
เผยความคืบหน้าคดีชี้มูล บิ๊ก ปตท.สผ.-พวก เอื้อโรลส์-รอยซ์ฯ ซื้ออุปกรณ์ PTT Arthit -ริบสินบน 10 ล. ล่าสุด ป.ป.ช.ลงมติยื่นฟ้องคดีเอง หลังอสส.ตั้งข้อไม่สมบูรณ์สำนวน เหลือชื่อผู้ถูกกล่าวหา 'เผ่าเผด็จ วรบุตร' เพียงรายเดียว เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนได้รับผลประโยชน์ นัดส่งตัวฟ้อง 7 พ.ค.68 ไม่มาศาลฯ ขอออกหมายจับทันที
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ อดีตกรรมการบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ. ) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ กับพวก ในคดีสินบนการเอื้ออำนวยให้บริษัท โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม ได้เป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในการจัดซื้ออุปกรณ์ Feed Gas Turbine Compressor สำหรับแท่นผลิตกลางโครงการอาทิตย์ (Project PTT Arthit) ซึ่งมีการจ่ายเงินให้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนกว่า 300,543 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,000,000 บาท) ให้กับเจ้าหน้าที่บางราย ว่า หลังจากที่อัยการสูงสุด (อสส.) ตั้งข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้และมีการตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่ายขึ้นมาพิจารณาสำนวนแต่ไม่มีข้อยุติ
โดย อสส. มีความเห็นในสองประเด็นหลักคือ
1. พยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นทางเงินที่จะเชื่อมโยงถึงผู้บริหารระดับสูง และกรรมการ ของ ปตท.สผ. ที่ถูกกล่าวหา ไม่ชัดเจน
2. อสส. เห็นว่า ปตท.สผ. ไม่ใช่ รัฐวิสาหกิจ ป.ป.ช. จึงไม่มีอำนาจไต่สวนเพราะ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดพนักงานองค์การของรัฐ พ.ศ.2502
แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องทางผู้ถูกกล่าวหาหลายรายได้ร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาเข้ามาที่ ป.ป.ช. ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงพิจารณาพร้อมกับกรณีที่ทาง ป.ป.ช. จะฟ้องคดีนี้เองหรือไม่ ในที่สุดซึ่งมีความเห็นว่าควรสั่งฟ้อง นายเผ่าเผด็จ วรบุตร เพียงรายเดียว เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนได้รับผลประโยชน์ ตอบแทนจากบริษัท โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม ซึ่งจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัท แควนตั้มเม็ค (ประเทศไทย) จำกัด ในประเทศสิงคโปร์ และโอนต่อไปยังบุคคลใกล้ชิดนายเผ่าเผด็จ วรบุตร จำนวนรวม 300,543 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,000,000 บาท) อันเป็นการรับทรัพย์สินที่มิควรได้โดยชอบ ด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ผ่านมา ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งให้นายเผ่าเผด็จ ไปรายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล แต่นายเผ่าเผด็จไม่ยอมไปศาลฯ ทาง เจ้าหน้าที่สำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช. จึงยื่นคำร้องต่อศาลฯ ให้ออกหมายจับ แต่ศาลฯ ให้ออกหมายเรียกและนำหมายไปปิดที่ภูมิลำเนาของนายเผ่าเผด็จให้ไปรายงานศาลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฯ ต่อไป
“ ถ้าในวันที่ 7 พฤษภาคม นี้ นายเผ่าเผด็จไม่ไปศาลอีก ทาง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง” แหล่งข่าวกล่าว
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 2 กลุ่ม คือ
1. นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ นายอนุชา สิหนาทกถากุล และนายมารุต มฤคทัต มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และการกระทำของนายมารุต มฤคทัต มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. นายเผ่าเผด็จ วรบุตร มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6 มาตรา 8 และมาตรา 11 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 5 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 60 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
โดยในส่วน นายเผ่าเผด็จ วรบุตร ถูกระบุว่า ได้รับผลประโยชน์ ตอบแทนจากบริษัท โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม ซึ่งจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่นเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัท แควนตั้มเม็ค (ประเทศไทย) จำกัด ในประเทศสิงคโปร์ และโอนต่อไปยังบุคคลใกล้ชิดของนายเผ่าเผด็จ วรบุตร จำนวนรวม 300,543 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,000,000 บาท) อันเป็นการรับทรัพย์สินที่มิควรได้โดยชอบ ด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุดผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา