
‘มนพร เจริญศรี’ สั่ง ‘ท่าเรือ’ ควักงบ 20 ล้านบาท ศึกษาโมเดลการพัฒนาพื้นที่หน้าท่า 800 ไร่ คาดเริ่มได้ ม.ค. 68 ใช้เวลา 6 เดือนรู้ผล พร้อมดึงสหภาพฯร่วมในคณะอนุฯทุกชุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 ธ.ค. 2567 นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) และจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ ที่มีตนเป็นประธาน ได้มีการประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล
ซึ่งตามแผนการศึกษาเดิมของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จะมีการพัฒนาโครงการ Smart Port และโครงการ Smart Community พัฒนาที่อยู่อาศัยจากแนวราบเป็นแนวสูง ให้ชุมชน ในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ และมีการใช้ประโยชน์พื้นที่หน้าท่า พัฒนาเป็นท่าเรือท่องเที่ยว Cruise Terminal เพื่อส่งเสริมและเชื่อมโยงกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว และนำพื้นที่ส่วนที่เหลือไปพัฒนาเชิงพาณิชย์มากขึ้น
@หั่นพื้นที่หน้าท่า 800 ไร่ นำร่องศึกษา Business Model
โดยที่ประชุมได้พิจารณาพื้นที่นำร่องที่สามารถพัฒนาหน้าท่าได้ประมาณ 800 ไร่ ซึ่งแบ่งเป็น เฟสแรก ในกลุ่มพื้นที่ C1 ประมาณ 500ไร่ และ C2 ประมาณ 217 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันเป็นพื้นที่ของการท่าเรือฯ ไม่มีสัญญาเช่าหรือสัญญาสัมปทานผูกพันกับหน่วยงาน หรือเอกชนรายใด และไม่มีผลกระทบต่อประชาชน ส่วนใหญ่เป็นลานและอาคารเก่า เป็นที่ตู้สินค้าเก่าทิ้งไว้ เช่น ตู้สินค้าที่ตกค้างจากศุลกากร เป็นต้น
โดยมีมติมอบหมายให้กทท. ดำนินการศึกษา Business Model การพัฒนาพื้นที่หน้าท่าดังกล่าว ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทท.ได้อนุมัติวงเงิน 20 ล้านบาทในการจัดจ้างที่ปรึกษาแล้ว คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาและเริ่มงานได้ในเดือนม.ค. 2568
“พื้นที่ดังกล่าวไม่มีพันธสัญญา ไม่ทับซ้อนกับหน่วยงานใด และไม่มีปัญหาเรื่องประชาชน เป็นโซนติดริมแม่น้ำ ถือเป็นพื้นที่มีศักยภาพที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นได้ทั้ง ท่าเรือท่องเที่ยว Cruise Terminal โครงการ Mixed-Use Building Complex ศูนย์การค้า หรือ ช้อปปิ้งมอลล์ รวมไปถึงสนามกีฬา โรงแรม รวมถึงพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งหลักการพัฒนากิจกรรมควรมีความเชื่อมโยงและสนับสนุนซึ่งกันและกัน” นางมนพรกล่าว
@ เพิ่มตัวแทนสร.กทท.ร่วมคณะอนุกรรมการ ร่วมให้ความเห็น
นอกจากนี้ ได้เห็นชอบให้เพิ่มตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือฯ (สร.กทท.) เข้าร่วมอยู่ในคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพและจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ ,รวมถึงคณะอนุกรรมการอีก 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการพิจารณาพัฒนาศักยภาพพื้นที่บริเวณชุมชนคลองเตย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ในปัจจุบัน และคณะอนุกรรมการด้านการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในท่าเรือกรุงเทพและการประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้เนื่องจาก ทางสร.กทท.ได้เข้าพบตนและแสดงความชัดเจนที่จะร่วมรับฟังการชี้แจงและไม่คัดค้านเรื่องการย้ายท่าเรือ แต่เห็ฯว่าต้องมีความชัดเจนว่าจะย้ายไปไหน และหากมีการย้าย จะมีการเพิ่มศักยภาพการท่าเรือฯอย่างไร หากการศึกษาเป็นประโยชน์ต่อประเทศ องค์กรและสังคมส่วนรวม รัฐบาลควรทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนก่อน ซึ่งการให้ตัวแทน สร.กทท.จำนวน 1 คนเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการฯ เนื่องจากจะเป็นตัวแทนพนักงาน ซึ่งถือเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางตรงและทางอ้อมในเรื่องการเรื่องดังกล่าว เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น

มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
@ย้อนอดีตแผนพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย 2,353 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามแผนการพัฒนาเดิมที่ กทท.ทำไว้ จะเป็นการนำที่ดินท่าเรือกรุงเทพ เนื้อที่ 2,353 ไร่ เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรในระยะยาว โดยเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP เป็นรายโซน ระยะเวลา 30 ปี
กรอบการพัฒนาฉบับเดิม แบ่งการพัฒนาที่ดินเป็น 3 โซน โดยโซน 1 พัฒนาพื้นที่ด้านการค้า (commercial zone) จะมีอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี 17 ไร่ ด้านข้างอาคารที่ทำการปัจจุบัน ภายในอาคารประกอบด้วย สำนักงาน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการ ศูนย์การประชุม พื้นที่ค้าปลีก และธนาคาร
ศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้า 54 ไร่ ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าแนวสูงและแนวราบ สถานีพักรถบรรทุกสินค้า รวมถึงมีอาคารสำนักงาน 126 ไร่ (ไม่รวมตลาดคลองเตย) อยู่ในทำเลศักยภาพพัฒนากิจกรรมที่มีความหลากหลาย และสนับสนุนกิจการของท่าเรือและชุมชนโดยรอบ อาทิ ศูนย์กลางการค้าและพาณิชยกรรมนำเข้า-ส่งออก อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ สำนักงาน ศูนย์ฝึกอบรมธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ สถาบันการเงิน และศูนย์การประชุม ยังมีศูนย์การค้าธุรกิจทันสมัยครบวงจร15 ไร่ เช่น ศูนย์แสดงสินค้ากิจการท่าเรือจะนำที่ดินบริเวณโรงฟอกหนังกระทรวงกลาโหม 123 ไร่ พัฒนาสมาร์ทคอมมิวนิตี้ ก่อสร้างที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่รองรับชุมชนและหน่วยงานราชการต่าง ๆ
“โซน 2” พัฒนาธุรกิจหลัก การให้บริการท่าเรือกรุงเทพ (core business zone) โดยปรับพื้นที่จากปัจจุบัน 943 ไร่ เหลือ 534 ไร่ พัฒนาสถานีบรรจุสินค้าเพื่อส่งออกและบูรณาการพื้นที่หลังท่าเป็นคลังสินค้าขาเข้าเขตปลอดภาษี พื้นที่ปฏิบัติการสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าต่าง ๆ เช่น คลังสินค้าห้องเย็น ฮาลาล ลานบริหารจัดการรถบรรทุก และจุดบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ
ยังมีท่าเทียบเรือตู้สินค้าบริเวณเขื่อนตะวันตกติดคลองพระโขนง จะพัฒนาเป็นท่าเทียบเรือแห่งใหม่ ลานกองเก็บตู้สินค้าและอาคารสำนักงาน ปรับปรุงท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันออกให้ทันสมัยรองรับเรือลำเลียงชายฝั่ง และมีโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือและทางด่วนสายบางนา-อาจณรงค์ เป็นการระบายรถบรรทุกขาออกที่มุ่งหน้าไปยังบางนา-ตราด และขาเข้ามายังท่าเรือกรุงเทพและ
“โซน 3” พื้นที่พัฒนาเมืองท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok modern city) อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เน้นการพัฒนาเมืองธุรกิจขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศ ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางน้ำ และเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์สาธารณะ รวมถึงพัฒนาอาคารมิกซ์ยูสครบวงจร มีช็อปปิ้งมอลล์ ที่จอดรถ และโรงแรม

ภาพตัวอย่างการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตยตามแผนการศึกษาเดิมทั้ง 2,353 ไร่ เมื่อปี 2564
อ่านประกอบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา