'วัชรพล ประสารราชกิจ' ปธ.ป.ป.ช.เผยตั้งไต่สวนปมวิศวกรหนองบัวลำพูปลิดชีพแล้ว ลั่นหาตัวคนทำผิดได้ ปชช.จะเชื่อมั่น แจงปัญหาคดีทุจริตไม่ลด ดูแค่ตัวเลขไม่ได้ ชี้บางเรื่องร้องย้อนหลังเป็น 10 ปี ยันพร้อมสางคดีให้เร็วขึ้น
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2565 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีนายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี ชาวอุดรธานี วิศวกร เทศบาลตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู รมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์ ซึ่งปรากฎจดหมายลาตายที่นายภาณุเมศวร์เขียนระบายถึงพ่อแม่ว่าถูกกดดันจากที่ทำงาน ที่เต็มไปด้วยการทุจริตในโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของเทศบาล ไม่สามารถรับกับระบบฉ้อโกงได้อีกต่อไป จึงขอแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายเป็นทางการแล้ว
“เรื่องวิศกรที่ฆ่าตัวตาย เพราะไม่ยอมรับรับงานสร้างถนนที่จังหวัดหนองบัวลำพู เราตั้งไต่สวนเรียบร้อยแล้ว หากเราสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ ประชาชนก็จะเชื่อมั่น” พล.ต.อ.วัชรพลระบุ
- ไส้ในถนนเทศบาลนากลาง แข่งดุ-ฟันราคางาน 6 แสน เหลือ 4 แสน ชนวนเหตุ? วิศวกรหนุ่มปลิดชีพ
- มีให้ 'เงินเสน่หา' จริง! คนกองช่างท.นากลาง แฉปมลาตายวิศวกร-ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปป.ลุยสางคดี
- ไม่รู้จักวิศวกรหนุ่มส่วนตัว! นายกเทศฯ นากลาง พร้อมให้ตรวจสอบ 4 โครงการ จม.ลาตาย
@ แจงปัญหาตัวเลขคดีทุจริตไม่ลด
พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ประกาศเจตนารมย์ต่อต้านทุจริตทุกปีแต่ตัวเลขทุจริตยังไม่ลดลงนั้นว่า คดีทุจริตไม่เหมือนคดีอาชญากรรม เพราะมีเรื่องร้องเรียนเยอะ เมื่อตรวจสอบบางทีเรื่องที่รับไม่ได้เกิดในปีนี้ มีเกิดบ้างเพียง 10-20 % บางเรื่องเกินย้อนหลังไป 5-10 ปี บางเรื่องมาร้องก็ขาดอายุความ
"ตอนนี้ ป.ป.ช. มีข้อมูลหมดว่าเรื่องที่มาร้องในปีนี้เป็นเรื่องอะไร ความเสียหายรุนแรงแค่ไหน ทำให้เราตระหนักว่าบางทีพี่น้องประชาชนที่เค้ารับรู้เรื่องนี้ยังไม่มั่นใจว่าเมื่อมาร้องแล้ว เจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการได้หรือไม่ ถ้าดำเนินการไม่ได้ก็ยังไม่ร้อง วันดีคืนดีไม่ทราบเหตุผลก็มาร้อง ดังนั้นการดูแต่ตัวเลขว่าปีนี้ร้องเท่าไหร่ไม่ใช่เหตุผลว่าจะมีการทุจริตมาก แต่ต้องดูว่าเกิดเมื่อไหร่ ร้ายแรงแค่ไหน มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่"
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ส่วนกระบวนการทำงานเมื่อมีการรับเรื่องจะตรวจสอบเบื้องต้น และตั้งไต่สวน เรื่องที่รับมา 8,000 กว่าเรื่อง อาจจะรับดำเนินการปีละ 30 กว่าเรื่อง ไม่รับเยอะ บางเรื่องก็ส่งไป ป.ป.ท. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) ทั้งนี้ หลังจากตรวจการเรื่องกล่าวหา บางทีรับเรื่องไม่ถึง 50% ก็เป็นเรื่องที่เราสามารถดำเนินการไปได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นว่าจะมีมูลเพียงพอในการไต่สวน มีผู้กระทำผิดชัดเจน บางทีเรื่องร้องเรียนก็มีแค่ 20% เท่านั้นเอง ดั้งนั้นจึงต้องดูแต่ละขั้นตอนแต่ละเรื่อง แต่ถ้าเรื่องไหนที่เป็นเรื่องที่กระทบขวัญประชาชนเรื่องร้ายแรง
"ตอนนี้มี ป.ป.ช. ทั่วประเทศก็จะเข้าพื้นที่เกิดเหตุได้เร็ว และจะดำเนินการควบคู่ไป ส่วนสาเหตุที่มีความล่าช้าอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเก่าที่สะสมมานาน ในระบบบริหารจัดการที่มีความไม่พร้อม ยังไม่มีการกระจายคนในระดับภูมิภาค แต่ตอนนี้เราพร้อมหมดแล้ว ทั้งเรื่องการกระจายคน หน่วยงาน กระบวนการการทำงาน จะเห็นว่าเรื่องไหนที่สำคัญ ประชาชนสนใจ อย่างเช่น เรื่องวิศกรที่ฆ่าตัวตาย"
ประธาน ป.ป.ช. ยังกล่าวถึงดัชนีชี้วัดการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ว่า "เราไม่ได้คาดหวังว่าค่า CPI เราจะเพิ่มขึ้น เราคิดว่าถ้าแค่คงอยู่ หรือดีขึ้น ก็ดีใจแล้ว เพราะ CPI เป็นเรื่องของการรับรู้ของคนที่มีบทบาทให้คะแนนค่าดัชนี ซึ่งมีคนเกี่ยวข้องมากมาย และคนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ อย่างที่นายกฯ และ ป.ป.ช. ตอกย้ำถ้าทุกส่วนราชการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส อำนวยความยุติธรรม ความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้บริการตามที่เราได้ไปตรวจสอบ ITA บ้านเราไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวคะแนน CPI ก็ขึ้นเอง เค้าเห็นว่าไม่ต้องไปเสียเงินใต้โต๊ะ เขาได้รับการอำนวยความสะดวก ค้าขายสะดวก เดี๋ยว CPI ก็ขึ้นเอง เมื่อวันนี้ยังไม่ขึ้น ก็เป็นเชิงประจักษ์ว่าเราต้องพยายามทำตรงนี้ให้มากขึ้น ไม่ใช่ประกาศ ไม่ทน ไม่ทำ ไม่เฉย แล้วเราไม่ทำอะไรเลย แต่ไม่ทำอะไรที่เป็นเชิงประจักษ์ แต่วันนี้เราพยายามทำสื่อข้อมูล เยอะแยะมาก ทั้งฉบับภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อสื่อสารไปยังองค์กรต่างๆ เพราะบุคคลที่จะมีอิทธิต่อต่อคะแนนเป็นบุคคลต่างชาติ"