DSI ขอความร่วมมือ ผบ.ตร.-ปลัด มท. อำนวยความสะดวก สอบสวนคดีฮั้ว สว. ด้านอธิบดีปค.ทำหนังสือโต้กลับ DSI ต้องแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นพนักงานสอบสวน หลังมีข่าวบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำนาจเจริญ จากอดีตผู้สมัครเลือกตั้ง ขณะ มท.ทำหนังสือถึงผู้ว่าทุกจังหวัด ให้พนักงานปกครองการเป็นผู้มีอำนาจสอบคดีฮั้ว สว. พร้อมขอหนังสือมอบอำนาจสอบสวนจาก จนท. DSI
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหนังสือด่วนที่สุด 2 ฉบับ เลขที่ ยธ 0825/1573 และ ยธ 0825/1574 ถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขอความอนุเคราะห์การประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษและการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ และในเวลาต่อมากรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีหนังสือตอบกลับขอความอนุเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานให้ชัดเจน
มีรายละเอียด ดังนี้
ด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนศดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นคดีพิเศษที่ 24/2568
กรมสอบสวนคดีพิเศษขอเรียนมายังท่านว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีภารกิจที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษข้างต้นทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามมาตรา 22 และมาตรา 22/1 กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอรับการสนับสนุน และขอให้ท่านให้ความช่วยเหลือต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในการดำเนินคดีพิเศษ ทั้งนี้ ขอให้ท่านแจ้ง พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดำเนินการตามที่ได้รับการประสานงานต่อไป
ต่อมา ในวันเดียวกันนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0307.1/25786 ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง การประสานความร่วมมือในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ระบุเนื้อหาว่า
ด้วยปรากฏเป็นข่าวว่า ได้มีการรายงานข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอตามลำดับชั้นการบังคับบัญชา โดยนายอำเภอได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญได้รายงานข้อมูลต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 มีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา จากอดีตผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา นั้น
กรมการปกครองขอเรียนว่า กรมการปกครองมีภารกิจเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย การอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน ความมั่นคงภายใน และการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาในหน้าที่พนักงานฝ่ายปกครอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นเพียงการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอภายในเขตจังหวัดตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น ซึ่งกรมการปกครองยินดีให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษในการดำเนินการตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 กำหนด
หากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือพนักงานสอบสอบสวนคดีพิเศษมีความจำเป็นต้องประสานขอความร่วมมือและขอรับการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในคดีพิเศษกับกรมการปกครองหรือพนักงานฝ่ายปกครอง ขอให้พิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1.ให้มีหนังสือและเอกสารหลักฐานยืนยันการเป็นผู้ได้รับแต่งให้มีอำนาจและหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และเป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบในคดีพิเศษที่จะขอให้กรมการปกครองและพนักงานฝ่ายปกครองให้ความร่วมมือและสนับสนุนในคดีนั้น เพื่อสั่งการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง สำหรับในกรุงเทพมหานครให้แจ้ง อธิบดีกรมการปกครอง สำหรับในเขตจังหวัดให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาสั่งการดังกล่าวต่อไป
2.การปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมการปกครองได้มีหนังสือ ลับ ด่วนที่สุด
ที่ มท 0307.3/ว 12837 ลงวันที่ 12 เมษายน 2568 กำชับให้พนักงานฝ่ายปกครองให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิของบุคคลในคดีอาญา และเสรีภาพในเคหสถานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยให้พนักงานฝ่ายปกครองถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมถึงขอบเขตความรับผิดชอบของพนักงานฝ่ายปกครองตามกฎหมายด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากที่มีหนังสือของ DSI ไม่นาน ทางด้านของกระทรวงมหาดไทยก็ได้ทำหนังสือกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด ระบุว่าจากกรณีที่มีผู้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ DSI ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ให้พนักงานฝ่ายปกครองขอหลักฐานการประสานงานเป็นหนังสือจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเอกสารที่ยืนยันการเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มีอำนาจและหน้าที่สืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษตามมาตรา 3 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ที่จะขอให้
พนักงานฝ่ายปกครองให้ความร่วมมือและสนับสนุนการสอบสวนคดีพิเศษนั้น เพื่อให้พนักงานฝ่ายปกครอง
ใช้เป็นพยานหลักฐานในการอ้างอิงฐานอำนาจตามกฎหมายและเหตุผลความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติงานร่วนร่วมกันระหว่างพนักงานฝ่ายปกครองและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ