
ผ่าความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ช่วงกทม.-โคราช 14 สัญญา พบสร้าง 8 ปีคืบหน้าเพียง 40% ก่อนเปิดรายละเอียดทั้ง 14 สัญญางานโยธา เสร็จ 2 สัญญา อีก 10 สัญญาช้ายกแผง ขณะที่อีก 2 สัญญา ติดพัน ‘สถานีอยุธยา-ต่อเชื่อมไฮสปีด 3 สนามบิน’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 มีนาคม 2568 จากกรณีที่คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด รฟท. เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 อนุมัติให้ขยายเวลาทำการตามสัญญา และแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร–นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 3-5 งานโยธา สำหรับช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา โดยให้ขยายเวลาทำการตามสัญญาออกไปอีก 350 วัน นับถัดจากวันสิ้นสุดสัญญาคือวันที่ 25 มีนาคม 2568 และสิ้นสุดขยายเวลาปฏิบัติงานตามสัญญาในวันที่ 10 มีนาคม 2569

@8 ปี ไปไกลแค่ 40%
ล่าสุด แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กม. วงเงินลงทุน 179,412.21 ล้านบาท จำนวน 14 สัญญา หลังจากเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560
ภาพรวมคืบหน้าไปแล้ว 40.52% ล่าช้ากว่าแผน 42.58% โดยมีเพียง 2 สัญญาเท่านั้นที่ก่อสร้างเสร็จ คือสัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ก่อสร้างโดยกรมทางหลวง (ทล.) และสัญญา 2–1 ช่วงสีคิ้ว–กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,114.98 ล้านบาท มีบริษัท ซีวิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง

@10 สัญญาก่อสร้าง ช้ายกแผง
อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา ประกอบด้วย
สัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย - กลางดง และปางอโศก - บันไดม้า ระยะทาง 30.2 กม.วงเงิน 9,300 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ITD - CREC No.10 (มีบมจ.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร่วมทุนกับ บจ.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10) เป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้า 5.47% ล่าช้ากว่าแผน 10.36% กำหนดแล้วเสร็จปี 2569 โดยอุปสรรคที่ทำให้งานล่าช้าคือ ยังมีปัญหาเวนคืนบางจุด รวมถึงมีบางพื้นที่ที่ยังรอการอยนุญาตการใช้พื้นที่จากหน่วยงานรัฐ และการขาดสภาพคล่องของรับเหมา
สัญญา 3-2 อุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.2 กม. วงเงิน 4,200 ล้านบาท มีบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการเป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้า 85.24% ล่าช้ากว่าแผน 9.79% กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2568
สัญญา 3-3 ช่วงบันไดม้า - ลำตะคอง ระยะทาง 26.1 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีบจ.ไทยเอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรมเป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 57.1% ล่าช้ากว่าแผน 20.12% มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569
สัญญา 3-4 ช่วงลำตะคอง - สีคิ้ว และช่วงกุดจิก - โคกกรวด ระยะทาง 37.4 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีมีบมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 87.11% ล่าช้ากว่าแผน 11% มีกำหนดแล้วเสร็จ ภายในปี 2568 สำหรับอุปสรรคที่ทำให้งานยังช้าประกอบด้วยการขอใช้พื้นที่บางแห่งกับกรมชลประทาน และปัญหาสภาพคล่องของทางผู้รับเหมา
สัญญ 3-5 ช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า SPTK (นภาก่อสร้างร่วมกับรับเหมาประเทศมาเลเซีย) เป็นผู้รับจ้างงาน ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 12.42% ล่าช้ากว่าแผน 83.46% โดยมีปัญหาสำคัญคือ ประชาชนร้องเรียนเพื่อปรับพื้นที่ก่อสร้างบางส่วนให้ยกระดับจากเดิมที่จะก่อสร้างเป็นระดับพื้นดิน รวมระยะทางที่ยังมีปัญหาประมาณ 7.8 กม.
สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง - นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 10,500 ล้านบาท มีบมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 1.94% ล่าช้า 98.06% เนื่องจากมีการกลับไปใช้รายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับเดิม จึงต้องปรับปรุงรายละเอียดใหม่ เช่น การย้ายท่อน้ำมัน
สัญญา 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 11,500 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า CAN (บจ.เอ.เอสแอสโซศซิเอทเอนยิเนียริ่ง (1964) ร่วมกับบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ และบริษัทไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่นเอนยิเนียริ่งคอร์ปอเรชั่นลิมิเต็ดเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 48.89% ล่าช้า 51.11% โดยยังติดปัญหาการรื้อย้ายท่อและปรับปรุงฐานรากบางจุด
สัญญา 4-4 งานศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,573 ล้านบาท มีบมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง งานคืบหน้า 32.55% ล่าช้า 5.18%
สัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. วงเงิน 9,429 ล้านบาท มีบมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 9.56% ล่าช้า 90.44% สาเหตุมาจากการย้ายท่อก๊าซ ท่อน้ำมัน และสายส่งไฟฟ้าความยาวรวม 10 กม. รวมถึงมีปัญหาร้องเรียนของประชาชนบางจุด และการเวนคืนที่ดิน
และสัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท มีบมจ.ซีวิลเอนจีเนียริงเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 61.91% ล่าช้า 32.55% โดยติดปัญหาเวนคืน ซึ่งกำลังจจะได้พื้นที่ครบแล้ว รวมถึงอยู่ระหว่างรอกรมชลประทานอนุมัติใ้พื้นที่สำหรับก่อสร้างสถานีรถไฟ

@2 สัญญาติดสถานีอยุธยา - ไฮสปีด 3 สนามบิน
ขณะนี้ยังเหลืองานโยธาอีก 2 สัญญา ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง จากงานโยธาทั้งหมด 14 สัญญา ได้แก่ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง13.30 กม. วงเงิน 9,913 ล้านบาท ที่มีบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง แต่ยังไม่สามารถเซ็นสัญญาจ้างได้ เพราะมีประเด็นมรดกโลกที่สถานีอยุธยา และสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่มีประเด็นที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) โดยคาดว่า จะได้ข้อยุติและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในกลางปีนี้
@4-5 รอสรุปผลปับแบบ สถานีอยุธยา
สำหรับ สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ภายหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการสงวนรักษาและการบูรณะมรดกทางวัฒนธรรม (ICCROM) และ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้ลงสำรวจพื้นที่จริงและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประเมินผลกระทบทางทรัพย์สินและวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (HIA) และขอให้รฟท.แก้ไข 2 เรื่อง คือ ปรับลดความสูงของสถานีซึ่งสรุปให้มีการปรับแบบหลังคาจากหน้าจั่ว เป็นหลังคาแบบเรียบ และขยับสถานีเพื่อไม่ให้โครงสร้างของหลังคาสถานีใหม่ ซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิมที่ประกาศเป็นโบราณสถานแล้ว พร้อมทั้งให้อนุรักษ์และคงคุณค่าของสถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้
ซึ่งรฟท.ได้ดำเนินการแก้ไขตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องความสูงของโครงสร้างสถานีจากเดิม 37.45 เมตร ปรับเหลือ 35.45 เมตร และปรับลดความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร ได้อธิบายทำความเข้าใจแล้วว่า ไม่สามารถลดไปกว่านี้ได้แล้ว
โดยขณะนี้รฟท.ได้ส่งรายละเอียดไปที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว เพื่อรายงานต่อคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลก (World heritage Centre) ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ในฐานะผู้รับจ้าง มีระยะเวลายืนราคาถึงสิ้นเดือนมี.ค.2568 ขณะนี้ รฟท.รอหนังสือจากผู้เชี่ยวชาญฯมรดกโลก รายงานผลการลงพื้นที่ จ.อยุธยา อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะส่งหนังสือเป็นทางการ ภายในเดือนมี.ค.และจะลงนามสัญญาก่อสร้างได้ไม่เกินเดือนเม.ย. 2568
“จากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญฯที่ลงพื้นที่ ไม่ได้กังวลประเด็นของรถไฟความเร็วสูงแล้ว เนื่องจากมีการปรับแก้ไขตามความเห็นไปหมดแล้ว โดยขอให้ทางจังหวัด เตรียมแผนรองรับกรณีมีรถไฟความเร็วสูง ที่ความว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่อยุธยามากขึ้น ทั้งด้านการบริหารจัดการจราจร และจัดการผังเมือง ขณะที่ ทางกรมศิลป์เอง มีความกังวล เรื่องเกาะเมืองอยุธยา ให้ความเห็นว่า ในระหว่างการก่อสร้าง จะต้องเฝ้าระวัง เรื่องแรงสั่นสะเทือน และมีแผนบูรณะไว้รองรับ รวมถึงให้มีการขุดค้นโบราณวัตถุในทุกฐานรากตอม่อ ด้วย
@สัญญา 4-1 ทับซ้อน ไฮสปีด คาดจบในเม.ย.นี้
ส่วนสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. เป็นช่วงที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ โดยจะเสนอบอร์ดรฟท.ในวันที่ 27 มี.ค. 2568 คาดว่าจะแก้ไขสัญญาและลงนามและเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2568 และทางเอกชนจะเริ่มก่อสร้าง ช่วงโครงสร้างร่วมเป็นลำดับแรก และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเสาตอม่อ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะทำให้โครงกากรรถไฟไทย-จีน เริ่มวางรางและระบบได้ ประมาณ ปี 2570

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา