
"...หลักนิติธรรมตามคำประกาศวอร์ซอว์มีความสำคัญตรงที่เป็นทั้งกรอบแนวคิดและเป็นทั้งการประยุกต์ใช้หลักนิติธรรมสมัยใหม่ รวมทั้งเป็นแนวทางการประเมินผลการดำเนินการตามหลักนิติธรรมของประเทศต่าง ๆ ในโลกที่ยึดหลักนิติธรรมเป็นหลักสำคัญในการปกครองประเทศ ตลอดจนนำไปปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิรูป โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น..."
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 การประชุมที่เมืองวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ ออกประกาศสำคัญ ชื่อว่า “คำประกาศหลักการวอร์ซอว์สำหรับหลักนิติธรรม” (Warsaw Principles for the Rule of Law) อันเป็นการยกระดับความสำคัญต่อปัญหานิติธรรมธรรมระดับโลกและมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความยุติธรรม (justice) และความพร้อมรับผิด (accountability) แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
คำประกาศหลักการวอร์ซอว์สำหรับหลักนิติธรรม ประกอบด้วยหลัก 10 ข้อ ได้แก่
หลักข้อ 1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับการตรวจสอบและถ่วงดุลทางสถาบัน (Strengthen Institutional Checks and Balances) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
1.1 เน้นความจำเป็นสำหรับการสร้างความเข้มแข็งต่อการตรวจสอบอำนาจฝ่ายบริหาร
1.2 ดัชนีหลักนิติธรรมของโครงการความยุติธรรมโลก ค.ศ. 2024 (2024 WJP Rule of Law Index) แสดงให้เห็นว่าครึ่งหนึ่งของโลกที่ได้ทำการวัดนั้นมีค่าตามหลักนิติธรรมลดลง
1.3 การเสริมสร้างความเป็นอิสระของวิชาชีพกฎหมายและการกำกับดูแลสถาบันทางวิชาชีพกฎหมาย
หลักข้อ 2 การคุ้มครองการถ่ายโอนอำนาจตามกฎหมายอย่างสันติ (Safeguarding Peaceful Lawful Transfer of Power) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
2.1 ให้ความสำคัญกับกระบวนการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือเพื่อการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง
2.2 การสนับสนุนมาตรการต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลและการหลอกลวงในการเลือกตั้ง
2.3 ทำให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครององค์กรกำกับดูแลการเลือกตั้งและสิทธิคัดค้านทางการเมือง
หลักข้อ 3 การคุ้มครองพื้นที่พลเมือง (Protect Civic Space) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
3.1 เน้นความสำคัญของการมีอิสรภาพของสื่อมวลชนและการมีส่วนร่วมของสังคมพลเมือง
3.2 สนับสนุนการคุ้มครองการมีอิสรภาพขั้นพื้นฐาน เช่น การแสดงออกและการรวมกลุ่มกัน
3.3 ส่งเสริมความโปร่งใสในการเป็นเจ้าของสื่อมวลชนและสนับสนุนการมีนักสื่อสารมวลชนที่เป็นอิสระ
หลักข้อ 4 การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protect Human Rights) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
4.1 เน้นที่ปัญหาความเสื่อมถอยในระดับโลกของการแสดงออก การรวมกลุ่มกันและสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล
4.2 ดัชนีหลักนิติธรรมของโครงการความยุติธรรมโลก ค.ศ. 2024 แสดงให้เห็นถึงการเลวลงของการค่าของวัดสิทธิมนุษยชนเกือบสองในสามของประเทศทั้งหมดที่ทำการวัด
4.3 ยึดมั่นกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับการคุ้มครองทางกฎหมายและกรอบการป้องกันการเลือกปฏิบัติ
หลักข้อ 5 การส่งเสริมความซื่อสัตย์และความพร้อมรับผิด (Promote Integrity and Accountability) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
5.1 การคอร์รัปชันทำลายความยุติธรรมและความไว้วางใจในสถาบันต่าง ๆ
5.2 ดัชนีหลักนิติธรรมของโครงการความยุติธรรมโลก ค.ศ. 2024 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการควบคุมคอร์รัปชันตั้งแต่ ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา
5.3 เรียกร้องให้ขยายกรอบการต่อต้านการคอร์รัปชันและริเริ่มการเป็นรัฐบาลแบบเปิด (open government initiatives)
หลักข้อ 6 การสร้างความก้าวหน้าให้กับความยุติธรรมที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Advance People-Centered Justice) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
6.1 เน้นความจำเป็นสำหรับการมีระบบความยุติธรรมที่สามารถเข้าถึงได้และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
6.2 ดัชนีหลักนิติธรรมของโครงการความยุติธรรมโลก ค.ศ. 2024 แสดงให้เห็นถึงการเลวลงของการเข้าถึงความยุติธรรมในหลายประเทศ
6.3 สนับสนุนสำหรับการช่วยเหลือทางกฎหมายและความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม
หลักข้อ 7 การคุ้มครองความเป็นอิสระของนักกฎหมาย (Safeguard Independence of Lawyers) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
7.1 นักกฎหมายเป็นคนสำคัญสำหรับการเข้าถึงความยุติธรรมและหลักนิติธรรม
7.2 ยึดหลักการคุ้มครองนักกฎหมายจากการคุกคามและเพื่อให้มั่นใจว่านักกฎหมายมีความเป็นอิสระ
7.3 กระตุ้นให้รัฐบาลสนับสนุนกติกาสากลของสภายุโรปเกี่ยวกับการคุ้มครองนักกฎหมาย (the Council of Europe Convention on Protection of Lawyers)
หลักข้อ 8 การสร้างความก้าวหน้าให้กับหลักนิติธรรมสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน (Advance Rule of Law for Sustainable Development) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
8.1 หลักนิติธรรมมีความสำคัญสำหรับการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
8.2 ส่งเสริมกรอบกฎหมายที่สนับสนุนสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน
8.3 สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบที่สอดคล้องกับสิทธิขั้นพื้นฐาน
หลักข้อ 9 ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ (Promote Enabling Business Environment) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
9.1 สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่ยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรม
9.2 เรียกร้องให้มีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและมีมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชันที่แข็งแกร่ง
9.3 กระตุ้นให้ธุรกิจปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบสอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อม
หลักข้อ 10 ส่งเสริมความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วนกัน (Foster Collaboration and Partnerships) ประกอบด้วยคำอธิบาย 3 ข้อ ได้แก่
10.1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับหลักนิติธรรมจำเป็นต้องมีการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ
10.2 ส่งเสริมให้มีการสานเสวนากันอย่างเปิดเผยและเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกันในระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย
10.3 สนับสนุนข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรสำหรับผลลัพธ์ของหลักนิติธรรมที่มีประสิทธิผล
ความสำคัญของหลักนิติธรรมตามคำประกาศวอร์ซอว์
หลักนิติธรรมตามคำประกาศวอร์ซอว์มีความสำคัญตรงที่เป็นทั้งกรอบแนวคิดและเป็นทั้งการประยุกต์ใช้หลักนิติธรรมสมัยใหม่ รวมทั้งเป็นแนวทางการประเมินผลการดำเนินการตามหลักนิติธรรมของประเทศต่าง ๆ ในโลกที่ยึดหลักนิติธรรมเป็นหลักสำคัญในการปกครองประเทศ ตลอดจนนำไปปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิรูป โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น
หลักการดังกล่าวครอบคลุมมิติสำคัญของหลักนิติธรรมของประเทศ 10 ด้าน อาจอธิบายอย่างย่อ ๆ ได้ความดังนี้
(1) การบริหารของฝ่ายบริหารจะต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบและถ่วงดุล
(2) การถ่ายโอนอำนาจต้องเป็นอย่างสันติ โดยผ่านทางการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และองค์กรกำกับการเลือกตั้งต้องทำหน้าที่กำกับดูแลตรงไปตรงมา เพื่อคัดสรรนักการเมืองที่ดีเข้าสู่ระบบการเมือง
(3) การคุ้มครองพื้นที่พลเมือง ซึ่งก็คือ อาณาบริเวณสาธารณะหรือพื้นที่สาธารณะที่พลเมืองสามารถมีส่วนร่วมและแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพพื้นฐานได้ รวมไปถึงบทบาทของสื่อมวลชนที่ต้องไม่บิดเบือนข่าวสารทางการเมือง
(4) การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยเฉพาะสิทธิที่เน้นเป็นพิเศษได้แก่ ต้องไม่เลือกปฏิบัติ
(5) การส่งเสริมความซื่อสัตย์และความพร้อมรับผิด อันได้แก่ ปัญหาคอร์รัปชันและแสดงออกถึงความรับผิดทางการเมือง
(6) การสร้างระบบความยุติธรรมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ได้แก่ การให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายเข้า และมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
(7) การคุ้มครองนักกฎหมาย ให้มีความเป็นอิสระและไม่ถูกคุกคาม เพราะเป็นพื้นฐานของการเข้าถึงกฎหมาย
(8) การยกระดับหลักนิติธรรมไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ได้มีมิติเพียงด้านการพัฒนาเศรษฐกิจด้านเดียว แต่ยังมีด้านที่สำคัญอีกสองด้าน ได้แก่ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการให้ทุกส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและการพัฒนาเพื่อประโยชน์ของคนทุกส่วนของสังคม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หากการพัฒนาที่ยั่งยืนขาดหลักนิติธรรม ก็ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีความลำเอียง และการพัฒนายิ่งเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งยิ่งก่อให้เกิดปัญหาต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุด คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
(9) การส่งเสริมให้สิ่งแวดล้อมของการประกอบการทางธุรกิจมีความยุติธรรม ในระบบทุนนิยมสมัยใหม่ ผู้ที่สร้างความเติบโตให้กับเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด คือ นักธุรกิจ ซึ่งต้องมีความยุติธรรมในการประกอบการ ขณะเดียวกัน นักธุรกิจก็ต้องซื่อสัตย์และมีความเป็นธรรม ไม่อาศัยช่องทางธุรกิจเข้าไปยึดอำนาจทางการเมืองและใช้นโยบายสาธารณะปกป้องเฉพาะธุรกิจของตัวเอง
(10) ส่งเสริมความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วนกัน โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมต้องเปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งมีการสานเสวนาหรือการเรียนรู้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียมากขึ้น รวมทั้งรับฟังข้อมูลจากภาคอื่นมากขึ้น อันเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบยุติธรรมจากระบบปิดเป็นระบบเปิดมากขึ้น
การดำเนินการแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิรูปประเทศตามหลักนิติธรรมดังกล่าว จึงเป็นผลดีต่อประเทศชาติและเป็นผลดีทุกภาคส่วน ตลอดจนเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งรัฐบาล องค์กรอิสระ นักพัฒนา นักสิ่งแวดล้อม นักสิทธิมนุษยชน นักสันติวิธี นักธุรกิจ ประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาและการบริหารรัฐบาล รวมถึงทั้งกระบวนการยุติธรรมที่ต้องปรับตัวเข้าสู่หลักนิติธรรมในโลกสมัยใหม่
เพียงแต่ความร่วมมือดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย ปัญหาของประเทศไทย คือ ใครจะเป็นเจ้าภาพและจะเริ่มลงมือทำตามแนวทางดังกล่าวได้เมื่อใด..
บทความโดย :
ทนายบ้าน ๆ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา