
เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา 'อนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ อดีตผอ.วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง คดีที่ 3 ไปร่วมงานฌาปนกิจศพบิดาลูกน้อง ก่อนเบิกค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเป็นเท็จ 100 บาท หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังได้ว่ากระทำความผิดไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างระยอง คดีที่ 3 กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับการเบิกค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการอันเป็นเท็จ
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่านางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 นางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างระยอง ได้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพบิดาของนาง ร. (ชื่อย่อ) ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง ที่จังหวัดนครสรรค์ ไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่กลับลงชื่อปฏิบัติงานย้อนหลังโดยใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ผู้อำนวยการ บังคับให้เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบให้ลงชื่อย้อนหลัง และทำการเบิกเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการในวันดังกล่าวโดยไม่มีสิทธิ์
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพบิดาของนาง ร. ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป วิทยาลัยสารพัดช่างระยองที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ดังกล่าว โดยนางอนงค์ลักษณ์ฯ ไม่ได้มาปฏิบัติราชการทั้งในและนอกเวลาราชการที่วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง แต่ได้มีการลงลายมือในเอกสารบัญชีลงเวลาปฏิบัติราชการของข้าราชการ (ผู้บริหาร) บัญชีเวลาและบันทึกการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการของบุคลากรทางการศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง และเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ได้ทำการอนุมัติเบิกจ่ายและรับเงินค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เป็นเงิน 100 บาท
การกระทำดังกล่าวเป็นการลงลายมือชื่อโดยผิดหลงตามที่นาง ศ. ผู้ใต้บังคับบัญชา ได้นำเสนอขึ้นมาตามปกติ หากไม่มีการตรวจดูให้รอบคอบก็อาจมีการลงลายมือชื่อโดยผิดหลงได้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริหาร ในแต่ละวันต้องมีเอกสารที่ต้องตรวจทานในการลงลายมือชื่อเป็นจำนวนมากและผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้บริหาร หากวันใดติดภารกิจก็จะต้องมีการลงลายมือชื่อในเอกสารต่าง ๆ ในวันถัดไป ซึ่งอย่างช้าที่สุดก็ไม่เกิน 1 สัปดาห์ จึงอาจเกิดความผิดพลาดได้
ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากมูลค่าของเงินที่เบิกไปก็เป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อย จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาทุจริต และรับฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหารับรองเอกสารอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ถูกกล่าวหาทราบเรื่องก็ได้มีการส่งคืนเงินจำนวน 100 บาท ให้แก่วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง
ฉะนั้น การกระทำดังกล่าวของผู้ถูกกล่าวหาจึงขาดเจตนาทางอาญา คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาจึงฟังขึ้น ดังนั้น การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่มีมูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย คณะไต่สวนเบื้องต้นพิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำดังกล่าวของผู้ถูกกล่าวหาไม่มีมูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย เห็นควรให้ข้อกล่าวหาเป็นอันตกไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 58 ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 87
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 143/2564 วันที่ 29 กันยายน 2564 วาระที่ 4.1 พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ดัวยคณะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่านางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
อนึ่งเกี่ยวกับคดีความของ นางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ ก่อนหน้านี้ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว 2 คดี
คดีแรก เบิกค่าเดินทางไปศึกษาดูงานการแปรรูปอาหาร ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เป็นเท็จ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนยกฟ้อง ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 คดีถึงที่สุดแล้ว
คดีสอง ทุจริตเบิกจ่ายค่าวัสดุการศึกษา เมื่อปี 2560 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาว่า นางอนงค์ลักษณ์ พูลสุวรรณ จำเลยมีความผิดตามกฏหมาย ให้ลงโทษตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีบทหนักสุด จำคุก 5 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลย
อ่านประกอบ :
- ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้องอดีต ผอ.วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง เบิกค่าเดินทางศึกษาดูงานเท็จ
- คดีที่ 2! คุก 5 ปี อดีต ผอ.วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง ทุจริตเบิกค่าวัสดุไปจัดเลี้ยงปีใหม่

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา