แพร่ประกาศสำนักงาน ปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนทรัพย์คดี ‘สุนิสา พัดมา’หน.ฝ่ายการเงินฯ จัดทำบัญชีเอกสารเบิกจ่ายเท็จโครงการต้านภัยมะเร็งเต้านม ถอนเงินมูลนิธิฯ เข้าส่วนตัว 15 ครั้ง เสียหาย 61.5 ล้าน ปี 2565-2567 แจ้งความ สน.บางกอกน้อย คณะกก.ธุรกรรมสั่งอายัดทรัพย์แล้ว 2 ครั้ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ราย นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก เป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ และ/หรือยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา โดย นางสาวสุนิสา พัดมา หัวหน้าฝ่ายการเงินและบุคคล กับพวก ได้กระทำการโดยทุจริตร่วมกันจัดทำบัญชีและเอกสารเบิกจ่ายที่ไม่เป็นความจริงในโครงการเกี่ยวกับการด้านภัยมะเร็งเต้านม ซึ่งโครงการไม่มีรายการที่ต้องใช้จ่ายเงินจริงเพื่อเบิกถอนเงินออกจากบัญชีของมูลนิธิฯ ซึ่งนางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก มีอำนาจในการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีและนำเงินของมูลนิธิฯที่เบิกถอนไปเป็นของตนเอง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีการร่วมกันกระทำความผิตหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ รวม 15 ครั้ง เป็นเหตุให้มูลนิธิฯ ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 61,523,600 บาท
คำสั่งมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้มีคำสั่ง ที่ ย. 251/2567 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก คำสั่ง ที่ ย.1/2568 ลงวันที่ 3 มกราคม 2568 เรื่อง-ยึดและอายัตทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (แก้ไข) ราย นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก และคำสั่ง ที่ ย. 2/2568 ลงวันที่ 3 มกราศม 2568 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ราย นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งในความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ และ/หรือยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญาอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 รายคดี นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย ตามหนังสือ ที่ ตช 0015 (บก.7)06/5562 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เรื่อง รายงานการกระทำความผิดลักษณะเข้าข่ายการฟอกเงิน และขอความอนุเคราะห์ตรวจเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์ แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ และ/หรือยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กล่าวคือ
สืบเนื่องจากประมาณปี พ.ศ. 2565 ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2567 นางสาวสุนิสา พัดมา หัวหน้าฝ่ายการเงินและบุคคล กับพวก ได้กระทำการโดยทุจริตร่วมกันจัดทำบัญชีและเอกสารเบิกจ่ายที่ไม่เป็นความจริงในโครงการเกี่ยวกับการต้านภัยมะเร็งเต้านม ซึ่งโครงการไม่มีรายการที่ต้องใช้จ่ายเงินจริงเพื่อเบิกถอนเงินออกจากบัญชีของมูลนิธิฯ ซึ่งนางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก มีอำนาจในการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีและนำเงินของมูลนิธิฯ ที่เบิกถอนไปเป็นของตนเอง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีการร่วมกันกระทำความผิดหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ รวม 15 ครั้ง เป็นเหตุให้มูลนิธิฯ ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 61,523,600 บาท
ต่อมามูลนิธิฯได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา นางสาวสุนิสา พัดมา กับพวก ในข้อหาลักทรัพย์ และ/หรือยักยอกปรากฏจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พฤติการณ์แห่งคดีเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักทรัพย์และ/หรือยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้องปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/60015.pdf
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 