
"...รัฐธรรมนูญมาเลเซียให้อำนาจ 13 รัฐและ 3 ดินแดนสหพันธ์ออกกฎหมายด้านสาธารณสุขของตนได้ ผลลัพธ์คือเกิด “พื้นที่ปลอด vape” กระจัดกระจาย—ปีนัง ยะโฮร์ กลันตัน และเคดะห์ ต่างประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้าครบวงจรแล้ว ขณะที่รัฐข้างเคียงยังอนุญาตให้ขายภายใต้เงื่อนไข หน่วยงานสาธารณสุขจึงต้องเผชิญ “ช่องโหว่ข้ามเขต” ซึ่งเยาวชนสามารถเดินทางไปซื้อ vape ได้ง่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง..."
กระแส “ไร้ vape” ในอาเซียน ได้กดดันมาเลเซียให้เร่งทบทวนท่าที หลังเพื่อนบ้านห้าประเทศแบนเต็มรูปแบบและสี่รัฐภายในประเทศมีคำสั่งแบน เกิดช่องว่างต่างรัฐที่แบนและไม่แบน ล่าสุด เหตุวัยรุ่นชักเกร็งและชายหนุ่มเสียชีวิตจาก vape ฉุดภาพลวงตา จาก“ปลอดภัยกว่า” พังทลายและปลุกเสียงเรียกร้องจากนักวิชาการ‑ประชาชนให้ยุติบุหรี่ไฟฟ้าทั้งประเทศ. เมื่อรัฐมนตรีสาธารณสุขส่งสัญญาณพร้อมขยับ “แผนแบน” หลายฝ่าย เชื่อว่าวันปิดฉาก vape ในมาเลเซียอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม.
การแบนกำลังขยายวงเพิ่มขึ้น
ในปี 2025 อาเซียนมีห้าประเทศ—สิงคโปร์ บรูไน ไทย กัมพูชา และลาว—ที่สั่งห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย และใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง ขณะที่เวียดนามประกาศจะเข้าร่วม “กลุ่มแบน” ภายในสิ้นปีเดียวกัน กระแสนี้กดดันให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ซึ่งยังยึดแนวทาง “อนุญาตแต่ควบคุม” ภายใต้ Control of Smoking Products for Public Health Act 2024 (หรือ Act 852) ต้องทบทวนท่าทีเชิงรุกยิ่งขึ้น
ในมาเลเซีย สี่รัฐ แบนแล้ว
รัฐธรรมนูญมาเลเซียให้อำนาจ 13 รัฐและ 3 ดินแดนสหพันธ์ออกกฎหมายด้านสาธารณสุขของตนได้ ผลลัพธ์คือเกิด “พื้นที่ปลอด vape” กระจัดกระจาย—ปีนัง ยะโฮร์ กลันตัน และเคดะห์ ต่างประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้าครบวงจรแล้ว ขณะที่รัฐข้างเคียงยังอนุญาตให้ขายภายใต้เงื่อนไข หน่วยงานสาธารณสุขจึงต้องเผชิญ “ช่องโหว่ข้ามเขต” ซึ่งเยาวชนสามารถเดินทางไปซื้อ vape ได้ง่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง
จุดเปลี่ยนจากเคสผู้ป่วยและเสียชีวิต
เดือนเมษายน 2025 วัยรุ่นชายอายุ 17 ปีในยะโฮร์เกิดอาการชักเกร็งและหมดสติหลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินเข้มข้น กรณีนี้ถูกสื่อท้องถิ่นขยายผลอย่างกว้างขวาง ไม่นานนักในเดือนพฤษภาคม ชายวัย 27 ปีจากรัฐกลันตันเสียชีวิตภายหลังโพสต์คลิประบุว่า “ปอดพัง หัวใจทำงานได้แค่ 3 %” จากการใช้ vape ติดต่อกันหลายปี คำพูดสุดท้ายของเขา—“เลิกให้ได้ก่อนจะสายเกินไป”—กลายเป็นไวรัลและสะเทือนสังคมมาเลเซียอย่างรุนแรง
เหตุการณ์สองกรณีนี้ทำให้มุมมอง “บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่า” ถูกท้าทายอย่างสิ้นเชิง กระแสสื่อกระแสหลักและโซเชียลมีเดียหันมาให้ความสนใจอันตรายของ vape ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แรงกดดันเชิงนโยบายระหว่าง นักวิชาการ กับ ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า
เครือข่ายนักวิชาการและองค์กรการแพทย์ เช่น สมาคมแพทย์สาธารณสุขมาเลเซีย ชี้ว่าโครงสร้าง “รัฐใครรัฐมัน” ทำให้ไม่อาจควบคุมการแพร่กระจายสินค้านี้ได้จริง พวกเขาเรียกร้อง “นโยบายเดียวทั่วประเทศ” เพื่อปิดช่องโหว่ในทันที พร้อมเสนอให้เร่งเก็บภาษีน้ำยานิโคตินในระดับที่ทำให้ราคา vape สูงกว่าบุหรี่ธรรมดาเพื่อลดแรงดึงดูดต่อเยาวชน
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรม vape ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 2 พันล้านริงกิตต่อปี อ้างถึงการจ้างงานและรายได้ภาษีเป็นเหตุผลหลักในการต่อต้านการแบน ผลักดันให้ประเด็นนี้กลายเป็นศึกการเมืองระหว่าง “สุขภาพประชาชน” กับ “ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ”
สัญญาณจากรัฐมนตรีสาธารณสุข
ดร. ดซุลกีฟลี อาหมัด รัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซีย ยอมรับต่อหน้าสภาว่า “อาจพลาดรถไฟไปแล้ว” เพราะกฎหมายควบคุมตาม Act 852 ไม่ทันความเร็วของตลาด vape ทว่าพร้อม “รื้อแผนแบนทั่วประเทศ” หากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และแรงสนับสนุนสาธารณะชี้ว่านั่นคือทางออกเดียวที่ปกป้องเยาวชนได้จริง กระทรวงจึงอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีในครึ่งหลังของปี 2025
มาเลเซียใกล้ถึงวัน “แบนบุหรี่ไฟฟ้า”
แรงเหวี่ยงจากเพื่อนบ้านอาเซียน การเสียชีวิตและเจ็บป่วยที่เป็นข่าวใหญ่ รวมถึงเสียงเรียกร้องของนักวิชาการและภาคประชาชน กำลังกดดันให้มาเลเซียก้าวสู่จุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ คำถามจึงไม่ใช่ว่า “ควรแบนหรือไม่” หากแต่เป็น “เมื่อใด” และ “จะแก้ผลกระทบสังคม–เศรษฐกิจอย่างไร” สัญญาณจากรัฐมนตรีสาธารณสุขบ่งชี้ว่าการออกกฎหมายกลางเพื่อยุติบุหรี่ไฟฟ้าอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมมาก—อาจไม่ใช่เรื่องของปีหน้า แต่เป็น “เรื่องของไม่กี่เดือนข้างหน้า” เลยทีเดียว
วิทยา กุลสมบูรณ์
มูลนิธิเภสัชชนบท
คำเตือนสุดท้ายจากหนุ่มมาเลย์ “บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายยิ่งกว่าบุหรี่มวน“ ไม่กี่วันก่อนเสียชีวิต
นายโมห์ด แรดซี่ มูสตาฟ์ฟา อายุ 44 ปี อดีตทหารอากาศมาเลเซีย เผยแพร่Tic Tok วิดีโอของตัวเอง ยาว 6 นาที เมื่อวันที่ 28 เมษยนที่ผ่านมาที่เขาหายใจเหนื่อยหอบอย่างรุนแรง บอกว่าเขาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อคลายเครียดจากงาน
เขาเล่าว่าเขาชอบถือบุหรี่ไฟฟ้าไว้สูบในมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งจับแฮนขณะขี่มอร์เตอร์ไซด์ และว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้หัวใจเขาอ่อนแรงลงเหลือเพียง 3% เขาพยายามที่จะหยุดสูบ แต่มีอาการเหนื่อยมากอยู่ 2 วันจนต้องเข้าโรงพยาบาล
วิดีโอแสดงถึงอาการหอบรุนแรงและมีอาการไอมากเป็นระยะๆ
เขายกถุงที่มีท่อระบายนำ้หนองจากช่องปอด พร้อมพูดว่า “ บุหรี่ไฟฟ้าทำความเสียหายต่อปอดของผม มันอันตรายยิ่งกว่าบุหรี่มวน”
เขาเตือนคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ”อย่าไปเล่นกับบุหรี่ไฟฟ้า รีบหยุดสูบก่อนที่ปอดและหัวใจของคุณจะได้รับอันตราย“
เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2568 สิบวันหลังจากที่เขาออกมาเตือนให้คนเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า
มีชาวเนตคอมเมนต์ แบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองที่ป่วยจากสูบบุหรีไฟฟ้า อีกคนขอบคุณที่นายโมห์ด แรดซี่ ออกมาเตือนสติให้คนเลิสูบ (จากข่าว)
ศ.นะประกิต วาทีสาธกกิจ 19 พฤษภาคม 2568
เอกสารอ้างอิง
1. South China Morning Post. Malaysian teen has seizure after vaping reignites debate on device ban. 20 เมษายน 2025.
2. The Straits Times. Haunting last words: ailing Malaysian vaper dies days after warning others to kick the habit. 6 พฤษภาคม 2025.
3. Channel NewsAsia. Malaysia ready to revisit vape ban: health minister. 5 กุมภาพันธ์ 2025.
4. The Straits Times. Experts call for unified policy across all Malaysian states to halt sales of vape products. 16 พฤษภาคม 2025.
5. Southeast Asia Tobacco Control Alliance (SEATCA). E‑cigarette regulation in ASEAN: status update 2025.
6. Vietnam News Agency. National Assembly approves comprehensive e‑cigarette ban effective 2025. 28 มีนาคม 2025.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา