า มาแค่ 10 กล่อง (ฉีดได้ 10 คน หรือ 100 คน ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน) ต้องเตรียมคนพร้อมทุกด้าน สิ่งที่ได้มาฉีดแค่ชั่วโมงเดียวก็จบ เปลืองทั้งรถขนส่ง เปลืองทั้งคนที่ต้องมาเตรียมการ งานที่ควรเสร็จในสามวัน ยืดไปสามสัปดาห์ ในช่วงเวลาที่ระบบสาธารณสุขกำลังต้องการกำลังพลไปช่วยแนวหน้า

อดีตนักวิชาการบอกว่า วัคซีนมีแต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในตัวคน เท่ากับว่าสูญเปล่า รอทำไม ยิ่งตอนนี้ให้ฉีดซิโนแวคเข็มหนึ่ง แอสตราเซเนก้าเข็มสอง ซิโนแวคที่เหลือ รีบส่งไปฉีดๆ หรือยัง

หนุ่มสาย operation research สรุปรายงานในฐานะนักข่าวพลเรือนว่า เป็นเรื่องของ supply chain management ทำให้วัคซีนขาดๆ เกินๆ คณะกรรมการจัดสรร ก็จัดไป แต่เกิดจริงตามนั้นหรือเปล่า ใครขาด ใครเหลือ ดูเหมือนว่าไม่มีการติดตามจัดการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนสาวสายสังคมศาสตร์บอกว่า คนไทยเรามักจะแห่ไปวันแรกๆ เพราะกลัวของหมด และถ้านัด 9 โมงเช้า ก็อาจจะไปตั้งแต่ตี 5 เพราะกลัวคนลัดคิวอีกด้วย อธิบายอย่างไรก็ไม่เชื่อ เพราะประสบการณ์สอนไว้ว่ามันเป็นเช่นนั้นได้เสมอ (ดูจากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นเรื่องวัคซีนขาดมือ)

2. การสื่อสาร และป้องกัน รวมทั้งการบังคับให้คนมีวินัย

ท่านที่เป็นเจ้ากระทรวง เจ้ากรม และหัวหน้าส่วนงานอิสระต่างๆ ทำงานในส่วนของท่านที่จะลดการระบาดอันเนื่องมาจากพฤติกรรมของคนหรือเปล่า งานเหล่านี้ไม่ใช่งานกระทรวงหมอโดยตรง

ก. ส่วนงานที่ควรมีหน้าที่ให้ความรู้ประชาชนทุกระดับ เรื่องวิธีป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นวัคซีนตัวแรก ก่อนได้วัคซีนที่เป็นยา ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่หรือยัง สมกับวิชาชีพ และอำนาจ และหน้าที่ที่มีหรือยัง ตั้งแต่ โรงเรียน มหาวิทยาลัย มหาดไทย และสื่อสารมวลชนที่เป็นของประชาชนทั้งทางตรงทางอ้อม ตลอดจนกระทรวงด้านไอซีที ที่มีหน้าที่จัดการข่าวปลอม ข่าวลวง ข่าวเท็จ ข่าวยุแยง ข่าวเสี้ยม

รู้กันอยู่แล้วว่า โรคระบาดคราวนี้ ไม่ได้แก้ด้วยวัคซีน (ดูจีนเป็นตัวอย่าง ที่ไม่มีการระบาดซ้ำ แม้ว่าจะฉีดแค่วัคซีนที่ชาวไทยจำนวนหนึ่งดูถูก ส่วนอเมริกาและอิสราเอลระบาดใหม่ แม้ว่าจะฉีดวัคซีนที่ชาวไทยกลุ่มเดียวกันนั้น เห็นว่าเลิศ) การป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดรอบนี้ ก็เหมือนโรคห่าระบาดสมัยก่อน คือต้องแก้ที่พฤติกรรมของคน ดังที่มีผู้กล่าวว่า

“ตั้งโรงพยาบาล ลดอุบัติเหตุไม่ได้ ทำได้แค่รักษาผู้ป่วย ฉันใด ตั้งโรงพยาบาลอีกกี่แห่ง ก็ลดปริมาณผู้ป่วยโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส ไม่ได้ ทำได้แค่รักษาผู้ป่วย ฉันนั้น”

แม้แต่ไล่คนกลับต่างจังหวัดและกลับประเทศไปบ้างแล้ว แต่ตัวเลขผู้ป่วยก็ยังไม่ลด

ข. ฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมาย เป็นเรื่องที่ฝ่ายรับงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ ที่จะต้องทำกฎหมายให้มีผลบังคับใช้จริง

การประท้วงแบบผิดกฎหมาย และการเปิดร้าน ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เย้ยกฎหมายหลายฉบับ และเย้ยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านทั้งหลายไม่เจ็บ ไม่อับอายบ้างหรือ และกระทั่งบางครั้งยังมีการกระทำแบบที่ดูคล้ายเล่นละคร คือ มือขวาจับ มือซ้ายปล่อย ท่านจะทำยังไงดีเพื่อให้ทุกคนในประเทศนี้ทำตามกติกาจริงจัง หรือท่านไม่ต้องการมีกติกา ต้องการเป็นรัฐไร้ระเบียบ ไร้กฎหมาย

ค.​ แรงงานผิดกฎหมาย

(เรื่องนี้ยาว ขอรอไว้ตอน 2)

ที่มา : Knowledge Plus by นวพร       

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.set.or.th