
สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 แถลงผลชี้มูล 'นายก อบจ.กำแพงเพชร' -พวก คดีทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายงบประมาณ 24 ล้าน เผยพฤติการณ์แทรกแซงจนท.สืบราคากลางมิให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง ลงนามสั่งการกำหนดผลงานไม่ต่ำกว่า 11,088,000 บาทเองด้วย - ส่งเรื่องอัยการฟ้องดำเนินคดีแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 แถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต กรณีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร กับพวกกรณีทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการกำหนดราคา กำหนดเงื่อนไขในการเสนอราคา ซึ่งมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม
ระบุว่า จากกรณีการทุจริตดังกล่าว พบพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ดังนี้
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กำแพงเพชร ได้ดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 56 ชุด วงเงินตามงบประมาณ 24,640,000 บาท ซึ่งในการดำเนินการตามโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายดังกล่าว นายกอบจ.กำแพงเพชร ได้ดำเนินการโดยมิชอบหรือโดยทุจริต โดยเข้าไปแทรกแซงการ ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการสืบราคาพัสดุอุปกรณ์ออกกำลังกายที่จะจัดซื้อของเจ้าหน้าที่ อบจ.กำแพงเพชร มิให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการสืบราคาเพื่อตั้งงบประมาณ ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับรายการและราคาเครื่องออกกำลังกาย ไปให้เจ้าหน้าที่งบประมาณกำหนดราคาจัดซื้อ เพื่อจัดทำร่างงบประมาณรายจ่าย และในขั้นตอนสืบราคาก่อนจัดซื้อ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พัสดุสืบราคาก่อน การจัดซื้อจากผู้ประกอบการสองราย
โดยระบุกับเจ้าหน้าที่พัสดุว่าผู้ประกอบการทั้งสองรายจะบอกรายชื่อ ผู้ประกอบการที่จะส่งไปสืบราคาอีกรายละ 1-2 ราย เพื่อให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับงบประมาณ และเสมือนว่าได้สืบราคาจากผู้ประกอบการในท้องตลาดแล้ว
ต่อมาเมื่อถึงขั้นตอนการประกาศประกวดราคา นายก อบจ.กำแพงเพชร ได้สั่งการในท้ายบันทึกขออนุมัติจัดซื้อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเสนอราคาให้กำหนดผลงานขายเครื่องออกกำลังกายให้มีราคาค่างานในสัญญาเดียวกันไม่น้อยกว่า 11,088,000 บาท
ทั้งที่โดยปกติการจัดซื้อพัสดุจะไม่มีการกำหนดผลงานขาย อีกทั้งในการจัดซื้อเครืองออกกำลังกายที่อบจ.กำแพงเพชร เคยจัดซื้อมาแล้วในปีงบประมาณที่ผ่านมาก็ไม่มีการกำหนดผลงานขายแต่อย่างใด
ครั้นเมื่อมีการเสนอราคาปรากฏว่ามีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียง 2 ราย ดังกล่าว จึงมีมูลเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นการกำหนดราคา กำหนดเงื่อนไขในการเสนอ ราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือ เพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดมีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้
การกระทำของนายกอบจ.กำแพงเพชร มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนด ราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มี การแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าท่าสัญญากับ หน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่าง เป็นธรรม ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจใน ตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/3 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และเห็นว่า มีมูลเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิมเติม มาตรา 79 จึงให้ส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา และให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอ่านาจแต่งตั้งหรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ต่อไป
ในส่วนของบริษัทเอกชนที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่า มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ในการกระท่าความผิดดังกล่าว
สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ได้ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญา และส่งสำนวนการไต่สวน ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยแล้ว
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา