
‘สุริยะ’ เผยวงประชุมรถไฟไทยจีนสรุป ‘ไฮสปีดไทยจีนช่วงที่ 2 โคราช-หนองคาย’ จีนไม่ต้องตรวจแบบแล้ว ไทยทำเองทั้งหมด ดันก่อสร้างภายในปีนี้ ปิดทางประมูลอินเตอร์ ลงทุนเองหมด ส่วนเฟส 1 กทม.-โคราช ลากเสร็จปี 72 ‘วีริศ’ เผยใช้เหล้ก ‘ทาทาสตีล’ ไม่มีเหล็กจีน ส่วนงานสัญญา 3-1 ที่มี ‘ไชน่าเรลเวย์ 10’ ร่วมด้วยนั้น จะให้สถาบันเหล็กกล้าเข้าไปสแกน 2 วันรู้เรื่อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 2 เมษายน 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 32(Joint Committee หรือ JC) ทั้งสองฝ่ายได้หารือ เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 (เฟส 2) ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) โดยขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างการจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือน จากนั้นจะเริ่มกระบวนการประกวดราคา และก่อสร้างภายในปี 2568 นี้
“เส้นทางนี้มีความสำคัญ เนื่องจากจะรองรับการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อระหว่างไทย จากจังหวัดหนองคาย -สปป.ลาว -จีน ส่วน การขนส่งสินค้าหนัก จะใช้ระบบรถไฟทางคู่ไปยังหนองคายได้ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อภูมิภาค” นายสุริยะกล่าว
@จีนไม่ต้องตรวจแบบ ใช้วัสดุ-วิศวกรไทยทั้งโครงการ
นายสุริยะกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ประเด็นที่ทางจีนต้องการเข้ามาตรวจสอบแบบก่อสร้างโครงการในระยะที่ 2เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกับโครงการในระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา โดยจีนเสนอค่าใช้จ่ายในการตรวจแบบ ที่วงเงิน 300 ล้านบาทและล่าสุดเจรจาต่รองยู่ที่ 250 ล้านบาท นั้น จากการพูดคุยเรื่องนี้และไทยยืนยันกับจีนว่า ประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญ และมีความเชื่อมั่นในการออกแบบมีมาตรฐานดังนั้น โครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ฝ่ายไทย มีการออกแบบเองเสร็จแล้วนั้น จะดำเนินการตรวจแบบและควบคุมงานการก่อสร้างเอง ส่วนวัสดุก่อสร้างจะใช้ภายในประเทศเกือบ 100% โดยจะมีการตรวจสอบทั้งระบบอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นในความสามารถของวิศวกรของไทย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล และฝ่ายจีนยอมรับได้ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กำกับติดตามอย่างเข้มงวดให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่จีนยอมตกลงง่าย เป็นเพราะกรณี บริษัทจีนก่อสร้างตึกของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้วเกิดถล่ม จนทำให้กระทบต่อเครดิตของจีนในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า เรื่องที่เกิดกับตึกสตง.ไม่น่าเกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีจีนขอเข้ามาตรวจแบบของโครงการระยะที่ 2 เรื่องนี้ได้บอกทางรฟท.ไปเจรจาแล้วว่าการออกแบบของไทยมีมาตรฐานอยู่แล้ว และไทยมีความสามารถเพียงพอ รวมถึงมีประเด็นที่รฟท.ยังหางบประมาณเพิ่มเติมที่จะนำมาจ่ายค่าตรวจแบบให้จีนไม่ได้ สุดท้ายจึงตกลงกันว่าไม่จำเป็นที่ทางจีนจะเข้ามาตรวจแบบ
ส่วนการประกวดราคาก่อสร้างงานโยธารถไฟไทย-จีน เฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย นั้น นายสุริยะกล่าวว่า จะประกวดราคา ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 จะใช้ผู้รับเหมาสัญชาติไทย รูปแบบเดียวกับ การโครงการในระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ไม่ใช้การประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Bidding) โดยย
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กม. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ขณะนี้ มีความล่าช้ามาก ซึ่งได้เร่งรัดรฟท.การเปิดเดินรถล้า จะยิ่งทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และมีเหตุอาคารถล่ม ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ต้องทบทวนกระบวนการควบคุมคุณภาพการก่อสร้างทั้งระบบ โดยเฉพาะงานโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ รฟท. ตรวจสอบคุณภาพของวัสดุและการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรับแรงสั่นสะเทือนและต้านทานแผ่นดินไหว โดยจะนำบทเรียนต่างๆ มาปรับใช้ในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มเติม
@ไฮสปีดไทยจีน ใช้เหล็ก ‘ทาทา’ - สัญญา 3-1 ให้สถาบันเหล็กกล้าฯ เข้ามาตรวจ
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงมีการทดสอบวัสดุก่อสร้างทุกขั้นตอนและมีการตรวจรับรองคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งผลิต จนถึงการติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ เช่น การตรวจโรงงานเพื่ออนุมัติและรับรองการผลิต อีกทั้งก่อนที่จะนำเหล็กจากโรงงานมาใช้ ต้องมีการทดสอบคุณภาพของเหล็กตามข้อกำหนด โดยจะมีการทดสอบที่เพิ่มจากมาตรฐานของไทยคือต้องมีการทดสอบความล้าของเหล็กแต่ละขนาด ขณะเดียวกัน เมื่อนำเหล็กมาถึงโครงการก่อสร้าง จะต้องมีการเก็บ Tag ของเหล็กไว้ตรวจสอบ และจะต้องมีการสุ่มตัวอย่างโดยผู้ควบคุมงานและทำการทดสอบตามข้อกำหนด ขณะที่ ก่อนทำการเทคอนกรีต ผู้ควบคุมงานจะทำการสุ่มตรวจจำนวน และขนาดเหล็ก เมื่อผ่านมาตรฐานแล้ว จึงจะทำการเทคอนกรีต
ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กม. นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างมีความล่าช้า ซึ่งจากการเช็คแผนก่อสร้างที่เหลือ คาดว่า จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572
นายวีริศยืนยันว่า รฟท. ดำเนินการบนมาตรฐานที่สูง ขณะที่โครงสร้างเหล็กต่างๆ มีมาตรฐานตามระดับสากล และได้รับรายงานว่า โครงการไทย-จีน เฟส 1 ใช้เหล็กของ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อีกทั้ง การดำเนินการก่อสร้างโครงการ ได้ทำการออกแบบ เพื่อรองรับแผ่นดินไหวอยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบ สัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. วงเงิน 9,348 ล้านบาท โดยมีผู้รับจ้างเป็น บจ. กิจการร่วมค้า ITD - CREC No.10 ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมมือกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย รวมถึงวิศวกรทีมีความเชี่ยวชาญดำเนินการตรวจสอบแล้ว คาดว่า จะทราบผลภายใน 2 วัน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา