"...สุดท้าย ผมขอร่วมคารวะขอบพระคุณบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครอื่นๆ ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของชาติครั้งนี้ และขอถือโอกาสกราบเรียนผู้บริหารประเทศว่า ในสภาวะสงครามขณะนี้ กฏระเบียบต่างๆที่จะเป็นอุปสรรคต่อการลดความเสี่ยงในการทำสงคราม สมควรจะพิจารณายกเว้นหรือยกเลิกไปก่อนโดยด่วนครับ..."
.....................................
ผมเชื่อว่า คำถามหนึ่งที่คนไทยทุกคนต้องการคำตอบคือ เมื่อไหร่เรามองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์? ผมไม่คิดว่าใครจะมีคำตอบ แต่ถ้าถามว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันใน 6-7 วันข้างหน้า เราพอจะมีโมเด็ลคณิตศาสตร์ที่สามารถคำนวณหาคำตอบได้อย่างใกล้เคียง (ดูตารางในภาพ 1)
ตัวเลขติดเชื้อรายวันในวันนี้ เป็นผลพวงจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นเมื่อ 6-7 วันที่แล้ว จึงเป็นตัวเลขที่ถูกกำหนดโดยอดีต ผู้แพร่เชื้อกว่า 80% คือ “ผู้ติดเชื้อเงียบ” ที่ไม่ได้ถูกกักกันนั่นเอง แต่ในอีก 6-7 วันข้างหน้า ตัวเลขจะขึ้นหรือลดจะถูกกำหนดโดยมาตรการกดโรคที่ใช้ในวันนี้
ในโพสต์นี้ ผมขอชวนผู้สนใจหวนกลับมาดูพื้นฐานเชิงคณิตศาสตร์ของการระบาดของเชื้อโควิด ซึ่งผมจะให้รายละเอียดในภาพดังนี้
(1) ภาพที่ 2 ในช่วงที่อินเดียประสบมหาวิกฤติโควิด ผมเคยโพสต์ว่าประเทศไทยต้องไม่ชะล่าใจ จากลักษณะกราฟ ผมเห็นว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่งอุโมงค์มืดมิดแบบเดียวกัน ในตอนนั้นย้อนไปเพียงเดือนเดียว คงจะไม่มีใครเชื่อว่า เมืองไทยจะต้องมาถึงจุดนี้
(2) ภาพที่ 3 เป็นกราฟผู้ติดเชื้อสะสม กราฟทางขวาเป็นวงจรการระบาดมาตฐาน โดยเริ่มต้นด้วยการก้าวสู่อัตราก้าวกระโดดแบบ Exponential Growth จนมาถึงจุดหักเห (Inflection Point) หลังจากนั้น การระบาดจะเริ่มอ่อนตัวลง ถึงจุดหักเหนี้ เราจึงมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และเมื่อกราฟเริ่มแบนราบ จึงถือได้ว่า โรคระบาดได้สงบลงแล้ว
(3) ภาพที่ 4 แสดงกราฟผู้ติดเชื้อรายวันตามรายงานประจำวัน ขณะนี้ เรายังอยู่ในช่วงกำลังก้าวกระโดด ค่าผู้ติดเชื้อรายวันวันนี้อยู่ที่ 18,912 ราย ถ้าเทียบกราฟทางซ้ายมือกับกราฟมาตรฐานทางขวามือ เรายังอยู่ฝั่งซ้ายของจุดหักเหที่เป็นขาขึ้น ถ้าเราสามารถก้าวข้ามจุดหักเหได้ เราจะอยู่ข้างขวาของจุดหักเห ซึ่งอัตราผู้ติดเชื้อรายวันได้กลับหัวเป็นขาลง
(4) ภาพที่ 5 คือกราฟที่ผมขอเชิญผู้สนใจมาเฝ้าสอดส่อง (Monitor) ว่าเกิดจุดหักเหหรือยัง เมื่อเกิดแล้ว เราถึงจะเห็นแสงริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์แห่งมหาวิกฤติรอบนี้ ระหว่างนี้ เรายังต้องเร่งระดมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว
สุดท้าย ผมขอร่วมคารวะขอบพระคุณบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครอื่นๆ ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของชาติครั้งนี้ และขอถือโอกาสกราบเรียนผู้บริหารประเทศว่า ในสภาวะสงครามขณะนี้ กฏระเบียบต่างๆที่จะเป็นอุปสรรคต่อการลดความเสี่ยงในการทำสงคราม สมควรจะพิจารณายกเว้นหรือยกเลิกไปก่อนโดยด่วนครับ
ศ. ดร. วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต
ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย