
โจ๋ และเพื่อนๆ อีก 3 คน ได้ก่อตั้งบริษัทเอกชนขึ้นมา ชื่อว่า บริษัท ตำรวจแต่ง จำกัด เพราะในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ทำงาน ไม่ช่วยเหลือประชาชน แถมยังมีการแอบนำยาบ้ามาขายเอง ทำให้ชาวบ้านติดยาหลายคนและทำให้เกิดเหตุคนคลั่งอาละวาด และปัญหาอีกมากมาย อีกทั้งโจ๋ต้องเจอกับปัญหาเรื่องความรักอีกด้วย พวกเขาทั้ง 4 คน จะผ่านปัญหาเลวร้ายนี้ไปอย่างไร และเขาจะจัดการกับตำรวจชั่วได้หรือไม่
"คิดดูนะ ขนาดโรงเรียนยังมีเอกชนเลย โรงพยาบาลก็ยังมีเอกชน แล้วทำไมโรงพักจะมีเอกชนไม่ได้"
ในปี 2023 ที่ผ่านได้เกิดกระแสของหนังลูกอีสานนอกกระแส อย่าง สัปเหร่อ มาในปี 2024 สำหรับผมคงต้องยกให้กำกับ หนังที่ต่อยอดจากคอนเทนท์ทางโซเชียล จากอดีตตำรวจอย่าง สิบตำรวจเอก ณัฐพร เพริศแก้ว หรือ โจ๋ โซเชียล ตำแหน่ง กำกับ / เขียนบท / ตัดต่อ / โปรดิวเซอร์ / กำกับภาพ และ พระเอกของเรื่อง ด้วยทุนสร้าง 10 ล้าน จาก เฮียโอเล่เจ้าของเต็นท์รถ ที่ กล้าเอาเงิน ไปเดิมพันกับยุคสมัยใหม่ กับหนังเรื่อง ตำรวจแต่ง กำเนิดผู้พิทักษ์สันติหลุด ที่จะกลายเป็นหนังม้ามืดประจำปีนี้แน่นอน

ข้อดีของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกพบ คือ พล็อตเรื่องที่น่าสนใจตั้งแต่ในตัวอย่างแล้ว ด้วยการพูดถึงการสร้างบริษัทตำรวจเอกชน ซึ่งเป็นพล็อตที่ดูง่ายๆ แต่คนดูอย่างเรากลับคิดไม่ถึงว่า หากวันหนึ่ง เราสามารถใช้บริการตำรวจได้แบบเดียวกับโรงเรียนเอกชน มันจะเป็นอย่างไร ความสนุกของหนังเรื่องนี้ยังมีเรื่องของการออกไปแก้ไขปัญหาของเหล่าตัวละครทั้ง 4 คน ที่ตัวหนังสามารถสร้างความรู้สึกผูกพันร่วมได้ ตัวบทและการแสดงที่ออกมาเป็นธรรมชาติ และชวนให้นึกถึง เพื่อนๆและคนใกล้ตัวของเรา ตัวหนังมีความติดดินด้วยการเล่าเรื่องจากชนบทง่ายๆ จากที่ตอนดราฟแรกสุดของเรื่อง ผู้กำกับคิดจะใช้ทะเลเป็นธีมหลัก ก่อนจะเป็นมาเป็นชนบททางภาคอีสานแทน ถือเป็นการตัดสินใจที่น่าชื่นชมมาก ถึงแม้จะต้องรื้อบทและของทุกอย่างที่เตรียมไว้แล้วก็ตาม การออกแบบซีนแอคชั่นเอง ก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นใช้ได้ หนังเรื่องนี้มีซีนแอคชั่น ไล่ล่าที่ค่อนข้างน่าสนใจมากกว่าแค่การวิ่งตามกันเฉยๆ โดยเฉพาะกับซีนไล่ล่าในช่วงต้นเรื่อง
อย่างไรก็ตามแล้วสิ่งที่สามารถเล่าได้อย่างยอดเยี่ยม คงหนีไม่พ้นเรื่องของการพูดถึงประเด็น ปัญหาของตำรวจในหมู่บ้าน (ซึ่งในเรื่องไม่ได้บอกว่าเป็นประเทศอะไร) ที่ควรจะเป็น บุคคลที่ประชาชนเห็นแล้วอุ่นใจ ให้กลายเป็น คนที่ประชาชนไม่ไว้ใจ ไม่อยากเจอ ให้ทุกอย่างออกมาเป็นภาพอย่างชัดเจน ทั้งการใช้อำนาจแบบ 2 มาตรฐาน จนดูเหมือนการกลั่นแกล้ง หรือ เรื่องของขั้นตอนการดำเนินงานที่ล่าช้า จนประชาชนต้องพึ่งตัวเองมากกว่าตำรวจ และประเด็นอีกข้อ คือ ยาเสพติด ที่ถูกนำเสนอมาออกในช่วงแรก ถูกนำมาเล่าในเชิงตลกในลักษณะการกระทำของคนเสพ แต่ในช่วงหลัง ตัวหนังสามารถเล่าถึงภาพความหน้ากลัวของยาเสพติดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เรียกได้ว่าสามารถนำเสนอได้ทั้งความบันเทิง และ แง่คิดดีๆในเรื่อง
สำหรับข้อเสียหลักๆของเรื่องสำหรับผม คงยกให้กับเรื่อง จังหวะ ในช่วงกลางจนถึงท้าย ที่หนังเริ่มมีอาการต้องหาอะไรมาเสริมเพื่อให้มันสนุก แต่กลับไม่ได้ช่วยให้หนังเดินไปข้างหน้าเท่าไหร่ และการให้เวลากับดราม่า ตัวละครน้อยไปหน่อย ทั้งที่ปมบางอย่างของเรื่องสำคัญมากกว่าจะมาแค่เล่าไม่กี่ซีน ทำให้เวลามีดราม่าบางอย่างกับตัวละคร เกิดอาการไม่ค่อยจะอินเท่าไหร่ แต่กลับมีเวลาเล่าเรื่องเรื่อยเปื่อยเกินไปจนแอบหลงทางมากไปซักหน่อย การตัดต่อเองก็จะเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆเริ่มมีวิธีการแบบซ้ำๆออกมาให้เห็นบ่อยจนรู้สึกแอบหมดมุขไปหน่อย จนทำให้เกิดอาการสะดุดขึ้นมาบ้าง
สำหรับผมแล้วหนังเรื่อง ตำรวจแต่ง กำเนิดผู้พิทักษ์สันติหลุด สามารถใช้คำว่าคนไทย ทำได้ทำถึง และเป็นหนังที่มีความ ทะเยอทะยาน แบบจริงๆผมเห็นถึงความตั้งใจของผู้กำกับที่ผ่านออกมาจากการเล่าเรื่อง น่าดีใจมากครับที่มีหนังอิสระ ทุนไม่ได้เยอะมาก ออกมาได้ดีขนาดนี้ ขอเป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยให้หนังเรื่องนี้ทำกำไรได้ และทำผลงานออกมาอีกเยอะๆครับ
*ขอบคุณภาพจาก มังกรฟิล์ม

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา