เล่นสงกรานต์ไม่ใส่หน้ากาก!สถ. สั่งผู้ว่าฯรับมือผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์XBB.1.16พุ่ง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งหนังสือเวียนถึงผู้ว่าฯทั่วประเทศ เตรียมรับมือการระบาดโควิด XBB.1.16 คาดผู้ติดเชื้อพุ่ง หลังเล่นสงกรานต์ไม่ใส่หน้ากาก

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2566 นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดี ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เรื่อง การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) สายพันธุ์ XBB.1.16 ลงวันที่ 19 เม.ย. 2566 ระบุว่า

ด้วยขณะนี้มีรายงานข่าวการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD - 19) สายพันธุ์ XBB. 1.16 ที่พบเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยพบเชื้อแล้วใน 60 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าสายพันธุ์ในอดีต ประกอบกับกรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่า หลังเทศกาลสงกรานต์จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประขาขนทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการเดินทางที่เพิ่มขึ้น

ภายหลังประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ ไม่ได้มีการตรวจโควิดก่อนเข้าร่วมกิจกรรมการสวมหน้ากากน้อยลง จึงทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อและทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ได้ และให้ข้อแนะนำประชาชนหลังสงกรานต์ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองอย่างน้อย 7 วัน ระหว่างนี้หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ เมื่อเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีไข้ เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก ให้ตรวจ ATK

หากผลเป็นบวก ให้พบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาตามสิทธิและระดับอาการ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 จึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการ ดังนี้

1. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวัง และป้องกันการระบาดของโรคฯ โดยหลังสงกรานต์ ขอให้ฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองอย่างน้อย 7 วัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

2. ประชาสัมพันธ์ให้ประขาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ประจำปี

3. สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อร่วมกิจกรรมหรือไปสถานที่ที่มีผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง จำนวนมาก เช่น โรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงวัย

4. ให้ตรวจ ATK เมื่อป่วยหรือมีอาการทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ เจ็บคอ หากผลเป็นบวก ให้สวมหน้ากากเมื่อใกล้ชิดผู้อื่น หลีกเสี่ยงใกล้ชิดผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ สถานที่มีคนจำนวนมาก หากอาการมากขึ้น เช่น เหนื่อยหอบ หายใจล้ำบาก ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรักษาในโรงพยาบาล

   สำหรับผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

   กรณีที่มีสมาชิกในครอบครัว เพื่อน/เพื่อน/นักเรียน/เพื่อนร่วมงานที่ตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวกในช่วง 1 - 2 สัปดาห์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค