"...คุณสุนันทา พงษ์เจริญ (ป้าอี๊ด) พูดถึงปรัชญาการใช้ชีวิตว่า “ชีวิตของเรา เป็นของเรา ใช้ชีวิตให้เป็น อย่าเป็นคนแก่ที่ไร้ค่า ใช้ทุกลมหายใจให้มีความสุข อยู่ตรงไหนมีความสุข ก็อยู่กับมันตรงนั้น อายุมาก 70 ปีแล้ว ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต โฟกัสกับความสุขที่เลือก แล้วใช้มันซะ”..."
.................................
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นการปกป้องสุขภาพกายและสุขภาพใจของเยาวชน เพราะการเล่นเกมเป็นเหมือน “ฝิ่นมอมเมาจิตวิญญาณอนาคตของชาติ”[1] แต่สำหรับคุณสุนันทา พงษ์เจริญ (ป้าอี๊ด) สุภาพสตรีสูงวัย อายุย่าง 70 ปี เกมเมอร์มือฉมังระดับเทพ ฉายา “ยัยตัวแสบ” แห่งวงการเกม Ragnarok ออนไลน์ กลับมีความเห็นต่างออกไป เธอกล่าวว่า การเล่นเกมเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน “เราต้องเล่นเกมให้เป็น ไม่ใช่ให้เกมมาเล่นเรา” [2]
เส้นทางสู่การเป็นเกมเมอร์ของป้าอี๊ดไม่ธรรมดา เพราะในชีวิตจริง ป้าอี๊ดคือเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยโบราณชื่อดัง “บ้านน้ำพริกข้าวสวย” ที่ก่อตั้งร่วมกับลูกสาว ทราย สิริลักษณ์ พงษ์เจริญ เป็นร้านที่รู้จักกันดีไม่เพียงเฉพาะชาวจันทบุรี แต่ยังเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของเมืองจันท์ เพราะร้าน
มีน้ำพริกสูตรเด็ด สืบทอดมาจากต้นตระกูลกว่า 20 ชนิด มีทั้งอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น แกงหมูชะมวง ไก่บ้านต้มกระวาน เส้นจันท์ผัดปู ข้าวคลุกพริกเกลือ และต้มส้มกั้ง แถมตั้งชื่อเมนูอาหารอย่างเก๋ไก๋ เช่น เสบียงจันท์ กินข้าวกินปลา นำมาเสิร์ฟในภาชนะไทย ๆ รองด้วยใบตอง
ชีวิตของป้าอี๊ด ผู้พลิกจากแม่ค้าขายน้ำพริกหาบเร่มาเป็นเกมเมอร์ชั้นเซียนวัยเก๋า กระตุกต่อมความอยากรู้ของผม จึงขอโทรศัพท์ไปพูดคุยกับคุณป้าเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านกว่า 45 นาที ทำให้ได้เข้าใจว่าตัวตนของป้าอี๊ดคือ “เป็นคนรู้อยู่อย่างคนตื่น และใช้ทุกลมหายใจอย่างมีคุณค่า”
ป้าอี๊ดเล่าว่า ท่านเป็นชาวอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มีพี่น้อง 8 คน เธอเป็นเพียงคนเดียวที่รักและรับการถ่ายทอดการทำน้ำพริกมาจากคุณยาย จำความได้ว่าช่วยคุณยายในห้องครัวตั้งแต่ลืมตา ช่วยพ่อแม่ขายอาหาร และมาเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ของตนเองตั้งแต่วัยรุ่น โชคดีที่เป็นคนมีเสน่ห์ปลายจวัก ทำอาหารอร่อยทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแกง น้ำพริก ก๋วยเตี๋ยว ไปจนถึงกาแฟโบราณ จนมีรายได้เพียงพอจุนเจือครอบครัว ส่งเสียลูกสาวคนเดียวเรียนจบปริญญาตรีสาขาครุศาสตร์ แต่ลูกไม่ชอบวิชาชีพครู ตัดสินใจมาเปิดร้านเกมอินเตอร์เน็ตและเกมออนไลน์ที่บ้านเกิด และนี่คือจุดกำเนิดชีวิตใหม่ของคุณป้าอี๊ดในวัย 50 ปี เพราะเป็นช่วงที่กำลังประสบมรสุมชีวิตครอบครัว ต้องแยกทางกับสามี มีปัญหาด้านการเงิน จนเกิดภาวะซึมเศร้า เก็บตัว ไม่อยากพบผู้คน โรคภัยต่าง ๆ ถามหา ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน ไทรอยด์ หอบหืด ไปจนถึงนิ้วล็อค จึงตัดสินใจเลิกขายอาหาร มานั่งเฝ้าร้านอินเทอร์เน็ตให้ลูกสาวแทน
ในช่วงแรก ๆ ไม่ได้สนใจที่จะเล่นเกมเลย คอยช่วยขายน้ำและขนมให้กับเด็ก ๆ ที่เข้ามาเล่นเกม แต่พอเฝ้าร้านไปพักใหญ่ก็เริ่มสนใจ เพราะลูกสาวเปิดเกม Ragnarok ทิ้งไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ได้เห็นตัวละครที่แสนจะน่ารัก ประกอบกับมีคนแชทเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้เด็ก ๆ ช่วยสอนให้เล่น เริ่มกันตั้งแต่จับและคลิกเมาส์ วิธีกดปุ่มเปลี่ยนภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ วิธีการเดิน รวมทั้งการฝึกพูด ช่วงแรก ๆ ใช้ตัวละครที่ลูกสาวสร้างขึ้นมา แต่พอเก่งกาจขึ้น ก็สร้างตัวละครขึ้นมาได้เอง จนเป็นที่มาของ “ยัยตัวแสบ” ตัวละครที่ทำให้ป้าอี๊ดดังเป็นพลุ และการันตีด้วย Level 99+ ที่เล่นเองได้ทุกตัว ไม่มีการใช้บอทเกมช่วย
ป้าอี๊ดยอมรับว่า เล่นเกมแบบบ้าคลั่งอดหลับอดนอน แต่สิ่งที่ได้รับดีเกินคาด นั่นคือ การเปลี่ยนชีวิตใหม่ ได้รู้จักผู้คนหลากหลาย รุ่นลูกรุ่นหลาน ได้ประสบการณ์เยอะ ได้มองโลกกว้าง อยากเรียนรู้ ถึงกับไปเข้าเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) พร้อมฝึกฝนด้วยตนเองทำได้หมด ตั้งแต่เย็บปักถักร้อย ทำขนมไทย อาหารไทย หัดเขียน หัดอ่าน ได้อ่านบทกวีดี ๆ ได้บันทึกเรื่องราวชีวิตไว้ทุกเรื่องทุกวันในไดอารี่ รวมทั้ง ฝึกภาษาอังกฤษจนพอเข้าใจ
การได้เข้ามาสู่โลกเกมออนไลน์ เป็นเหมือนกับยาวิเศษที่รักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจให้สดชื่น จิตใจเบิกบาน แข็งแรง โรคซึมเศร้าหายเป็นปลิดทิ้ง โรคประจำตัวอื่น ๆ ก็บรรเทาลง จากที่ต้องรับประทานยาเป็นกำ ๆ ก็เหลือเพียงไม่กี่เม็ดจนคุณหมอประจำตัวแปลกใจ ขณะเดียวกัน การต้องกดแป้นพิมพ์แบบรัว ๆ เร็ว ๆ กลายเป็นการบำบัดคลายนิ้วล็อค นอกจากนี้ มิตรไมตรีของเหล่าสมาชิกในกลุ่มเล่นเกม Ragnarok ออนไลน์ มีแต่ความอบอุ่น เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน มีการสังสรรค์ประจำปี เป็นเหมือนงานรวมญาติครอบครัวใหญ่
หลังจากที่ป้าอี๊ดสุขภาพดีขึ้น ลูกสาวก็ตัดสินใจไปประกอบธุรกิจขายน้ำผลไม้ส่งออกที่หัวหิน คุณป้าจึงกลับมาเปิดร้านอาหารขึ้นใหม่ มีลูกค้ามาอุดหนุนแน่นร้านเพราะติดใจฝีมือน้ำพริก ป้าอี๊ดต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้ามาทำงาน ไม่มีเวลาจะเล่นเกม จึงต้องเลิกเล่นไปโดยปริยาย เวลานั้นป้าอี๊ดในวัย 60 ต้น ๆ คิดขึ้นมาได้ว่า “ในบรรดาพี่น้อง 8 คน มีแต่เราคนเดียวที่นำสูตรน้ำพริกมาต่อยอด ไม่อยากให้มันตายไปพร้อมกับเรา อยากให้ลูกเข้ามารับช่วง” จึงโทรศัพท์ไปปลุกลูกตอนตีสี่ว่า “แม่ไม่ไหวแล้ว อาจจะไม่ได้อยู่กับทรายนาน ๆ แล้วนะ” ลูกสาวซึ่งปฏิเสธที่จะกลับมาช่วยแม่ทำอาหารอยู่เรื่อย เพราะไม่มีใจรัก ขณะที่ธุรกิจที่ทำอยู่ที่หัวหินกำลังรุ่งโรจน์ ตั้งใจว่าจะทำไปอีกสักพักหนึ่งให้ได้เงินเพียงพอมาชำระหนี้ แล้วจะกลับไปเลี้ยงดูแม่ แต่เมื่อได้ยินแม่พูดประโยคนั้น เธอก็ทำหน้าที่ลูกที่ดี รีบบึ่งรถกลับจันทบุรีทันที จนเป็นที่มาของร้าน “บ้านน้ำพริกข้าวสวย” ในปัจจุบัน [3]
ชีวิตป้าอี๊ดพบจุดตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อรายการ “มนุษย์ต่างวัย” เชิญไปออกรายการพร้อมลูกสาว แนะนำร้าน “บ้านน้ำพริกข้าวสวย” เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในช่วงหนึ่ง ลูกสาวเกิดอวดความเก่งของแม่ว่า “แม่ไม่เพียงมีฝีมือปรุงอาหารอร่อยนะคะ แต่ยังเป็นนักเล่นเกมตัวยงนะคะ” เพียงเท่านี้ ชื่อ “ยัยตัวแสบ” “เกมเมอร์วัยเก๋า” ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในโลกออนไลน์ชั่วพริบตา ป้าอี๊ดหวนกลับมาเล่นเกม Ragnarok ด้วยความสุขอีกครั้ง ได้เข้าไปแชทในกลุ่มลูกหลานที่เคยเล่นกันมาเมื่อ 20 ปีก่อน บางคนมีครอบครัวและเลิกเล่นไปแล้ว แต่หลายคนยังคงเล่นกันอยู่ ด้วยความเป็นคนมีวินัยของของคุณป้า ก็ได้จัดตารางประจำวันของชีวิตเสียใหม่ แบ่งเวลาให้สมดุลระหว่างการแสดงฝีมือเสน่ห์ปลายจวักและการสร้างจินตนาการให้กับเหล่าตัวละครในโลกเกมออนไลน์ จัดตารางเปิดร้านอาหารตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น พร้อมตำน้ำพริกตามสั่งจนแล้วเสร็จก่อนกลับบ้าน และมาเล่นเกมในช่วง 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่มทุกวันไม่มีวันหยุด แรก ๆ ต้องรื้อฟื้นวิธีเล่นอยู่พักใหญ่ ต้องสร้างตัวละครใหม่เพราะนำเจ้า “ยัยตัวแสบ” กลับมาเล่นไม่ได้ จนวันนี้ฝีมือทำ Level กลับคืนมาได้สูงอีกครั้ง สร้างกระแสการเล่นเกม Ragnarok ให้กลับมามีชีวิตชีวา สื่อขอมารุมสัมภาษณ์จนเป็นที่โด่งดังในฐานะ “เกมเมอร์วัยเกษียณ” ยามอายุเลข 7 นำหน้า [4]
เพื่อนบางคนถามแบบหยิกแกมหยอกว่า“อายุปูนนี้แล้ว ยังมาเล่นเกมเหมือนเด็ก ๆ น่าจะสวดมนต์ทำใจให้สงบไม่ดีกว่ารึ” ป้าอี๊ดสวนตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่เชื่อมั่นในตัวเองว่า “ถึงฉันไม่ได้สวดมนต์ แต่ก็ไปใส่บาตร 2-3 วัดทุกเช้า กลางวันเปิดร้าน เย็นตำน้ำพริก กลางคืนเล่นเกม สวดมนต์ก่อนนอน แค่นี้ชีวิตแฮปปี้ที่สุดแล้ว”
คุณสุนันทา พงษ์เจริญ (ป้าอี๊ด) พูดถึงปรัชญาการใช้ชีวิตว่า “ชีวิตของเรา เป็นของเรา ใช้ชีวิตให้เป็น อย่าเป็นคนแก่ที่ไร้ค่า ใช้ทุกลมหายใจให้มีความสุข อยู่ตรงไหนมีความสุข ก็อยู่กับมันตรงนั้น อายุมาก 70 ปีแล้ว ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต โฟกัสกับความสุขที่เลือก แล้วใช้มันซะ”
ชีวิตธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาของป้าอี๊ด ควรถือเป็นแบบอย่างของความสุขด้วยทางเลือกที่ได้ตัดสินใจแล้ว
แหล่งที่มา:
[1] https://www.posttoday.com. 2021. จีนบดขยี้ธุรกิจเกมมิ่ง “มันคือฝิ่นมอมเมาจิตวิญญาณ”.[online] Available at: <https://www.posttoday.com/world/659664> [Accessed 5 September 2021].
[2] thisisgamethailand. 2021. เกมเมอร์วัยเกษียณสุดเก๋า พลิกชีวิตสุดดาร์กด้วยเกมออนไลน์. [online] Available at: <https://m.thisisgamethailand.com/content/Thai-GrandmaGamer-Ragnarok-Online.html> [Accessed 5 September 2021].
[3] Manoottangwai.com. 2021. ‘บ้านน้ำพริกข้าวสวย’ ร้านของสองแม่-ลูกที่เริ่มต้นด้วยความต่างแต่ลงท้ายทุกอย่างก็ออกมาอร่อยและลงตัว | READ | มนุษย์ต่างวัย. [online] Available at:<https://www.manoottangwai.com/read/view/baannamphrikkaosauy/> [Accessed 5 September 2021].
[4] springnews. 2021. “แม่อี๊ด” สุนันทา พงษ์เจริญ เกมเมอร์สูงวัย ผู้หลงใหลในเกมออนไลน์. [online] Available at: <https://www.springnews.co.th/program/810872> [Accessed 5 September 2021].