
'ก้องเกียรติ' แคนดิเดต สส.พรรคกล้าธรรมชนะเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 8 หลังนับคะแนนได้ 3.5 หมื่นคะแนน เผยเจ้าตัวชนะพ่อตา 'ชินวรณ์ บุณยเกียรติ' ได้แค่ 3,774 คะแนน ขณะ 'ธรรมนัส-นฤมล' แถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานผลเลือกตั้งซ่อม จ.นครศรีธรรมราช เขต 8 อย่างเป็นทางการ ซึ่งปรากฏว่า นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรมได้รับชัยชนะ มีคะแนนนำเข้ามาเป็นอันดับ 1
โดยช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีการสรุปการนับคะแนนการเลือกตั้งซึ่งนับไปได้ 80% แล้ว ปรากฏว่า หมายเลข 5 นายก้องเกียรติ มีคะแนนนำคู่แข่ง 35,017 คะแนน หมายเลข 1 นายไสว เลื่องสีนิล ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นสามีของ นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล อดีต สส.ที่ถูกศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ได้ 26,058 คะแนน หมายเลข 3 นายณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง จากพรรคประชาชน ได้ 6,084 คะแนน หมายเลข 2 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อตาของนายก้องเกียรติ ได้ 3,774 คะแนน หมายเลข4 ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง พรรคพร้อม ได้ 291 คะแนน และหมายเลข 6 นายพิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่ ได้ 171 คะแนน
ทำให้ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ให้ความไว้วางใจ นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ พร้อมทั้งประกาศคว้าชัยชนะเลือกตั้งในครั้งนี้
ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กหลังทราบผลคะแนนโดยระบุว่า
"พวกเรา ครอบครัว#พรรคกล้าธรรม ขอกราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องอำเภอฉวาง พิปูน นาบอน และช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากหัวใจ ที่ให้ความไว้วางใจ บิ๊กโอ ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ และให้โอกาสพรรค#กล้าธรรม ได้เข้ามารับใช้พี่น้องเขต 8 พวกเราถือคติเหมือนกันว่า “ช่วยใครไม่เคยจำ แต่ใครช่วยเรา จำไม่มีวันลืม” พวกเรา ครอบครัว#กล้าธรรม จะเข้าไปช่วยบิ๊กโอพัฒนา แก้ปัญหา ให้ชาวนครศรีธรรมราช เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน จากนี้ไป เราจะสร้างความทรงจำบทใหม่ไปด้วยกัน"
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวนั้นเป็นการเลือกตั้งแทน นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และสั่งชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยอีก 8,483,846.05 บาท เนื่องจากกระทำการทุจริตซื้อเสียง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา