'กสทช.'เปิดยื่นประมูลคลื่นฯ 1.2 แสนล.เม.ย.-เคาะราคา พ.ค. ‘สรณ’หวังผู้แข่งขันเกิน 2 เจ้า

‘กสทช.’ เปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศฯประมูลคลื่น ‘มือถือ’ 6 ย่านความถี่ มูลค่าเริ่มต้น 1.2 แสนล้านบาท คาดเปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขอรับ ‘ใบอนุญาตฯ’ เม.ย.นี้ กำหนดวันเคาะราคาภายในเดือน พ.ค. ด้าน ‘ประธาน กสทช.’ หวังมีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 2 เจ้า มั่นใจประมูลได้ราคาดีกว่า ‘ราคาขั้นต่ำ’

 ..................................

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.นี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (สำนักงาน กสทช.) เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลที่เกี่ยวข้อง

ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวเปิดการรับฟังความคิดเห็นฯ ว่า คลื่นความถี่ฯเป็นสมบัติของชาติ และมีการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน โดยปัจจุบันประเทศไทยมีเบอร์โทรศัพท์มากกว่า 120 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นการให้บริการ 4G เป็นหลัก ส่วน 2G และ 3G มีน้อย ในขณะที่การให้บริการ 5G ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ 90% ของพื้นที่และประชากร ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ข้อมูลจะเพิ่มเป็น 1,200 กิกะไบต์/คน/ปี

“การปฏิบัติงานในวันข้างหน้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การเกษตร และการติดต่อสื่อสาร รวมถึง AI ล้วนแล้วแต่จะต้องใช้ Multiband จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องนำคลื่นทุก spectrum มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต่อไป 5G จะต้องเป็น 5.5G และเป็น 6G ในอนาคต เพื่อการพัฒนาต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามา

การจัดประมูลคลื่นคราวนี้ เป็นครั้งแรกที่เราจะใช้รูปแบบ Multiband Auction ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน แต่มีหลายที่ในโลกที่ทำกัน และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศ จึงคาดว่าเมื่อรวม 450 MHz แล้ว ราคาที่เราได้จะอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาทเป็นอย่างน้อย” ศ.คลินิก นพ.สรณ กล่าว

ศ.คลินิก นพ.สรณ ย้ำว่า กสทช.มีความมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายการให้บริการ 5G เพื่อทำให้มั่นใจว่าทุกคนและภาคส่วนจะได้รับความสะดวกสบายจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และเป็นความจำเป็นของประเทศในการนำคลื่นความถี่ในทุกความถี่ที่มีความจำเป็นมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ จึงหวังว่าทุกคนที่เข้ามาร่วมเวทีนี้จะร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศฯ เพื่อนำไปปรับปรุง และดำเนินการเปิดประมูลคลื่นต่อไป

ศ.คลินิก นพ.สรณ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. จะมีการนำความคิดเห็นฯ ไปปรับปรุงร่างประกาศฯ และนำเสนอร่างประกาศฯที่ปรับปรุงแล้ว ให้คณะกรมการ กสทช. พิจารณา จากนั้นจึงจะมีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ โดยจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขอรับใบอนุญาตฯในเดือน เม.ย.นี้ และในเบื้องต้นได้กำหนดวันเคาะราคาในช่วงเดือน พ.ค.2568 โดยคาดหวังว่าการประมูลคลื่นในครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 2 เจ้า และน่าจะได้ราคาดีกว่าราคาขั้นต่ำที่ตั้งไว้

ด้าน รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีการแสดงความเห็นว่า ราคาประมูลคลื่นขั้นต่ำที่ กสทช. กำหนดไว้สูงเกินไป และอยากให้จัดประมูลคลื่นทั้ง 6 คลื่นพร้อมกัน โดยไม่มีการแบ่งกลุ่ม จากที่กำหนดว่าจะแบ่งการประมูลเป็น 3 กลุ่ม ว่า กสทช.ก็รับฟัง โดยสำนักงาน กสทช. จะนำความคิดเห็นต่างๆไปปรับปรุงร่างประกาศฯ และเสนอให้คณะกรรมการ กสทช. พิจารณา

ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz และร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงวันที่ 20 ก.พ.2568

“วันที่ 20 ก.พ.นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการเปิดรับฟังความเห็นฯ จากนั้นสำนักงาน กสทช. จะรวบรวมความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงร่างประกาศฯ และเสนอบอร์ด กสทช. พิจารณา แล้วนำไปลงในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะเข้าเริ่มประมูลได้ โดยจะมีการเปิดให้ผู้สนใจยื่นขอใบอนุญาตได้ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือน เม.ย.2568 ส่วนวันเคาะราคาจะขึ้นอยู่กับทางสำนักงาน กสทช. ซึ่งเขามีคณะทำงานฯ จะไปก้าวล่วงไม่ได้” รศ.ดร.สมภพ กล่าว

รศ.ดร.สมภพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่า จะมีผู้เข้าร่วมประมูลกี่ราย แต่หากมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 2 รายเท่านั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับสำนักงาน กสทช. ว่า จะมีผลวิเคราะห์ออกมาอย่างไร ส่วนจะมีการแข่งขันในการเสนอราคาหรือไม่นั้น กสทช. คงจะคาดคะเนไม่ได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ในการเปิดประมูลคลื่นฯครั้งนี้ กสทช. มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการสนับสนุนให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆเข้าร่วมประมูลด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz ดังกล่าว กสทช.จะนำคลื่นย่านความถี่ 850 1500 1800 2100 2300 MHz และ 26 GHz มาเปิดประมูล รวม 43 ชุด ราคาขั้นต่ำรวม 121,026 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.คลื่นย่านความถี่ 850 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 824-834/869-879 MHz จำนวน 2 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 2×5 MHz ราคาขั้นต่ำ 6,609 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือ 2 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 13,218 ล้านบาท

2.คลื่นย่านความถี่ 1500 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1452-1507 MHz จำนวน 11 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 5 MHz ราคาขั้นต่ำ 904 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 11 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 9,944 ล้านบาท

3.คลื่นย่านความถี่ 1800 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1750-1785/1845-1880 จำนวน 7 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 2x5 MHz ราคาขั้นต่ำ 6,219 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 7 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 43,533 ล้านบาท

4.คลื่นย่านความถี่ 2100 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1920-1965/2110-2155 จำนวน 9 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 2x5 MHz ราคาขั้นต่ำ 3,391 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 9 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 30,519 ล้านบาท

5.คลื่นย่านความถี่ 2100 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1965-1980/2155-2170 จำนวน 3 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 2x5 MHz ราคาขั้นต่ำ 3,391 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 3 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 10,173 ล้านบาท

6.คลื่นย่านความถี่ 2100 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 2010-2025 จำนวน 3 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 5 MHz ราคาขั้นต่ำ 497 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 3 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 1,491 ล้านบาท

7.คลื่นย่านความถี่ 2300 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 2300-2370 จำนวน 7 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 10 MHz ราคาขั้นต่ำ 1,675 ล้านบาท/ชุดความถี่ หรือรวม 7 ชุดความถี่ ราคาขั้นต่ำ 11,725 ล้านบาท

8.คลื่นย่านความถี่ 26 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 25.10-25.20 จำนวน 1 ชุดความถี่ ขนาดความกว้างแถบความถี่ 100 MHz ราคาขั้นต่ำ 423 ล้านบาท/ชุดความถี่

สำหรับอายุใบอนุญาตฯนั้น ให้มีระยะเวลาการอนุญาต 15 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ยกเว้นคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz (ช่วงความถี่ 1920-1965/2110-2155 MHz) ให้มีระยะเวลาการอนุญาต 13 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต

@แนะตั้งทีมศึกษาฯ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ใช้'เน็ตดาวเทียม’

วันเดียวกัน (6 ก.พ.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยสร้างไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยกล่าวชื่นชม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ตัดสินใจตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และยกเลิกการขายน้ำมันตามบริเวณรอยตะเข็บชายแดนประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาละวาดอย่างหนักในพื้นที่บริเวณดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายฐากร ได้อภิปรายถึงข้อควรระวังการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ ซึ่งขณะนี้มีการใช้งานทั่วโลกอยู่ 2 บริษัท บริษัทแรก คือ "วันเว็บ"(OneWeb) เป็นบริษัทที่มีดาวเทียมทั้งสิ้น 648 ดวง มีระยะห่างจากโลก 1,200 กิโลเมตร ขณะนี้มีสัญญาณครอบคลุมทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย การดาวน์โหลดต่างๆ ที่เกิดขึ้น และสปีดการทำงานดาวเทียมของ OneWeb อยู่ที่ 50-150 Mbps/นาที สามารถดาวน์โหลดใช้งานเรื่องต่างๆได้

ดังนั้น แม้จะตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตไป ถ้ายังมีวงโคจรดาวเทียมนี้อยู่ ก็ยังมีพื้นฐานสัญญาณ (Footprint) ที่จะทำให้ประเทศในรอยตะเข็บของไทยสามารถใช้งานได้อยู่ดี

บริษัทที่สอง คือ บริษัท Starlink มีดาวเทียมใช้งานอยู่ 6,000 ดวง ขณะนี้ระยะห่างจากโลก 550 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เคนย่า ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และพื้นที่ประเทศไทยทั้งหมด ดาวเทียม Starlink ใช้คลื่นความถี่ย่าน Ka (ช่วงความถี่ 27 ถึง 40 GHz อัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูง) และ Ku สปีด 50-200 Mbps/นาที โดยสัญญาณนี้เป็นสัญญาณสำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อยู่

“จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้ตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบการใช้งานดาวเทียมวงโคจรต่ำโดยให้เป็นเรื่องเร่งด่วนด้วย” นายฐากร กล่าว

อ่านประกอบ :

'กสทช.'เปิดเวทีรับฟังความเห็นฯ ร่างประกาศหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น'มือถือ'ล็อตใหญ่ 1.21 แสนล.