
ณ โลก-828 โลกสมัยอนาคตยุค 1960 "จุดเริ่มต้นปฐมบทใหม่" จะพาทำความรู้จักกับครอบครัวแรกเริ่มของมาร์เวล รีด ริชาร์ด, ซู สตรอม, จอห์นนี่ สตอร์ม และเบน กริมม์ นับตั้งแต่ 4 ปี หลังจากที่กลายเป็น เดอะแฟนทาสติกโฟร์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบที่หินที่สุด เมื่อถูกบีบคั้นให้ต้องเป็นผู้กอบกู้ความสงบด้วยสายสัมพันธ์ครอบครัว โลกของพวกเขากำลังถูกสิ่งมีชีวิตผู้หิวกระหายอย่าง กาแลกตัส กลืนกิน โดยมีผู้นำสาส์น ซิลเวอร์ เซอเฟอร์ เป็นผู้ช่วยของเขา แผนการกลืนกินทั้งโลกพร้อมทุกคนอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ยกเว้นมันพลันกลายเป็นเรื่องส่วนตัว...อุบัติเป็นจุดเริ่มต้นแห่งภารกิจปกป้องครอบครัวที่เดิมพันทุกสิ่งที่โลกนั้นเคยมี
เรียกได้ว่าเดือน กรกฎาคม เป็นเดือนที่หนังฮีโร่กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เริ่มต้นจาก หนังอย่าง Superman (2025) ที่กระแสและรายได้ออกมาได้ค่อนข้างที่จะดี ผ่านมาสองสัปดาห์ก็มาถึงคิว หนังที่ทาง Marvel บอกว่า นี่เป็นหนังที่ไม่ต้องดูเรื่องอื่นมาก่อนก็ได้ แถมยังเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของจักรวาลหนัง Marvel Cinematic Universe ในเฟทที่ 6 อีกด้วย กับการนำหนังฮีโร่ที่ถูกนำมาทำแล้วหลายๆ ครั้งอย่าง Fantastic Four

ณ โลก-828 โลกสมัยอนาคตยุค 1960 "จุดเริ่มต้นปฐมบทใหม่" จะพาทำความรู้จักกับครอบครัวแรกเริ่มของมาร์เวล รีด ริชาร์ด, ซู สตรอม, จอห์นนี่ สตอร์ม และเบน กริมม์ นับตั้งแต่ 4 ปี หลังจากที่กลายเป็น เดอะแฟนทาสติกโฟร์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบที่หินที่สุด เมื่อถูกบีบคั้นให้ต้องเป็นผู้กอบกู้ความสงบด้วยสายสัมพันธ์ครอบครัว โลกของพวกเขากำลังถูกสิ่งมีชีวิตผู้หิวกระหายอย่าง กาแลกตัส กลืนกิน โดยมีผู้นำสาส์น ซิลเวอร์ เซอเฟอร์ เป็นผู้ช่วยของเขา แผนการกลืนกินทั้งโลกพร้อมทุกคนอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ยกเว้นมันพลันกลายเป็นเรื่องส่วนตัว...อุบัติเป็นจุดเริ่มต้นแห่งภารกิจปกป้องครอบครัวที่เดิมพันทุกสิ่งที่โลกนั้นเคยมี

ข้อดีของ The Fantastic Four: First Steps ที่ทำให้เหนือกว่าหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาใน เฟท 4-5 นั้นคือ แทบไม่จำเป็นต้องไปรับชมเรื่องอื่นมาก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องราวในอีกจักรวาลหนึ่งไปเลย ทำให้หนังมีความเป็นเอกเทศจากเรื่องอื่นๆ ในจักรวาลไปเลย สิ่งที่พูดไม่ได้เลยว่าน่าจะเป็นจุดเด่นที่ดีที่สุดมันคืองาน ออกแบบสร้างโลกของเรื่องด้วยการนำเสนอแบบ Retro-Futuristic ออกมาได้ดูสมจริงและน่าสนใจไปทุกรายละเอียด ทั้งอุปกรณ์ ชีวิตประจำวันของผู้คน การเดินทาง ไปจนถึงแนวคิดของสังคม
ตัวละครที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องนี้ คงต้องยกให้ ซู สตรอม ที่แสงโดย วาเนสซ่า เคอร์บี้ ที่น่าจะเป็น ซู ที่ดีที่สุดตั้งแต่ทำมาของ Fantastic Four หลายๆ เวอร์ชัน ด้วยการใส่ความเป็นผู้นำของตัวละครเข้าไป จนแอบน่าสงสัยว่า หากมีหนัง Avengers ภาคใหม่เป็นไปได้ไหมว่าเธออาจจะกลายเป็นผู้นนำคนใหม่ของกลุ่ม

ในส่วนของข้อเสีย ของเรื่อง จะรวมอยู่ในข้อดีด้วยนั่นคือ ต้องยอมรับว่าตัวละครเรื่องนี้อาจได้รับการแบ่งบทบาทได้ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากหนังโฟกัสอยู่ที่ ซู สตรอม และ รีด ริชาร์ด ซะส่วนใหญ่จึงทำให้ตัวละครที่เหลือค่อนข้างขาดเหตุและผลในการกระทำไปสักหน่อย แต่ที่ออกมาแย่สุดคงจะเป็น ที่ตัวของ กาแลคตัส ที่ออกไปทางตัวร้ายแบนราบไปสักนิด ไม่ได้มีไปมากกว่าตัวร้ายที่อยากทำลายโลกแบบเก่าๆ
อย่างที่กล่าวไปว่าตัวละคร ซู สตรอม นั้นค่อนข้างออกมาดีกว่าฉบับอื่นๆที่ผ่านมา แลกมากับการที่ทำให้ คาแรคเตอร์ อย่าง รีด ริชาร์ด กลายเป็นตัวละครที่ถึงแม้จะพูดเยอะแต่กลับดูไม่ได้มีบทเด่นเท่าที่ควร เนื่องจากบทความเป็นผู้นำเอาไปใช้กับ ซู สตรอม หมดแล้ว จึงทำให้ รีด ริชาร์ด เป็นได้แค่เด็กเนิร์ดที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง และข้อเสียข้อสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องของเวลา ที่ดูจะน้อยเกินไปจนทำให้การเล่าเรื่องหลายๆ ครั้งดูเหมือนจะผ่านอุปสรรคง่ายเกินไป อย่าง ฉากสำคัญที่ซูได้พูดให้ชาวโลกฟัง และข้อเสียข้อสุดท้ายของเรื่องคงหนีไม่พ้นฉาก แอคชั่นของเรื่องที่ทำออกมาได้ค่อนข้างออกไปทางเฉยๆ จนถึงไม่ค่อยสนุกเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าไอเดียหลักของการสู้กับตัวร้ายอย่าง กาแลคตัส นั้นจะค่อนข้างเป็นเรื่องที่ดี ที่ใช้สมองและความสามัคคีของครอบครัวมากกว่ากำลัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแผนสุดท้ายที่สู้มันออกไปทางดูถูกตัวโกงเกินไปหน่อย

สุดท้ายนี้ The Fantastic Four: First Steps เป็นหนังที่ไม่ได้แย่ แต่ก็มีบาดแผลระหว่างทางเต็มไปหมด ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ก็พอดูน่าสนใจกว่า เฟทที่ผ่านๆ และดูเห็นภาพถึงตัวร้ายหลักของเรื่องมากกว่า แต่ปัญหาคือต้องยอมรับว่าถ้าเทียบกับ Superman (2025) แล้ว The Fantastic Four: First Steps นั้นอาจจะเป็นรองเรื่องของความสดใหม่ของเรื่องราวมากกว่า เนื่องจากสุดท้ายแล้ว The Fantastic Four: First Steps ก็คือหนังที่สร้างมาเพื่อปูทางสู้การสู้กับบอสหลักประจำเฟทแบบเดิมๆ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา