
"...ในขณะที่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 พระองค์เดิม ที่ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภาเก่ามายาวนานนั้น เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งความทรงจำ ที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรและทรงกำกับการสร้างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยน้ำพระทัยแห่งความรักและผูกพันอย่างยิ่ง เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อพระบรมรูป มีการสร้างสื่อสัญลักษณ์ต่างๆที่เทอดพระเกียรติ เช่นตราไปรษณียากร ธนบัตร เหรียญ มีประชาชนร่วมบริจาคเงินสมทบการก่อสร้างกว่า 2 ล้านบาท จะเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่จะประดิษฐานไว้ในอาคาร..."
.............................
กรมศิลปากร เสนอสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ขนาดใหญ่ 4 เท่า ของพระองค์จริง เพื่อประดิษฐาน ณ หน้าสัปปายะสภาสถานรัฐสภาใหม่
ในขณะที่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 พระองค์เดิม ที่ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภาเก่ามายาวนานนั้น เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งความทรงจำ ที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรและทรงกำกับการสร้างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยน้ำพระทัยแห่งความรักและผูกพันอย่างยิ่ง เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อพระบรมรูป มีการสร้างสื่อสัญลักษณ์ต่างๆที่เทอดพระเกียรติ เช่นตราไปรษณียากร ธนบัตร เหรียญ มีประชาชนร่วมบริจาคเงินสมทบการก่อสร้างกว่า 2 ล้านบาท จะเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่จะประดิษฐานไว้ในอาคาร
พระบรมราชานุสาวรีย์พระองค์เดิมขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริงสื่อถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็น”ธรรมราชา” ทรงทศพิธราชธรรมที่ใกล้ชิดพสกนิกร และประชาชนเข้าถึงได้ ขณะที่พระองค์ใหม่ ให้ความรู้สึกกริ่งเกรง และมีระยะห่างไปจากประชาชน
พระบรมราชานุสาวรีย์ที่สง่างามต้องสมสัดส่วนและกลมกลืนกับบริบทแวดล้อมโดยรอบ ไม่ใช่รู้สึกแปลกแยกหรือกดข่มจากอาคารด้านหลัง
อันที่จริง เพียงสายพระเนตรแห่งความรักและผูกพันของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ก็ตรึงตรายิ่งนักแล้ว ที่สมควรจะอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ พระองค์เดิมมาประดิษฐาน ณ พื้นที่หน้าสัปปายะสถานแห่งนี้

ที่มา : Prasarn Marukpitak

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา