
"...พระสงฆ์ได้กล่าว มรณานุสติ เป็นสัจธรรมว่า ขอให้พวกเรารำลึกถึงท่าน ตั้งจิตมั่นคงพร้อมกัน ร่างของท่านที่นอนราบอย่างสงบอยู่เบื้องหน้า สอนพวกเราว่า พวกเราทุกคนต้องจากไปอีกไม่นาน ต้องจากไปอย่างแน่นอนเช่นกัน ร่างของอาจารย์มงคลนอกจากมอบเป็นอาจารย์ใหญ่ สำหรับนักศึกษาแพทย์ศิริราชแล้ว ยังทำหน้าที่สอนศิษย์และทุกคนที่มาร่วมรำลึกถึงท่าน ในสัจธรรมสำคัญเป็นวาระสุดท้าย..."
.....................................
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : ในช่วงค่ำวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อดีตปลัดสธ. และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 79 ปี ด้วยโรคมะเร็ง หลังเข้ารับการรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดพิธีศพนั้น จะมีการสวด 1 คืน ที่วัดปริวาสราชสงคราม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ภายหลังรับทราบข่าวการเสียชีวิต ของ นพ.มงคล ณ สงขลา เหล่าบุคคลสำคัญในวงการสาธารณสุขของไทย ได้เขียนข้อความไว้อาลัยต่อการจากไป รวมถึงการส่งแชร์ต่อข้อความที่ถอดจาก Live บรรยายความรู้สึกของ นพ.มงคล ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับอาการเจ็บปวดของโรคร้ายหลังผ่าตัดหนึ่งปี เพื่อเป็นอนุสติ แก่คนทั่วไป
**************************

@ นพ.มงคล ณ สงขลา /ภาพจาก https://www.hfocus.org/
@ ถอดความจากการ Live เฟซบุ๊ก ท่านอาจารย์ นายแพทย์ มงคล ณ สงขลา หนึ่งปีหลังผ่าตัด
เมื่อ Renal carcinoma ได้ถูกตัตออกไป หลังห้าเดือน เพลียมาก สงสัยว่า อาหารที่ทานไป ถูกนำไปเลี้ยงส่วนที่เป็นมะเร็ง หรือไม่ มีอาการไข้ ร้อนไปทั้งตัว ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เฉยๆ ทำงานปกติ
พบก้อนเดือนที่ 7, 8 และ หลัง 9 เดือน ไปตรวจคลำได้ชัดเจนในเดือนที่ 9
เดือนที่ 10 เริ่มมีสิ่งผิดปกติทานอาหารไม่อร่อย ไม่ได้กลิ่น เป็นบางวัน
กิจกรรมต่างๆ เป็นปกติ การนอน การออกกำลังกาย การทำงาน การทำสมาธิ มีการเพ่งกษิณ เป็นประจำ
เพ่งกษิน คือ การทำสมาธิ โดยมีพระเป็นที่รวมใจ ด้านบน มีพระปางมารวิชัยโบราณ ด้านล่าง หลวงพ่อโสธร ซ้ายขวา เป็น พระ แก้วมรกต
เพ่งพระ เห็นสีขาว รอบองค์พระทั้งสี่ เมื่อนอนไม่หลับ เพ่งตรงรูปพระ ทำให้เรามีจิต ดื่มด่ำลงไปในกษินนั้น เมื่อนำ จิตเข้าไปจับ
ครบหนึ่งปีอยู่ที่บ้านกรุงเทพฯ หลังจากกลับจากโคราช เมื่อนำไม้กอล์ฟมาลองเหวี่ยง
เกิดการเจ็บ คล้ายฉีกในช่องท้อง จากนั้นทานข้าวเย็นได้ปกติ แต่มีอาการเจ็บ
หลังทานข้าว อาบน้ำไปนอน เกือบสามทุ่ม เมื่อเอนตัว ส่วนที่เจ็บเจ็บมากขึ้น และ บวมนูนขึ้นมา นิ่มๆ ก้อนนั้นมีเลือดออกข้างใน ปวดมาก จนเกือบเป็นลม ประมาณ ยี่สิบนาที
ปวดแบบท้องเสีย ก้อนโป่งใส พยายามนั่งภาวนา เพ่งดู รู้สึกปวด
หลังจากนั้น มันค่อยลดลง ความปวดลดลง สักพักสงบ หายไป นอนและหลับ
ตื่นขึ้นมา ก็ไปตรวจ ที่ รพ. มีการทำ CT ในบริเวณต่างๆและ นอนพักที่รพ.
สิ่งที่จะบอก ขอให้ทำใจ คือ ผลของการตรวจ พบว่า tumor cell กระจาย และ เกิดขึ้นใหม่ ตรงพื้นที่ที่ถูกตัดออกไป ส่วนที่ เหลือค้างตรงฐานโตขึ้นชัดเจน โตขึ้นไปที่ปอดหลายก้อน ตับหลายก้อน และ ลำไส้ ด้วย
การฉีกขาด หดตัวทำให้ปวดท้อง ส่วนนี้ CT บอกเรา
ขณะนี้ Metastasis ไปแล้ว การออกกำลังกายไม่มีอะไรลดหย่อน วิ่งได้ อาหารการกินเกือบเหมือนเดิม ตอนนี้สิ่งที่รับการรักษา คือ target cell therapy ทั้งต่อเซลและร่างกาย
รับปากว่า ร่างกายไม่ใช่ของเรา ไม่เชื่อฟังเรา รักษาร่างกายไว้เพื่อได้ใช้จิตของเรา ในช่วงที่กายให้ใช้อยู่
หากกายไม่ให้ เปรียบดัง อนิจจังทุกขังอนัตตา ก็ไม่ต้องวิตกกังวล ต่อไปนี้ จะเล่าการเปลี่ยนแปลงที่มีสาระสำคัญ จะใช้ชีวิต ตามปกติ ต่อไป หากไม่มีอาการแสดง อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์จะทำต่อไป จนทำไม่ไหวแล้วจะบอก ขอให้ร่างกายหยุดนิ่ง พักผ่อน
การพักผ่อนที่ไม่ได้ทำประโยชน์ จิตจะว้าวุ่น ดังนั้น จะไม่พักร่างกายโดยไม่เกิดประโยชน์
จะได้ร่วมทำกุศล ทำความดี เป็นการคุยกัน ระหว่าง กายกับจิต หากกายไม่ไหว จะไม่ให้ทุกข์ทรมาน วันนี้ทานยาเป็นวันที่ 4 อาจารย์หมอที่ดูแล เป็นห่วง อาการข้างเคียง แต่ สังเกตดู ยังไม่พบ
แสดงว่า กายยังรับ หรือ อาจไปเกิดในวันต่อๆไป
เป็นบทเรียนชีวิต ถ้ามีการศึกษา เฝ้าดู จะชัดเจนกว่าเรียนจากทฤษฎี การที่เรามีความรู้ อาจคาดการณ์ไปต่างๆนานา อาจต้อง หาความเห็นที่ 2 และ 3 การที่เราใช้ชีวิตตามแต่เป้าประสงค์ กายจะเหนื่อยไป การไม่รู้ รู้น้อยไป รู้มาก อาจไม่ดี
จากการตัดออก และมาเกิดอาการ เกือบปี ถือเป็นการเรียนรู้
เมื่อมีการเพลียผิดปกติ การมีไข้ ไม่มีสาเหต ควรมีการหาข้อมูลเพิ่มเติม
หลังเจ็ดเดือน ท้องอืด มีลม ท้องป่อง บ่าย ผายลม เซลมะเร็งกระจายไปลำไส้ และทำให้บริเวณนั้นไปจับอะไรบางอย่าง การ เคลื่อนไหวของลำไส้จึงไม่ดี
เป็นสิ่งที่ ธรรมดา อาจเกิดขึ้น เป็นอาการที่เซลมะเร็งกระจายไป
ครบรอบหนึ่งปีนำมารายงานให้ทราบ ท่านที่สนใจจะได้ทราบกันต่อไป
การฝึกแยกกายจิตสาคัญมาก ซึ่งจะมานำเสนอ ให้ทราบจนถึงการเข้าภวังค์จนจิตออกจากกาย แต่ตอนนั้นจะเข้า fb ได้หรือไม่ ยังไม่ทราบ
ขออนุญาตเท่านี้ ขอให้ทุกคนโชคดี
**************************

@ คนดี พี่มงคลที่จากไป
พูดได้ว่า กฏหมายควบคุมแอลกอฮอล์ ออกมาได้เพราะพี่มงคล
พี่มงคล ณ สงขลาเป็นแพทย์รุ่นพี่หนึ่งหรือสองปีของผม แต่พี่เขาเรียนที่ศิริราช ส่วนผมเรียนที่จุฬาฯ จึงไม่ได้รู้จักกัน
มารู้จักพี่มงคลเมื่อปี พ.ศ. 2530 ที่ชมรมแพทย์ชนบทที่นำโดย คุณหมอชูชัย ศุภวงศ์ จัดวิ่ง 4 ภาค ล่ารายชื่อและสร้างกระแสสนับสนุนการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ที่เริ่มโดยโครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
มูลนิธิหมอชาวบ้านปี พ.ศ. 2529 พี่มงคล ถ้าจำไม่ผิด เป็นสสจ. อยู่ที่โคราช ได้เข้าร่วมวิ่งรณรงค์สายอีสานด้วย
ในปีพ.ศ. 2537 โครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เชิญพี่มงคล ที่เป็นเลขาธิการ อย. และ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ มาร่วมแถลงข่าว ประชาสัมพันธ์ กฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในภัตตาคาร
เมื่อพี่มงคล ได้รับแต่งตั้งเป็นรมว สาธารณสุข ปี 2549 ที่พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี พี่มงคลได้ตั้งให้ผมเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของท่าน ผมก็รับ เพราะมีวาระที่จะขอให้ท่านผลักดันเช่นกัน
แล้วพี่มงคลก็คงมีส่วนที่ทำให้ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ต้องไปร่วมประชุมที่สภาทุกอาทิตย์
ในการกำหนดเรื่องที่จะต้องทำ พี่มงคลบอกว่า จะต้องผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ผ่านออกมาภายในหนึ่งปีของรัฐบาลเฉพาะกาลให้ได้
โดยก่อนหน้านั้น สำนักควบคุมยาสูบ กรมควบคุมโรคได้ยกร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกือบจะเสร็จแล้ว พอดีมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
ทีแรกทางทีมงานยาสูบ พยายามจะเร่งยกร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพื่อปิดจุดอ่อนของกฏหมายควบคุมยาสูบที่ใช้อยู่ หวังจะให้พี่มงคลช่วยผลักดันให้ผ่านสภาฯ
แต่พี่มงคล บอกว่า ลำพังกฏหมายสุราอย่างเดียวก็ยากที่จะผ่านแล้ว
ถ้าเสนอร่างกฎหมายบุหรี่ด้วย เดี๋ยวกฏหมายจะออกไม่ทันทั้งคู่
เราจึงยกเลิกความคิดที่จะปรับปรุงกฏหมายยาสูบ
เนื้อหาในร่างพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีหมวดหนึ่งที่ว่าด้วยการตั้งกองทุนเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะให้บริษัทสุรา จ่ายภาษีเพิ่มมาเป็นงบประมาณของกองทุน เนื่องจากฝ่ายผู้ร่างเห็นว่า เงินสนับสนุนจาก สสส. มีไม่เพียงพอ และการขอทำโครงการผ่านสสส. มีความยุ่งยากมาก
ผมได้ขอคุยกับพี่มงคล ขอให้ตัดหมวดที่ว่าด้วยการตั้งกองทุนควบคุมสุราออก เพราะจากประสบการณ์ในการผลักดันร่างกฏหมาย สสส. ช่วงปี 2542-2544 ผมเชื่อมั่นว่า หากมีหมวดที่ว่าด้วยการตั้งกองทุน ขบวนการพิจารณาร่างกฎหมายจะไม่ทันอายุรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์แน่นอน เนื่องจากจะต้องผ่านการเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และบริษัทสุราจะต้องวิ่งเต้นสุดฤทธิ์
พี่มงคลเห็นด้วย และสั่งการให้ทีมร่างกฏหมาย ตัดหมวดที่ว่าด้วยการตั้งกองทุนออก ทางกรมควบคุมโรค คงจะไม่สบอารมณ์นัก แต่ก็ไม่มีใครบ่นกับผม
เมื่อร่างพรบควมคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่าน ครม. และถูกส่งต่อไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฏหมายนี้ พี่มงคลได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมาธิการ
ครูหยุย วัลลภ เป็นรองประธานคนที่หนึ่ง และขอให้ผมเป็นรองประธานคนที่สอง
ใจผมแล้ว ไม่อยากเป็นรองประธาน เพราะรู้ว่าจะยากเย็นมาก ที่จะต้องต่อกรกับ สมาชิกสภาฯ สายสุรา
ผมถามพี่มงคลว่า ทำไมจึงตั้งผมเป็นรองประธาน ท่านบอกว่า ผมมีประสบการณ์ทำกฏหมายบุหรี่ ซึ่งเรื่องเหล้าลักษณะคล้ายคลึงกัน
อีกอย่างท่านมีภาระกิจมาก คงจะไม่มีเวลามาประชุมกรรมาธิการเท่าไร ให้ผมว่าแทนท่านในที่ประชุม
ผมจึงถึงบางอ้อว่า ทำไมพี่มงคลจึงตั้งผมเป็นที่ปรึกษา และเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการสาธารณสุข พี่มงคลคงวางแผนที่จะใช้งานผม
ใน 7-8เดือนที่ร่างพ.ร.บ.สุราอยู่ในการพิจารณาของกรรมาธิการ เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากของชีวิตการทำงานของผม เพราะมีสนช.หลายสาย หลายท่าน พยายามที่จะแปรญัตติ มาตราต่างๆในร่างพ.ร.บ. เพื่อให้กฏหมายอ่อนลง
ทีมเสนอร่างพ.ร.บ พยายามที่จะให้รักษาหมวดที่ว่าด้วยการโฆษณา ที่ห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ เหมือนกับกฏหมายยาสูบ ผมเหนื่อยกับเกมนี้มาก เพราะมีผู้คัดค้านมาก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ กรรมาธิการใช้เวลาพิจารณาร่างพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนเป็นร่างกฎหมายฉบับสุดท้าย ที่เข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ในวันสุดท้ายของที่ประชุมสภาฯ
ในวันสุดท้ายที่จะมีการประชุม คุณหมออำพล เลขาพี่มงคล โทรบอกผมว่า รมว. มงคล ให้บอกผมว่า ผมไม่ต้องไปประชุม เพราะถ้าไปประชุมอาจทำให้บรรยากาศในที่ประชุมยิ่งไม่ดี
และขอให้ยอมที่จะไม่สามารถห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ ถ้ายืนยันไม่ยอม กฏหมายจะไม่ได้รับการบรรจุให้พิจารณาและร่างกฏหมายจะตกไป สภาฯหมดอายุ
ผมเองก็โล่งอก ที่ไม่ต้องไปอยู่ที่สภาฯในวันนั้น นั่งรอฟังผลการประชุมที่บ้าน
แล้วที่ประชุมสภาฯวันนั้น ก็ผ่านร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเราไม่สามารถ ที่จะรักษาให้ห้ามโฆษณาสุราเบ็ดเสร็จเหมือนกฏหมายบุหรี่
และเมื่อร่างกฏหมายผ่านที่ประชุมสภาฯ ราว 4 ทุ่ม ประธานก็สั่งปิดการประชุม เป็นกฏหมายฉบับสุดท้ายที่ออกโดยสภาฯ
ไม่แน่นะ หากไม่ใช่เพราะพี่มงคลเป็นรมว. สาธารณสุข เราอาจจะยังไม่มีกฏหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ได้
ที่เขียนมานี่เป็นเฉพาะส่วนที่ผมเกี่ยวข้องกับพี่มงคล พี่มงคลไม่ได้เล่าว่า ท่านต้องไปฟันฝ่าอุปสรรคอะไรบ้าง ในเส้นทางที่ท่านผลักดันกฏหมายควบคุมสุรา
พี่มงคลจากโลกนี้ไปแล้ว ด้วยมะเร็งของไต ที่ไม่ทราบสาเหตุ
คนที่ได้ทำงานกับท่าน ย่อมสามารถสัมผัสถึงความเป็นคนดีของท่าน
ตลอดชีวิตพี่มงคล ทำงานหนัก ทำแต่ความดี สมถะ
ขอให้พี่พักผ่อนให้สบาย
พี่จะอยู่ในความทรงจำที่ดีของผมตลอดไปครับ
คารวาจารย์ อาจารย์มงคล
โดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
**************************

สมศักดิ์ ศรีสร้าง สูงส่ง
คู่คง สาธารณสุข ยุคสมัย
สุขภาพดี ก้าวหน้า มอบคนไทย
“มงคล ณ สงขลา” จารึกไว้ใจอนุชน
รำลึกในพระคุณและคุณูปการของท่านอาจารย์มงคล ณ สงขลา ในการเดินทางสู่สัมปรายภพ ท่านได้จากไปเมื่อคืนวันที่ 11 ธค 2563 ที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี และวันนี้ ได้มีการรดน้ำ ที่ตึกกายวิภาคศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช
พระสงฆ์ได้กล่าว มรณานุสติ เป็นสัจธรรมว่า ขอให้พวกเรารำลึกถึงท่าน ตั้งจิตมั่นคงพร้อมกัน ร่างของท่านที่นอนราบอย่างสงบอยู่เบื้องหน้า สอนพวกเราว่า พวกเราทุกคนต้องจากไปอีกไม่นาน ต้องจากไปอย่างแน่นอนเช่นกัน ร่างของอาจารย์มงคลนอกจากมอบเป็นอาจารย์ใหญ่ สำหรับนักศึกษาแพทย์ศิริราชแล้ว ยังทำหน้าที่สอนศิษย์และทุกคนที่มาร่วมรำลึกถึงท่าน ในสัจธรรมสำคัญเป็นวาระสุดท้าย
ด้วยความเคารพอย่างสูง
โดย รศ.ภก.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์
12 ธค 2563
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา