
"...กระนั้นก็ตาม โครงการบ่อนการพนันกาสิโนที่โอซาก้านี้ยังเต็มไปด้วยความกังวลของคนญี่ปุ่น ผลโพลจากหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนเมื่อ ค.ศ. 2020 แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงกังขากับโครงการ คนตอบจำนวน 64% เรียกร้องให้ระงับแผนการสร้างแหล่งกาสิโนครบวงจรเอาไว้ก่อน รัฐบาลได้ตอบสนองโดยการเก็บค่าเข้ากาสิโนของคนญี่ปุ่นคนละ 42 เหรียญสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังยับยั้ง คนญี่ปุ่นไม่ให้เข้าไปเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนมากเกินไป..."
“โอซาก้า” จะเปิดบ่อนกาสิโนปี 2030 ส่วน “ดูไบ” เมืองหลวงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ ยูเออี เปิดบ่อนกาสิโน ปี 2026 ทั้งสองแห่งเปิดบนเกาะเทียม ดูไบเปิดที่เกาะ ชื่อ ราส อัล ไคมาห์ (Ras Al Khaimah) ส่วนโอซาก้าเปิดที่เกาะ ชื่อ ยูเมชิม่า (Yumeshima) อยู่ตรงข้ามอ่าวโอซาก้า
โครงการทั้งสองโครงการการเป็นการลงทุนของบริษัทกาสิโนระดับโลก ดูไบเป็นการลงทุนของบริษัทวินน์ รีสอร์ท (Wynn Resorts) ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองพาราไดซ์ รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา
ส่วนโอซาก้าเป็นการลงทุนร่วมระหว่างบริษัทเอ็มจีเอ็มรีสอร์ท (MGM Resorts) ยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาที่มีการลงทุนทำธุรกิจกาสิโนอยู่แล้วในหลายพื้นที่ทั่วโลกกับบริษัทโอริกซ์ (Orix) ลงทุนบริษัทละ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 20% มีบริษัทอื่นอีก 22 แห่งร่วมลงทุน ในจำนวนนี้บริษัทที่มีชื่อเสียงได้แก่ กลุ่มบริษัทพานาโซนิกโฮลดิ้ง (Panasonic Holdings) กับเวสต์เจแปนเรลเวย์ (West Japan Railway)
แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ไม่เคยทำมาก่อน (an unprecedented capital project) แต่ละประเทศจึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนการกำหนดนโยบาย การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งการคัดเลือกผู้ลงทุนและการเจรจาต่อรองกับผู้ลงทุนเป็นไปอย่างโปร่งใสและรับผิดชอบต่อสาธารณะ
ยกตัวอย่าง กรณีโอซาก้าไออาร์ (Osaka’s IR) คำว่า “IR” ย่อมาจาก “Integrated Resorts” แปลว่า “แหล่งที่พักครบวงจร”
แม่แบบของการตั้งบ่อนกาสิโนแบบ “IR” มาจากสิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์ได้ตั้งบ่อนกาสิโนประเภทนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในทศวรรษ 2000
คำว่า “IR” ต้องการใช้เพื่อเน้นว่าโครงการมีอะไรมากกว่าบ่อนกาสิโน รวมถึงแหล่งที่พักและสถานพักผ่อนหย่อนใจและสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ (The term “integrated resort” was employed to underline the point the any project would be more than just a casino, and incorporate accommodations and an array of leisure and business amenities)
จุดเน้นที่สำคัญ คือ ต้องการระบุว่าเป็นการเปิดบ่อนกาสิโนชั้นสูง (the high-end casino) ไม่ใช่บ่อนชั้นต่ำ (the low-end casino) แบบบ่อนแถบชายแดนไทยที่ไม่ได้มาตรฐานบ่อนกาสิโนระหว่างประเทศ
โอซาก้าให้มีบ่อนไม่เกิน 3% ของพื้นที่ เท่ากับสิงคโปร์ ส่วนดูไบไม่เกิน 4%
การทำบ่อนกาสิโนครบวงจรต้องใช้เงินลงทุนเป็นแสน ๆ ล้านบาท เช่น บ่อนกาสิโนโอซาก้าใช้เงินลงทุน 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา บ่อนกาสิโนดูไบใช้เงินลงทุน 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา แต่บ่อนกาสิโนมีรายได้คิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้ของสถานที่พักครบวงจรทั้งหมด
สำหรับการเปิดบ่อนกาสิโนของญี่ปุ่นที่โอซาก้านั้น มีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้
ขั้นที่หนึ่ง รัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมาย ชื่อว่า พระราชบัญญัติการนำกาสิโนไปปฏิบัติของประเทศญี่ปุ่น (The Japan Casino Implementation Act) เมื่อ ค.ศ. 2016 หรือเรียกว่า กฎหมายกาสิโนของญี่ปุ่น (the Japanese casino law) เพื่อประกาศว่าสภาไดเอ็ทแห่งญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะนำกาสิโนขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย แต่ประกาศใช้เมื่อ ค.ศ. 2018
แต่ความจริง กฎหมายฉบับนี้มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ ค.ศ. 2006 ซึ่งพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP ประกาศนโยบายพื้นฐานเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงกาสิโนในญี่ปุ่น (Japan’s basic policy concerning the introduction of Casino Entertainment)
กฎหมายการนำกาสิโนไปปฏิบัติของญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 2 เฟส
เฟสแรก หาทางสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนโยบายการเปิดกาสิโนก่อน หมายถึงขั้นการเตรียมการเปิดกาสิโน
ส่วนเฟสที่สอง จึงเป็นการนำนโยบายการเปิดกาสิโนไปปฏิบัติ คือ เปิดจริง
ในเฟสแรก ขั้นการเตรียมการ เป็นขั้นที่สำคัญที่สุด รัฐบาลก็ต้องไปสื่อสารกับประชาชนตรงไปตรงมาว่า “ชาวญี่ปุ่นจะว่าอย่างไร” ถ้าประเทศญี่ปุ่นจะเปิดบ่อนกาสิโน ได้แก่ การทำโพลถามความคิดเห็น (opinion polls) หลายครั้ง ทั้งโดยหน่วยงานของรัฐและเอกชน เพื่อนำข้อมูลมารับฟัง นำมาแก้ไขและบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความวิตกกังวลของประชาชน ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นและให้หลักประกันเพิ่มเติม
ต่อจากนั้น การนำมาศึกษาความเป็นไปได้ก่อน โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบทางสังคม และรัฐบาลนำผลการศึกษามาชั่งน้ำหนักและสื่อสารกับประชาชนเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การพนันออนไลน์ (online gambling) เป็นการพนันที่ประเทศในเอเชียเกือบทั้งหมดยังไม่ยอมรับกันที่จะทำให้ถูกกฎหมาย ยกเว้นฟิลิปปินส์ประเทศเดียว ในกฎหมายการนำกาสิโนไปปฏิบัติของญี่ปุ่นจึงระบุเอาไว้ชัดเจนว่าให้เปิดถูกกฎหมายเฉพาะกาสิโนที่ตั้งอยู่บนดิน (land based casinos)
ในขั้นตอนของการสื่อสารกับประชาชนนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นก็ตรงไปตรงมามาก โดยได้อธิบายเป้าหมายของรัฐบาล 3 ข้อ ได้แก่
ข้อที่หนึ่ง เป้าหมายทางเศรษฐกิจ ต้องการสร้างความเติบโตให้กับตลาดการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางมาญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายในการพักค้างคืนในญี่ปุ่น
ข้อที่สอง เป้าหมายทางสังคม ต้องการลดต้นทุนทางสังคมจากการพนัน โดยเฉพาะปัญหาการติดการพนันและหรืออาชญากรรม
ข้อที่สาม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งสองข้างต้น รัฐบาลได้ระบุเป้าหมายย่อยเอาไว้ 5 ข้อ ได้แก่
(1) ให้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากที่สุดในรูปของเงินลงทุน และผลกระทบต่อจีดีพี (GDP) การจ้างงานและรายได้
(2) ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่ออุตสาหกรรมการพนันอื่น
(3) เพิ่มอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการแสดงเพื่อให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้
(4) สร้างรายได้ภาษีที่ยั่งยืนแก่รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง
(5) เพิ่มเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญแก่ปัญหานักการพนันของญี่ปุ่น
ในการศึกษาความเป็นได้และผลกระทบนั้น ญี่ปุ่นได้ศึกษาการพนันประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศก่อน ต่อมาก็ศึกษาความรับผิดชอบและปัญหาการพนันในปัจจุบันในประเทศของเขา
ต่อจากนั้น ศึกษาเปรียบเทียบตลาดการพนัน ได้แก่ การเทียบตลาดการพนันสิงคโปร์กับปัญหาการพนันของสิงคโปร์ เช่น วิเคราะห์ว่าสิงคโปร์
(1) ใช้โมเดลแหล่งที่พักครบวงจร (IR)
(2) จำนวนใบอนุญาต 2 ใบ
(3) การพนันประเภทอื่นของสิงคโปร์มีอะไรบ้าง
(4) อัตราภาษีที่รัฐบาลได้รับอยู่ในปัจจุบันเท่าไร
(5) ข้อจำกัดที่กำหนด เช่น ค่าธรรมเนียมคนเล่นที่เป็นชาวสิงคโปร์ และชาวต่างชาติ
ต่อมา ศึกษาปัญหาที่เกิดจากการพนันของสิงคโปร์ เช่น การห้ามใครบ้างเข้าไปเล่น การห้ามคนโกงเข้ามาเล่นได้อย่างไร การจัดทำแผนความรับผิดชอบของบ่อน การรายงานประจำปี การห้ามโฆษณา
ถัดมาจึงศึกษาถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและตลาด เช่น จำนวนผู้ได้รับใบอนุญาต ที่ตั้ง ภาษี กระบวนการจัดหาผู้ลงทุนและการออกใบอนุญาต ข้อจำกัดของตลาด ข้อจำกัดของผู้ลงทุน เช่น การฟอกเงิน การกำกับดูแล
ต่อมาญี่ปุ่นจึงศึกษาสถานที่ตั้งบ่อนกาสิโน เช่น ศึกษาว่าจะตั้งที่ไหนดีโดยการเปรียบเทียบกัน 3 แห่ง และศึกษาผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายในการกำกับดูแลของรัฐบาล
ที่สำคัญเป็นเงื่อนไขด้านต่าง ๆ ได้แก่ กำลังแรงงาน ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เงินทุน การแข่งขัน ความสามารถในการจัดการ
ต่อมาเป็นการศึกษาเงื่อนไขทางด้านอุปสงค์ ได้แก่ คุณภาพพื้นฐานของพลเมือง ทัศนคติของพลเมืองและคุณค่าของพลเมืองต่อบ่อนกาสิโน ทัศนคติต่อความเสี่ยงหรือการพนัน การสร้างนวัตกรรมและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจ ราคาสินค้า การแข่งขัน การพัฒนาและปลูกฝังความสามารถพิเศษ การขนส่ง ความสนับสนุนต่อการกระจายอุตสาหกรรม
ที่สำคัญ น่าจะเป็นการศึกษารายได้จากภาษี รายได้จากการลงทุน และตัวเลขจากการจ้างงานโดยตรงของบ่อนกาสิโน ผลกระทบทางอ้อมทางเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ ผลกระทบที่เป็นตัวเร่งทางเศรษฐกิจ
จากการศึกษาทั้งหมดมาจบลงที่ผลกระทบทางสังคม เช่น ความเสื่อมศีลธรรมและศาสนา การเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรม การฉ้อโกง การคอร์รัปชัน ปัญหาต่อเนื่องและผลลัพธ์ของต้นทุนทางสังคม แล้วขั้นสุดท้ายจึงเป็นผลกระทบต่อสาธารณสุขหรือสุขภาพจากการพนัน
สรุปได้ว่าในเฟสของการเตรียมการเปิดบ่อนกาสิโนนี้เป็นขั้นสำคัญ ญี่ปุ่นใช้วิธีการสื่อสารและการศึกษาความเป็นไปได้เป็นหลายปี จนกระทั่งในที่สุด ญี่ปุ่นจึงตัดสินใจกำหนดว่าให้เปิดบ่อนกาสิโนได้ 3 แห่ง แต่เขาอนุญาตให้เปิดได้ทีละแห่ง ปัจจุบันอนุญาตเพียงแห่งเดียวก่อน คือ ที่เกาะยูเมชิม่า ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดงานเวิลด์เอ๊กซโป (the World Expo) ปี 2025 นี้ด้วย
แหล่งที่พักครบวงจรดังกล่าวเป็นศูนย์บันเทิงครบวงจร โดยเน้นการเป็นบ่อนกาสิโนระดับหรูหรา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากบ่อนแล้ว มีโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์สรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์ และท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งให้บริษัทกาสิโนลงทุนสร้างขึ้นใหม่ และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์รับส่งนักท่องเที่ยว
เป้าหมายของโครงการจะทำรายได้ปีละ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดย 80% ได้มาจากกาสิโนที่จะได้จากการเล่นพนันของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 ล้านคน เป็นคนญี่ปุ่น 14 ล้านคน ความสำคัญของโครงการอยู่ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจยุคหลังโควิดและหวังดึงดูดนักพนันร่ำรวยในแถบเอเชียและคนในญี่ปุ่นเอง
นอกจากนั้นญี่ปุ่นยังหวังว่าบ่อนกาสิโนที่โอซาก้าจะมีความสามารถแข่งขันกับบ่อนกาสิโนของสิงคโปร์ โดยเอาบ่อนกาสิโนสิงคโปร์เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบ (benchmark) ในการแข่งขัน
กระนั้นก็ตาม โครงการบ่อนการพนันกาสิโนที่โอซาก้านี้ยังเต็มไปด้วยความกังวลของคนญี่ปุ่น ผลโพลจากหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนเมื่อ ค.ศ. 2020 แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงกังขากับโครงการ คนตอบจำนวน 64% เรียกร้องให้ระงับแผนการสร้างแหล่งกาสิโนครบวงจรเอาไว้ก่อน รัฐบาลได้ตอบสนองโดยการเก็บค่าเข้ากาสิโนของคนญี่ปุ่นคนละ 42 เหรียญสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังยับยั้ง คนญี่ปุ่นไม่ให้เข้าไปเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนมากเกินไป
นักวิชาการวิเคราะห์กันว่าโครงการบ่อนกาสิโนที่โอซาก้านี้มาจากการผลักดันของบริษัทนักลงทุนซึ่งหวังผลระยะยาวจากการเข้าไปสู่ตลาดการพนันกาสิโนแห่งใหม่ที่มีคนเล่นจำนวนมาก
ส่วนตลาดกาสิโนเก่าได้พัฒนามาแล้วในมาเก๊า ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะประเทศไทยกำลังพยายามทำให้ถูกกฎหมายเพื่อหวังที่จะดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเหมือนประเทศอื่น ดังที่เราเห็นผู้บริหารบริษัทการพนันขนาดใหญ่จากมาเก๊าและลาสเวกัสเข้ามาผลักดันนโยบายนี้อยู่ในบ้านเราอย่างเปิดเผย เพราะเขาเป็นบริษัทการพนันที่ถูกกฎหมาย
แต่ดูเหมือนกรณีของประเทศไทยยังไม่โปร่งใส และขาดการศึกษาความเป็นได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการที่รัฐบาลอ้างว่าสถานบันเทิงครบวงจรไม่ใช่ “กาสิโน” นั้นเป็นการบิดเบือนการสื่อสารอย่างเป็นระบบ
รัฐบาลนั่นแหละตัวดีที่เป็นคนบิดเบือน --ไม่ใช่คนอื่น!! เพราะใคร ๆ ในโลกเขาก็ยอมรับกันว่า “แหล่งที่พักครบวงจร” หรือ “สถานบันเทิงครบวงจร” หมายถึง บ่อนกาสิโนชั้นสูงที่เต็มไปด้วยความหรูหราและลงทุนเป็นแสน ๆ ล้าน
รัฐบาลไทยน่าจะเปิดใจตรงไปตรงมากับประชาชนเหมือนญี่ปุ่นกรณีโอซาก้าโมเดลว่า “เราต้องการเปิดบ่อนกาสิโนชั้นสูงที่มีทุกอย่างครบเครื่อง เราจะไม่ทำเหมือนบ่อนการพนันแถบชายแดนที่ไม่ได้มาตรฐานของบ่อนกาสิโนระหว่างประเทศ”—
รัฐบาลไทยน่าจะพูดออกมาตรง ๆ ว่า “บ่อนอย่างนั้นมันจะลงทุนแสนล้านได้อย่างไร??” แล้วก็ลงมือทำการศึกษาความเป็นได้อย่างจริงจัง..และบริหารจัดการความกังวลของประชาชนตรงไปตรงมา...
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.js100.com และ https://www.freepik.com

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา