
กรมพัฒฯ แถลงผลติดตามคดีนอมินีอสังหาฯ ที่ภูเก็ต หลังส่งต่อให้ดีเอสไอ ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก 23 ราย แต่รอการลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับรายละ 2 แสนบาท พร้อมให้เลิกทะเบียนบริษัท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 6 พ.ค. เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ กรณี นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์แถลงผลติดตามการดำเนินคดีกับนอมินีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตที่กรมฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นและส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขยายผลพบว่า ศาลอาญาได้มีคำพิพากษา ตามคดีหมายเลขแดงที่ อ.2812/2567 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ลงโทษผู้กระทำความผิดตามบทกำหนดโทษแห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 23 ราย ซึ่งมีโทษปรับรายละ 200,000 บาท รอการลงโทษจำคุก 2 ปี โดยให้คุมความประพฤติ 1 ปี และสั่งให้จดทะเบียนเลิกบริษัท
ซึ่งคดีนี้เริ่มต้นจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ตรวจสอบและพบความผิดปกติการถือครองหุ้นของนิติบุคคลจากการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงนอมินีที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในจังหวัดภูเก็ต พบว่า มีกลุ่มสำนักงานกฎหมายและสำนักงานบัญชีที่มีพฤติกรรมรับจ้างจดทะเบียนนิติบุคคล หรือรับทำบัญชี โดยใช้ชื่อคนไทย (นอมินี) เข้าเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในหลายบริษัทเป็นผลเอื้อให้บุคคลต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายในประเทศไทย จึงได้ส่งเรื่องต่อให้ DSI ขยายผลการตรวจสอบเป็นคดีพิเศษ โดยกรมฯ สนับสนุนข้อมูลและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมลงพื้นที่เข้าตรวจค้นธุรกิจเป้าหมายร่วมกับ DSI พบว่า มีพฤติกรรมในลักษณะนอมินีจริง มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเพียงพอนำไปสู่การส่งเรื่องให้พนักงานอัยการฟ้องต่อศาล ซึ่งในที่สุดศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ลงโทษผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ได้ลงโทษตามกฎหมายกับผู้ที่ให้การสนับสนุนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยโดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย
“กรมฯ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบนอมินีและที่ผ่านมาได้ร่วมปฏิบัติการเชิงลึกกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งบางเรื่องอาจใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องต่อศาล แต่ถือเป็นพันธกิจหนึ่งของกรมฯ ที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยเพื่อแก้ไขปัญหานอมินีอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ขอเตือนคนไทยที่มีพฤติกรรมให้ความช่วยเหลือกับบุคคลต่างชาติที่เข้าข่ายนอมินีให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการทำร้ายผู้ประกอบการไทยและทำลายธุรกิจของคนไทย ซึ่งจะมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมายคือโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลต้องระวางโทษปรับรายวัน วันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน” นางนรมนกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา