"...การผสมยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาอันตราย เช่น นำยาซิลเดนาฟิล ยาเสตียรอยด์ ยาอื่นๆ มาผสม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่ ผู้ขายหวังเพียงเงิน และ ไม่รับผิดชอบ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อการโฆษณา และ ซื้อผลิตภัณฑ์โดยง่าย ต้องจดจำชื่อผลิตภัณฑ์ และ บริษัทผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ที่ไม่รับผิดชอบ ไม่ซื้อหาผลิตภัณฑ์มาใช้อีก..."
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรจำนวนมากที่อ้างสรรพคุณเกินจริง บางผลิตภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงสมุนไพรบริสุทธิ์ แต่ถูกลักลอบผสม ยาแผนปัจจุบันที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะ ซิลเดนาฟิล (Sildenafil), สเตียรอยด์ (Steroids), ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs และยาอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อร่างกาย และเป็น การกระทำที่ผิดกฎหมาย
ประกาศ คําสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การเพิกถอนใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ปรากฎ
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/58461.pdf
เป็นตัวอย่างที่ทำให้ ผู้บริโภค จำเป็นต้องรอบคอบในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพร
การผสมยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาอันตราย เช่น นำยาซิลเดนาฟิล ยาเสตียรอยด์ ยาอื่นๆ มาผสม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่ ผู้ขายหวังเพียงเงิน และ ไม่รับผิดชอบ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อการโฆษณา และ ซื้อผลิตภัณฑ์โดยง่าย ต้องจดจำชื่อผลิตภัณฑ์ และ บริษัทผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ที่ไม่รับผิดชอบ ไม่ซื้อหาผลิตภัณฑ์มาใช้อีก
การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ผสมยาอันตราย มีอันตรายมากมาย เช่น
1. ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) หรือยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
• อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำกะทันหัน
• เสี่ยงหัวใจวายและหลอดเลือดสมองแตก
• อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดหัว เวียนศีรษะ มองเห็นผิดปกติ
2. สเตียรอยด์ (Steroids)
• กดภูมิคุ้มกัน เสี่ยงติดเชื้อง่าย
• ทำให้กระดูกพรุน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
• มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เสี่ยงเบาหวาน
• หยุดยาแบบกะทันหัน อาจเกิดภาวะไตวาย
3. ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น ไดโคลฟีแนค ไอบูโพรเฟน)
• เสี่ยงแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
• เพิ่มความเสี่ยงไตวายและหัวใจวาย
• หากใช้ติดต่อกันนาน อาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง
การกระทำเหล่านี้ผิดกฎหมาย เพราะ ผู้ผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ลักลอบผสมยาแผนปัจจุบัน ต้องรับทราบว่าละเมิดสิทธิด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค และ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจาก เป็นการผลิตและจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการแอบอ้างสรรพคุณเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค และ เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน ประชาชนจึงต้องระวัง ไม่หลงเชื่อคำโฆษณา หลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่า “รักษาได้ทุกโรค” หรือ “เห็นผลทันใจ”
ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมเหล่านี้ หวังเพียงผลกำไร โดยไม่รับผิดชอบต่อสุขภาพของผู้บริโภค ดังนั้น ประชาชนต้องระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่รัก
โดยที่ ผู้บริโภคที่ได้รับสินค้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ผสมยาอันตราย สามารถฟ้องร้องต่อศาลผู้บริโภค ตาม พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายจากสินค้าไม่ปลอดภัย ได้ หากผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ลักลอบผสมยาอันตราย เช่น ซิลเดนาฟิล, สเตียรอยด์, หรือยาอื่น ๆ โดยไม่ได้แจ้งบนฉลากสินค้า ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย ผู้บริโภคสามารถใช้สิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตาม พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551
พระราชบัญญัตินี้คุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับความเสียหายจากสินค้าไม่ปลอดภัย โดยกำหนดให้ ผู้ผลิต, ผู้นำเข้า และผู้ขาย ต้องร่วมกันรับผิดชอบ หากสินค้าเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ เป็น สิทธิของผู้บริโภคในการฟ้องร้อง
เงื่อนไขในการฟ้องร้อง
1. ผู้บริโภคต้องได้รับความเสียหาย เช่น
• บาดเจ็บทางร่างกายจากการใช้ผลิตภัณฑ์
• เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น ความดันตกต่ำเฉียบพลัน, ไตวาย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน
• ทรัพย์สินเสียหาย เช่น ค่ารักษาพยาบาล
2. ไม่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ผลิตหรือผู้ขายมีเจตนาทำผิด
• เพียงแค่พิสูจน์ว่า สินค้าเป็นอันตราย และก่อให้เกิดความเสียหาย ผู้ผลิต/ผู้ขายก็ต้องรับผิดชอบ
3. สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งทางแพ่งและอาญา
ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อกฎหมาย ตาม มาตรา 5 ของ พ.ร.บ. นี้ มีดังนี้ ผู้ผลิต (โรงงานที่ผลิตสินค้าผิดกฎหมาย) ผู้นำเข้า (หากเป็นสินค้านำเข้า) ผู้ขาย (ร้านค้าที่จำหน่ายโดยไม่ตรวจสอบ) หมายความว่า แม้แต่ร้านค้าที่ขายสินค้าดังกล่าวก็ต้องรับผิดชอบด้วย
ผู้บริโภคสามารถดำเนินการฟ้องร้องได้โดย
1. เก็บหลักฐาน เช่น
• ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดอันตราย
• ใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการซื้อ
• ใบรับรองแพทย์หรือหลักฐานการรักษาพยาบาล
2. ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โทร 1556
• สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร 1166
3. ยื่นฟ้องต่อศาลผู้บริโภค
• ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการฟ้องคดี
• ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องมีทนายความ
ที่ควรทราบคือ ผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางจิตใจได้ ตาม พ.ร.บ. สินค้าไม่ปลอดภัย หากพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ลักลอบผสมยาอันตราย โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ผลิตมีเจตนา เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภค และให้ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
เนื่องจาก มาตรา 4 ของ พ.ร.บ. กำหนดว่า ความเสียหายที่สามารถเรียกร้องได้นั้น ครอบคลุมถึง
1. ความเสียหายต่อร่างกาย หรือสุขภาพ เช่น บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต
2. ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
3. ความเสียหายทางจิตใจ ที่เกิดจากการใช้สินค้าที่ไม่ปลอดภัย
ดังนั้น ผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ลักลอบผสมยาอันตราย สามารถฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายได้ตาม
พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551 (Product Liability Act, B.E. 2551) โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ผลิตมีเจตนา
ประชาชนต้องไม่ปล่อยให้ตนเองตกเป็นเหยื่อของสินค้าอันตราย หากพบผลิตภัณฑ์ต้องสงสัย ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที และ รักษาสิทธิฟ้องร้องกรณีที่ได้รับความเสียหาย ตาม พรบ ดังกล่าว
วิทยา กุลสมบูรณ์
มูลนิธิเภสัชชนบท