
ครม.อนุมัติแก้ไขพ.ร.บ.รฟม.แล้ว เพื่อเปิดทางเอาเงินสะสมมาอุดหนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ดันสุดลิ่มให้มีผล ก.ย.นี้ ‘สุริยะ’ เผย 22 พ.ค.นี้ เรียกประชุมหน่วยงานสแกนอุปสรรคทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อผ่าทางตัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 พ.ค. 68 มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่..) พ.ศ. โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543ให้สอดคล้องกับสถาพการณ์ปัจจุบันและสามารถส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามนโยบายรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การแก้ไขพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ดังกล่าว ทางกระทรวงการคลัง เห็นชอบ ให้รฟม.ดำเนินการ ตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทได้แล้ว โดยหลังจากนี้จะเสนอร่าง พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่..) พ.ศ. ไปที่สภาผู้แทนราษฎร (สส.) และวุฒิสภา (ส.ว.) พิจารณา 3 วาระ ตามขั้นตอน มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จทันกับการเริ่มนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางในวันที่ 30 ก.ย. 2568 นี้
นายสุริยะกล่าวว่า การแก้ไขพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 เพื่อให้สอดคล้องกับ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ที่ขณะนี้ผ่านสภาฯ วาระ 1 แล้วอยู่ระหว่างการแก้ไข ประเด็นของกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม จากเดิมที่มีเงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้, เงินค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต, เงินที่ได้รับจากผู้ให้บริการขนส่งเมื่อมีสัญญารับประทานเงินค่าปรับ หรือเงินบริจาค โดยเพิ่มเติมให้กองทุนตั๋วร่วมสามารถกู้เงินได้ด้วย
@แก้เพื่อเอาเงินสะสม รฟม.มาใช้
นายสุริยะกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องแก้ไขพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯพ.ศ.2543 เนื่องจากเดิมจะนำเงินสะสมของรฟม.ที่มีไปใส่กองทุนตั๋วร่วมฯเพื่อใช้อุดหนุน เรื่องค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายรวมถึง รายได้ของรฟม.ก็จะไม่จัดส่งกระทรวงการคลังแต่จะนำใส่กองทุนตั๋วร่วมฯ แต่ทางกระทรวงการคลังบอกว่าทำไม่ได้ เพราะรฟม.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่จัดส่งรายได้เข้ากระทรวงการคลังเพื่อนำไปเป็นงบประมาณแผ่นดิน ส่วนกองทุนตั๋วร่วมเมื่อสามารถกู้เงินได้แล้ว กระทรวงการคลังจะจัดสรรเงินกู้ให้ แล้วยังทำให้สามารถชดเชยรถไฟฟ้าสายอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกำกับดูแลของรฟม.เช่น สายสีเขียว โดยผ่านกองทุนตั๋วร่วม
“เพื่อความยั่งยืนและไม่เป็นภาระด้านการเงินกับรฟม.และรัฐบาลไม่ต้องชดเชยทุกปี ในอนาคตจึงมีแนวทางการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าทุกสาย และศึกษาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion charge) เพื่อนำเงินเข้ากองทุนฯดังกล่าวเพื่อนำมาบริหารจัดการเรื่องค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง” นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะกล่าวต่อว่า ในวันที่ 22 พ.ค. 2568 นี้ ได้เรียกประชุมร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อหารือการทำงานของแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายเชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง และการพัฒนาแอปพลิเคชันทางรัฐ เป็นศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) โดยจะกำหนดแผนงานไทม์ไลน์ ให้ชัดเจน เพื่อให้เริ่มดำเนินได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2568

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา