วุฒิสภา เปิดบัญชีทรัพย์สิน ‘ประภาศ คงเอียด’ เข้ารับตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. 322 ล้าน

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ‘ประภาศ คงเอียด’ กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมคู่สมรส กรณีเข้ารับตำแหน่ง มีทรัพย์สิน 322 ล้านบาท แจ้งมีรายได้จากเงินทำบุญช่วยงานศพมารดา 1.8 ล้านบาท - คู่สมรส มีรายได้จากค่าเช่าห้องชุดปีละ 3.3 ล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายประภาศ คงเอียด กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พร้อมคู่สมรส กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 322,638,746.87 บาท สำหรับข้อมูลรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายประภาศและนางสาว ณัชชา หริณกุล คู่สมรส มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

@ แจ้งมีรายได้จากเงินทำบุญงานศพมารดา 1.8 ล้าน

นายประภาศมีทรัพย์สินรวม 20,082,451.29 บาท ประกอบด้วย เงินสด (เฉพาะเงินสดตั้งแต่สามแสนบาทขึ้นไป) 150,000 บาท เงินฝาก 3,195,391.16 บาท เงินลงทุน 10,928,009.02 บาท ยานพาหนะ 2,300,0000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,359,051.11 บาท และ ทรัพย์สินอื่น 2,150,000 บาท

คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 302,556,295.58 บาท ประกอบด้วย เงินสด 200,000 บาท เงินฝาก 7,346,372.19 บาท เงินลงทุน 67,122,776.50 บาท ที่ดิน 79,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 126,800,000 บาท ยานพาหนะ 3,920,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 16,917,146.89 บาท และ ทรัพย์สินอื่น 850,000 บาท มีหนี้สิน รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ (เช่าซื้อรถยนต์) 1,187,115 บาท

ผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 8,275,120 บาท ประกอบด้วย รายได้ประจำ ได้แก่ 1.เงินเดือน 645,120 บาท 2.เบี้ยประชุม โบนัส (บริษัท) 3,700,000 บาท 3.เบี้ยประชุมราชการ 30,000 บาท ผู้ยื่นฯ แจ้งไว้ในหมายเหตุ ว่า เป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (7)

รายได้จากการรับให้ ได้แก่ 1.เงินทำบุญช่วยงานศพมารดา 1,800,000 บาท ผู้ยื่นฯแจ้งไว้ในหมายเหตุ ว่า เป็นรายได้ที่ได้รับจากการให้เงินทำบุญช่วยงานพระราชทานเพลิงศพมารดา ซึ่งได้รับมาในช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 และเป็นเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (28)

รายได้อื่น ๆ ได้แก่ 1.ค่าสอนและค่าวิทยากร 500,000 บาท 2.ค่าที่ปรึกษา 1,600,000 บาท ผู้ยื่นฯ แจ้งไว้ในหมายเหตุ ว่า เป็นรายได้ที่เกิดจากการสอนและการเป็นวิทยากร รวมทั้งจากการเป็นที่ปรึกษางานวิจัย และที่ปรึกษากฎหมายภาษีอากรระหว่างประเทศ ซึ่งจะรวมยอดเงินได้ทั้งในส่วนที่ต้องเสียภาษีและส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (7) และ (11)

ขณะที่รายจ่ายต่อปีรวม 2,519,549.60 บาท ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ ได้แก่ 1.ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 400,000 บาท 2.ค่าน้ำมันและบำรุงรักษารถยนต์ 150,000 บาท 3.ค่ารักษาพยาบาล 30,000 บาท 4.ค่าเบี้ยประกันชีวิต 34,585 บาท 5.ค่าภาษีอากร 1,454,964.60 บาท

ผู้ยื่นฯ แจ้งไว้ในหมายเหตุ ว่า ค่าภาษีอากรที่ระบุไว้จะเป็นจำนวนที่รวมทั้งกรณีที่ต้องเสียและยื่นไว้ในแบบรายการภาษีประจำปีภาษี 2567 รวมกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (4) ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิเลือกไม่ต้องนำมารวมในแบบรายการภาษี ตามที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (7) และ (11)

รายจ่ายอื่นๆ ได้แก่ 1.ค่าใช้จ่ายตามประเพณี 100,000 บาท 2.เงินบริจาค 100,000 บาท 3.ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 200,000 บาท 4.ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ 50,000 บาท

@ คู่สมรส มีรายได้ค่าเช่าอาคารชุด 3.3 ล้าน

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่ข้อมูลของคู่สมรส แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 6,497,992 บาท ประกอบด้วย รายได้ประจำ คือ เงินเดือน 600,000 บาท รายได้จากทรัพย์สิน ได้แก่ 1.ค่าเช่าบ้าน (อาคารชุด 5 หลัง) 3,336,000 บาท 2.ขายหุ้น ขายหน่วยลงทุน 1,761,992 บาท 3.ขายทรัพย์สิน-เครื่องประดับ (อัญมณี 2 ชุด) 800,000 บาท

รายจ่ายต่อปีรวม 2,365,145.50 บาท ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ ได้แก่ 1.ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 600,000 บาท 2.ค่าน้ำมันและบำรุงรักษารถยนต์ 100,000 บาท 3.ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท 4.ค่าเบี้ยประกันชีวิต 62,031 บาท 5.ค่าภาษีอากร 761,894.50 บาท 6.ค่าผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ 491,220 บาท

รายจ่ายอื่นๆ ได้แก่ 1.ค่าใช้จ่ายตามประเพณี 50,000 บาท 2.เงินบริจาค 50,000 บาท 3.ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 100,000 บาท 4.ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ 100,000 บาท

ผู้ยื่นฯ แจ้งข้อมูลการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา (เงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8)) 6,445,120 บาท และ คู่สมรส 3,936,000 บาท

ผู้ยื่นบัญชีแจ้งไว้ในหมายเหตุ ว่า ข้อมูลการเสียภาษีเงินได้ดังกล่าว จะเป็นเงินได้เฉพาะที่กฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นแบบรายการภาษี (เงินเดือน,ค่าที่ปรึกษา และค่าเช่า) โดยไม่รวมเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น เบี้ยประชุมและค่าสอนที่ได้รับจากทางราชการ การขายหุ้นและหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ตลอดจนเงินได้ที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (7) (11) (17) และ (28) และเงินได้ที่มีสิทธิเลือกไม่ต้องนำมารวมยื่นแบบรายการภาษี คือ เงินปันผลซึ่งได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 48 (3) วรรคสอง