
"...เหตุการณ์ดังกล่าวกระจายอยู่ทุกกลุ่มอาชีพที่แสดงถึงขบวนการสมยอมกันในการเลือก โดยวิญญูชนพึ่งเห็นได้ว่าเป็นการเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อันเป็นข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ควรเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งเฉพาะข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องพบเห็นด้วยตนเองตั้งแต่ก่อนวันเลือกจนถึงวันเลือก..."
กระบวนการฮั้ว สว.อาจจะยังไม่ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากกลุ่ม สว.เสียงข้างน้อยโดยนางสาวนันทนา นันทวโรภาส ได้รวบรายชื่อกลุ่ม สว.ที่เรียกตนเองว่า กลุ่ม สว.เสียงข้างน้อย จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน สว.เท่าที่มีอยู่ ได้แล้วด้วยจำนวนที่เฉียดฉิวเพียง 21 คน และได้เสนอไปยังประธานวุฒิสภาเพื่อเสนอต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอน สว.สีน้ำเงิน จำนวน 136 คน โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของ สว.ดังกล่าว ว่าต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (7) จากการกระทำฝ่าฝืนมาตรา 113 คือการฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองหรือไม่ โดยกลุ่ม สว.เสียงข้างน้อยผู้กล่าวหา ได้นำเอาเหตุการณ์ฮั้ว สว.มาใช้เป็นข้อเท็จจริงสำคัญประกอบข้อกล่าวหา และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียกสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 24/2568 ของ ดีเอสไอ และสำนวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. คณะที่ 26 ที่สรุปสำนวนเสร็จไปแล้ว มาใช้ประกอบการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ
แต่เรื่องนี้เดินทางไปไม่ถึงศาลรัฐธรรมนูญเสียแล้ว เพราะประธานวุฒิสภาที่มีหน้าที่เสนอเรื่องก็เป็น สว.สีน้ำเงิน เช่นกัน เมื่อเรื่องได้ส่งไปถึงประธานวุฒิสภาและเห็นรายชื่อ สว.ที่ร่วมกันลงชื่อแล้ว ได้มี สว.ที่ลงชื่อไปแล้วแจ้งขอถอนลายชื่อด้วยเหตุผลต่าง ๆ จำนวนอย่างน้อย 3 คน ทำให้จำนวน สว.ที่ลงชื่อไม่ครบ 1 ใน 10 ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 บัญญัติไว้ จึงเป็นเหตุให้ประธานวุฒิสภาไม่เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
เชื่อว่ากลุ่ม สว.สีน้ำเงิน จะไม่อยู่นิ่งเฉยกับกรณีนี้ โดยปล่อย สว.เสียงข้างน้อยเป็นผู้กระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งตามสไตล์ที่ผ่านมาของ สว.สีน้ำเงินจะมีการสวนกลับทุกกรณี จึงน่าจะมีการโต้กลับกลุ่ม สว.เสียงข้างน้อยที่ทำไม่สำเร็จ ด้วยคำร้องที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะกลุ่ม สว.เสียงข้างน้อยจำนวนหนึ่งก็ถูกครหาเล็ก ๆ ในทำนองเดียวกันกับกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน เช่นกัน โดยพลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.สีน้ำเงิน เคยนำเอาเรื่อง สว.สูตร 21-24 ไปอภิปรายในวุฒิสภามาแล้ว จากการที่มีผู้สมัคร สว.บางรายกล่าวว่า 'ถ้าไม่ฮั้ว ก็ไม่ได้เป็น สว.' และได้ยื่นคำร้องเกี่ยวกับการกระทำของผู้สมัคร สว.กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ใช่กลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ไปที่ทั้ง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่มาของ สว.สูตร 21-24 มาจากคำร้องนี้ จึงอาจทำให้กลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ใช้เรื่องนี้เป็นแนวทางในการโต้กลับกลุ่ม สว.เสียงข้างน้อย
คำร้องที่ผู้สมัคร สว.รายดังกล่าวได้ยื่นต่อ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงอันเป็นที่มาของ สว.สูตร 21-24 โดยคำร้องนี้ได้แสดงข้อเท็จจริงเพื่อชี้ให้เห็นว่าการเลือก สว.ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เนื่องจากผู้ร้องรายนี้ บังเอิญเข้าไปรู้เห็นการกระทำของผู้สมัคร สว.ที่ผ่านเข้าเลือกระดับประเทศกลุ่มหนึ่งประมาณ 400 คน ได้มีการนัดประชุมซักซ้อมการสมยอมกันที่ห้องประชุมในเมืองทองธานีในวันที่ 25 มิ.ย.2567 ก่อนถึงวันเลือก 1 วัน คือในวันที่ 26 มิ.ย.2567 โดยมีอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่อยู่เบื้องหลังผู้สมัครกลุ่มนี้ ซึ่งดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการมาตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ เพื่อให้มีการสมยอมกันในการเลือก ที่เป็นการสมยอมกันขนาดใหญ่ไม่ใช่สมยอมกันแบบตัวต่อตัว ซึ่งแม้สมยอมกันแบบตัวต่อตัวที่ไม่ได้ใช้เงินจูงใจ ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก็ได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2568 คดีแดงที่ ลต สว 47/2568 ว่ากระทำไม่ได้และต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง โดยคำร้อง สว.สูตร 21-24 บางส่วนระบุว่า
.....เหตุการณ์ดังกล่าวกระจายอยู่ทุกกลุ่มอาชีพที่แสดงถึงขบวนการสมยอมกันในการเลือก โดยวิญญูชนพึ่งเห็นได้ว่าเป็นการเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อันเป็นข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ควรเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งเฉพาะข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องพบเห็นด้วยตนเองตั้งแต่ก่อนวันเลือกจนถึงวันเลือก เป็นดังนี้
1) ช่วงก่อนถึงวันเลือกระดับประเทศ (ก่อนวันที่ 26 มิ.ย.2567) ประมาณ 3-4 วัน ผู้ร้องได้ส่งเอกสารแนะนำตัวของผู้ร้องไปยังผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ โดยทางไปรษณีย์และทางอีเมล ซึ่งในเอกสารแนะนำตัวของผู้ร้องได้ระบุเบอร์โทรศัพท์และไลน์ไอดีไว้ด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2567 ก่อนวันเลือกสองวัน นางxxx กลุ่มอาชีพเดียวกับผู้ร้อง (ต่อมาได้รับเลือกเป็น สว.) ได้เพิ่มผู้ร้องเป็นเพื่อนในแอพพลิเคชั่นไลน์ และส่งข้อความกับเอกสารแนะนำตัวมาให้ผู้ร้องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และโทรศัพท์มาหาผู้ร้องแจ้งว่าตนเองเป็นผู้สมัครในกลุ่ม สว.ประชาชน ขอให้ผู้ร้องช่วยเป็นโหวตเตอร์ให้กับกลุ่ม สว.ประชาชนด้วย โดยแจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของกลุ่ม สว.ประชาชน ติดต่อมาหาผู้ร้องเพื่อนัดหมายการประชุม หลังจากนั้นบุคคลที่ชื่อxxxได้เพิ่มผู้ร้องเป็นเพื่อนในแอพพลิเคชั่นไลน์ และนัดหมายให้ผู้ร้องเข้าประชุมที่ห้องจูปิเตอร์ 11-13 อาคารชาแลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันที่ 25 มิ.ย.2567 เวลา 13.00 น.โดยให้ไปเฉพาะผู้สมัคร
2) ในวันที่ 25 มิ.ย.2567 ก่อนวันเลือกหนึ่งวัน ผู้ร้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวเลือกระดับประเทศ โดยผู้ร้องได้เข้าพักที่โรงแรมxxxxx ผู้ร้องมีเวลาว่างในช่วงบ่าย จึงได้เข้าประชุมที่ห้องจูปิเตอร์ 11-13 ตามที่ได้รับการติดต่อ โดยจอทีวีหน้าห้องประชุมระบุข้อความว่าเป็นการประชุมของ สว.ประชาชน (เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น) ซึ่งก่อนเข้าห้องประชุมจะต้องลงทะเบียนตามรายชื่อที่พิมพ์ไว้ (มีรายชื่อผู้ร้องเนื่องจากคนชื่อxxx ติดต่อเชิญผู้ร้องไว้แล้ว) โดยต้องฝากเครื่องมือสื่อสารที่มีอยู่ทั้งหมด และจะได้รับการติดสายรัดข้อมือ เมื่อจะผ่านประตูเข้าห้องประชุมจะต้องชูมือแสดงสายรัดข้อมือกับผู้ที่เฝ้าประตูจึงจะเข้าห้องประชุมได้ โดยระหว่างการประชุมห้ามมิให้สื่อมวลชนเข้าไปในห้องประชุม จนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นลง โดยการประชุมครั้งนี้มีผู้สมัครที่มีสิทธิเลือกระดับประเทศเข้าร่วมประชุม ประมาณ 400 คน โดยนั่งเก้าอี้ที่จัดไว้ตามกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม เป็นแถวตอนลึก 2 แถว ๆ ละ 10 กลุ่ม
3) ผู้ร้องได้เข้าร่วมประชุมกับผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ถึงเวลาประมาณ 17.00 น.ทำให้ได้รับทราบว่า กลุ่มผู้สมัครกลุ่มนี้ที่เรียกตนเองว่า กลุ่ม สว.ประชาชน
(ก่อนหน้านั้นมีชื่อเรียกต่าง ๆ เช่น กลุ่ม สว.อิสระ หรือ กลุ่ม สว.ประชาธิปไตย) มีการทำงานอย่างเป็นกระบวนการ นอกจากผู้สมัครที่จะเข้าเลือกระดับประเทศแล้ว ยังมีทีมงานทั้งที่เป็นบุคคลทั่วไปและผู้สมัครที่ไม่ผ่านการเลือกในระดับอำเภอหรือระดับจังหวัดมาช่วยกันทำงาน โดยแบ่งกันทำหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งวิธีการที่สำคัญคือ รวบรวมผู้สมัครที่ผ่านเข้ามาเลือกระดับประเทศให้ได้อย่างน้อยกลุ่มอาชีพละ 20 คน ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ รวมเป็น 400 คน (ทั้งที่กำหนดตัวไว้แล้วตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ และที่หาเพิ่มเติมใหม่)
แบ่งผู้สมัครระดับประเทศในแต่ละกลุ่มอาชีพ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เป็นผู้สมัครที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่จะได้รับเลือกเป็น สว.เรียกว่า แคนดิเดต โดยในแต่ละกลุ่มจะมีแคนดิเดตในรอบเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน จำนวน 10 คน และกลุ่มที่ 2 เป็นผู้สมัครที่เรียกว่า โหวตเตอร์ คือผู้สมัครที่เหลือจากการไม่ได้รับการกำหนดให้เป็นแคนดิเดต ที่จะต้องทำหน้าที่ลงคะแนนทั้ง 10 คะแนนให้กับผู้สมัครที่เป็นแคนดิเดตทั้ง 10 คน หากโหวตเตอร์ของกลุ่มใดมีจำนวนไม่มากเพียงพอให้ติดต่อหาผู้สมัครนอกกลุ่ม สว.ประชาชน เพื่อเข้ามาเป็นโหวตเตอร์เพิ่มเติม (ซึ่งทำให้ผู้ร้องได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย)
โดยการประชุมดังกล่าวมีนางสาวxxx เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีบุคคลต่าง ๆ ขึ้นพูดบนเวทีประมาณ 10 คน และมีการแสดงแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ให้เห็นว่าผู้สมัครที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา จะต้องเริ่มจากได้รับคะแนนในรอบเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันประมาณ 20 คะแนน จึงจะมีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบเลือกไขว้ โดยรอบที่เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน หากผู้สมัครที่เป็นแคนดิเดต 10 คน และโหวตเตอร์อีกประมาณกลุ่มละอย่างน้อย 10 คน หรือมากกว่านี้เท่าที่จะหาได้ เลือกผู้สมัครตามที่กำหนดไว้โดยไม่ไปเลือกผู้สมัครอื่น จะมีผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน ผ่านเข้าไปสู่รอบเลือกไขว้ กลุ่มละ 10 คนในทุกกลุ่ม รวมทั้งหมด 200 คน และเมื่อเข้าสู่รอบเลือกไขว้ซึ่งผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชนจะผ่านเข้าสู่รอบเลือกไขว้ทุกกลุ่ม ๆ 10 คน แต่กำหนดผู้ที่จะได้รับเลือกเป็น สว.เพียงกลุ่มละ 5 คน โดยที่เหลืออีก 5 คน จะทำหน้าที่เป็นโหวตเตอร์ไขว้กลุ่มเพียงอย่างเดียวในรอบนี้ โดยในแต่ละสายซึ่งมี 5 กลุ่ม
เมื่อเลือกไขว้จากกลุ่มอื่นอีก 4 กลุ่ม ซึ่งมี สว.ประชาชนกลุ่มละ 10 คน แต่ละคนมี 5 เสียง นำ 5 เสียงนั้น ไปเลือกผู้สมัคร 5 คนที่กำหนดไว้ จะทำให้ผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน 5 คน ได้รับคะแนนคนละ 40 คะแนน ซึ่งระดับคะแนนนี้จะทำให้อยู่ใน 10 อันดับที่จะได้เป็น สว. โดยคาดว่าหากเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทั้งหมด ผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน จะได้รับเลือกเป็น สว.ประมาณ 100 คน ดังนั้นจึงต้องมีการเรียกประชุมเพื่อซักซ้อมแผนการ โดยเฉพาะการกำชับให้ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นโหวตเตอร์ในแต่ละรอบจะต้องเลือกผู้สมัครตามรายชื่อที่กำหนดไว้เท่านั้น
ผู้ที่ขึ้นพูดบนเวทีที่มีประมาณ 10 คน ผลัดกันขึ้นพูด โดยแต่ละคนจะช่วยกันพูดโน้มน้าวผู้สมัครที่จะทำหน้าที่เป็นโหวตเตอร์ในแต่ละกลุ่มให้เสียสละในการเลือกรอบแรก เพื่อยกคะแนนทั้ง 10 คะแนน เลือกผู้สมัครที่เป็นแคนดิเดตทั้ง 10 คน โดยจะต้องไม่ลงคะแนนให้กับตนเอง เพื่อให้จำนวนผู้สมัครที่เข้าสู่รอบเลือกไขว้เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ โดยหัวข้อหนึ่งในการพูดบนเวทีคือ 'ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง' ซึ่งผู้พูดขยายความว่าผู้เป็นโหวตเตอร์ที่ได้ศูนย์คะแนนจะมีคุณค่ามากกว่าได้หนึ่งคะแนน
คือไม่เลือกตนเองซึ่งทำให้ตนเองได้ศูนย์คะแนนดีกว่าเลือกตนเองแล้วได้เพียงหนึ่งคะแนน ซึ่งหนึ่งคะแนนนั้นไม่ได้ทำให้ผ่านเข้าไปเลือกในรอบต่อไป จึงควรนำเอาหนึ่งคะแนนที่จะเลือกตนเองไปเลือกผู้ที่เป็นแคนดิเดตเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มที่เป็นแคนดิเดตได้รับเลือก ซึ่งทำให้ผู้เป็นโหวตเตอร์ที่ได้ศูนย์คะแนนมีคุณค่ามากกว่าผู้ที่ได้หนึ่งคะแนน นอกจากนี้วิธีการที่จะทำให้ไม่สับสนและไม่หลงลืมชื่อและเบอร์ของผู้เป็นแคนดิเดต คือการจัดทำเป็นเอกสารใบเล็ก ๆ เป็นตารางรายชื่อและเบอร์ของผู้สมัครแต่ละกลุ่มที่เป็นแคนดิเดต จำนวน 10 รายชื่อ หรือเรียกว่า ตารางโพย เพื่อให้ผู้สมัครแต่ละคนเก็บไว้กับตัว หรือนำไปจดลงในเล่มเอกสาร สว.3 และนำเข้าไปในสถานที่เลือกและคูหาลงคะแนน โดยนำออกมาดูเมื่อจะลงคะแนน
4) ผู้ร้องทราบจากผู้เข้าร่วมประชุมรายหนึ่งคือ นางสาว น. (ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตในตารางโพย) ว่าผู้สมัครที่อยู่ในกลุ่ม สว.ประชาชน ประมาณ 400 คนนี้ ได้มีการติดต่อสื่อสารหรือประชุมทางออนไลน์ในกลุ่มอาชีพของตนเองมาแล้วหลายครั้งเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนก่อนการเลือกระดับประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครหรือผู้สมัครที่ไม่ผ่านการเลือกในระดับอำเภอหรือระดับจังหวัดทำหน้าที่ควบคุมดูแลแต่ละกลุ่มอย่างน้อยกลุ่มละ 1 คน และได้มีการกำหนดตัวผู้สมัครที่จะเป็นแคนดิเดตจำนวน 10 คน ในรอบเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน และจำนวน 5 คน ในรอบเลือกไขว้ ของแต่ละกลุ่มไว้เบื้องต้นแล้ว โดยการประชุมวันนี้เพื่อซักซ้อมวิธีการเลือกทั้งในกลุ่มเดียวกันและกลุ่มไขว้ พร้อมกับจะสรุปรายชื่อผู้สมัครที่เป็นแคนดิเดต 10 คน และ 5 คน ของแต่ละกลุ่มเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งผู้จะมีรายชื่อเป็นแคนดิเดตจะต้องเป็นผู้ลงชื่อเข้าร่วมประชุมในวันที่ 25 มิ.ย.2567 นี้ด้วย เพื่อจูงใจให้ทุกคนเข้าร่วมประชุม โดยจะส่งรายชื่อแคนดิเดตของทุกกลุ่มให้กับผู้สมัครทุกคนที่อยู่ในกลุ่ม สว.ประชาชน
หลังจากการประชุมครั้งนี้เสร็จสิ้น ผู้ร้องเห็นว่าการกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกกลุ่มหนึ่งเป็นแคนดิเดต และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นโหวตเตอร์ มีลักษณะเป็นการกีดกันหรือคัดกรองผู้สมัครก่อนที่จะถึงวันเลือก ซึ่งขัดต่อความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า การกำหนดให้ผู้สมัครสามารถสมัครได้โดยเสรี และเลือกกันเองโดยตรงก็เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ที่สนใจในการเข้ามีส่วนร่วมในทางการเมืองจะไม่ถูกกีดกันหรือถูกคัดกรองโดยองค์กรหรือพรรคการเมืองใด ซึ่งปรากฏตามเอกสารความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตรา ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในส่วนของมาตรา 107
5) หลังจากผู้ร้องออกจากห้องประชุมแล้ว ต่อมามีบุคคลชื่อ xxx ติดต่อมายังผู้ร้องโดยส่งข้อความมาในแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อแนะนำตัว และต่อมาบุคคลดังกล่าวได้ส่งภาพถ่ายเป็นตารางแสดงรายชื่อและเบอร์ (ตารางโพย) ผู้สมัครกลุ่มที่xxx จำนวน 10 คน ได้แก่ ผู้สมัครกลุ่มที่ xxx เบอร์ xxxxxxxxxx
6) ในคืนวันที่ 25 มิ.ย.2567 รายการข่าวสามมิติ ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้เสนอข่าวการนัดพบกันของผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศของกลุ่ม สว.ประชาชน และมีบทสัมภาษณ์ของนางสาว จ. ผู้จัดกิจกรรม สว.ประชาชน โดยปรากฏ นาย xxx นางสาว น. และผู้ร้อง อยู่ในคลิปข่าวนี้ด้วย
7) ในช่วงเช้าของวันที่ 26 มิ.ย.2567 ที่เป็นวันเลือก ก่อนถึงเวลาเลือก 9.00 น.ในสื่อทีวี รายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท.ได้มีการเผยแพร่ตารางรายชื่อและเบอร์ (ตารางโพย) ของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกเป็นแคนดิเดต จำนวน 19 กลุ่ม (ยกเว้นกลุ่มที่ 1) ของกลุ่ม สว.ประชาชน ซึ่งตารางรายชื่อและเบอร์ (ตารางโพย) ของผู้สมัครกลุ่มที่xxx เป็นตารางเดียวกันกับที่ผู้ร้องได้รับจากนายxxxxx ในคืนวันที่ 25 มิ.ย.2567 โดยรูปแบบของตารางและสีของตารางของทุกกลุ่มอาชีพมีลักษณะเดียวกันกับที่ผู้ร้องได้รับมาโดยตรง ดังนั้น ตารางรายชื่อและเบอร์ผู้สมัคร (ตารางโพย) ของกลุ่มต่าง ๆ จึงเชื่อได้ว่าเป็นแคนดิเดตของผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน แต่ละกลุ่ม จำนวน 19 กลุ่ม (ยกเว้นกลุ่มที่ 1) ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้สมัครทั้งที่เป็นแคนดิเดตและโหวตเตอร์ เลือกผู้สมัคร 10 คน ตามตารางรายชื่อและเบอร์ (ตารางโพย) ที่ส่งให้แต่ละคนโดยไม่หลงลืม แต่ได้หลุดรอดออกไปยังบุคคลภายนอกและนำไปเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าหลุดรอดมาจากผู้สมัครกลุ่ม สว.ประชาชน ด้วยกันเองที่ผิดหวังไม่ได้เป็นแคนดิเดต โดยผู้สมัครของกลุ่ม สว.ประชาชน ที่อยู่ในตารางรายชื่อและเบอร์ (ตารางโพย) ของแต่ละกลุ่มอาชีพ ได้แก่
-
กลุ่มที่ 2 เบอร์ 117, 43, 134, 64, 83, 123, 122, 15, 151, 85
-
กลุ่มที่ 3 เบอร์ 78, 16, 46, 145, 118, 48, 71, 110, 97, 1
-
กลุ่มที่ 4 เบอร์ 85, 118, 63, 5, 51, 3, 61, 151, 93, 103
-
กลุ่มที่ 5 เบอร์ 4, 35, 9, 60, 49, 105, 47, 79, 30, 80
-
กลุ่มที่ 6 เบอร์ 41, 86, 115, 25, 148, 37, 108, 82, 110, 119
-
กลุ่มที่ 7 เบอร์ 2, 21, 105, 39, 150, 151, 40, 36, 88, 59
-
กลุ่มที่ 8 เบอร์ 82, 98, 63, 72, 41, 108, 26, 3, 51, 145
-
กลุ่มที่ 9 เบอร์ 52, 77, 91, 129, 48, 13, 25, 29, 74, 99
-
กลุ่มที่ 10 เบอร์ 137, 8, 68, 11, 36, 71, 120, 39, 85, 132
-
กลุ่มที่ 11 เบอร์ 7, 32, 64, 79, 24, 47, 78, 52, 67, 99
-
กลุ่มที่ 12 เบอร์ 81, 14, 109, 106, 85, 93, 17, 114, 62, 121
-
กลุ่มที่ 13 เบอร์ 16, 25, 71, 57, 52, 44, 120, 83, 51, 90
-
กลุ่มที่ 14 เบอร์ 147, 30, 132, 7, 56, 92, 70, 40, 87, 77
-
กลุ่มที่ 15 เบอร์ 134, 25, 43, 147, 98, 18, 105, 9, 92, 76
-
กลุ่มที่ 16 เบอร์ 26, 41, 87, 99, 54, 130, 58, 24, 20, 62
-
กลุ่มที่ 17 เบอร์ 70, 141, 57, 145, 72, 26, 128, 48, 85, 114
-
กลุ่มที่ 18 เบอร์ 48, 60, 29, 136, 64, 35, 59, 142, 116, 21
-
กลุ่มที่ 19 เบอร์ 127, 75, 16, 30, 14, 26, 117, 119, 88, 64
-
กลุ่มที่ 20 เบอร์ 49, 27, 98, 152, 102, 97, 73, 88, 86, 78
ในคืนวันที่ 25 มิ.ย.2567 ก่อนวันเลือก 1 วัน นาย ธ. ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกลุ่ม สว.ประชาชน ให้เสียสละไม่แตกแยกหรือหักหลังกัน ในลักษณะอยู่เบื้องหลังกลุ่ม สว.ประชาชน ต้องการให้การสมยอมกันประสบผลสำเร็จ โดยรายการเจาะลึกทั่วไทยนำไปเสนอข่าวพร้อมกับตารางโพย ในตอนเช้าวันที่ 26 มิ.ย.2567
จากตารางโพยของกลุ่ม สว.ประชาชน 19 กลุ่มอาชีพ จำนวน 190 คน ข้างต้น เมื่อมีการเลือกจริง ได้ผ่านรอบเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันเข้ารอบเลือกไขว้ จำนวน 75 คน และผ่านรอบเลือกไขว้ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ตัวจริง 21 คน และสำรอง 24 คน.....
โดยเป็นคำร้องของผู้สมัคร สว.รายหนึ่ง ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังอยู่ในสำนวนการสืบสวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ของ กกต. คณะที่ 22 อันเป็นที่มาของ สว.สูตร 21-24 นอกเหนือจาก สว.สูตร 138-2 ที่เป็นขบวนการที่ใหญ่กว่ามาก
ถ้าข้อเท็จจริงทั้งที่เกี่ยวกับ 'สว.สีน้ำเงิน' และ 'สว.เสียงข้างน้อย' เป็นที่ยุติแล้วว่าเป็นจริง
จะเหลือ 'สว.บริสุทธิ์' ซักกี่คน ที่ได้ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในวุฒิสภามาแล้วกว่า 1 ปี

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา