เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'อดุลย์ หมีดเส็น' อดีตนายอำเภอเมืองปัตตานี รีดเงินใต้โต๊ะแลกใบอนุญาตซื้อปืนปัตตานี ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 12 ปี 36 เดือน พร้อม 'มังโซ หะยีอาแว' ปลัดฯ - จำเลยอีกราย อส.หญิง โดน 4 ปี 32 เดือน ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช. ค้านอสส.ไม่อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอดุลย์ หมีดเส็น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี กับพวก 2 ราย คือ นายมังโซ หะยีอาแว อดีตปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองปัตตานี ผู้รับผิดชอบงานอาวุธปืน น.ส.ศรัญยา บริบูรณ์สุข สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) กองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.เมืองปัตตานี ที่ 2 เรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนแบบ ป.3 จากผู้ยื่นคำขออนุญาต ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 , 157 ประกอบ มาตรา 90 และ 91 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 , 173 ประกอบ มาตรา 90, 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายอดุลย์ หมีดเส็น จำเลยที่ 1 , นายมังโซ หะยีอาแว จำเลยที่ 2 และ น.ส.ศรัญยา บริบูรณ์สุข จำเลยที่ 3 มีความผิดตามกฏหมาย
2. ลงโทษจำคุก นายอดุลย์ หมีดเส็น จำเลยที่ 1 นายมังโซ หะยีอาแว จำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี 9 เดือน รวม 4 กระทง จำคุกคนละ 12 ปี 36 เดือน
3. ลงโทษจำคุก น.ส.ศรัญยา บริบูรณ์สุข จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ ลงโทษกระทงละ 1 ปี 8 เดือน และปรับกระทงละ 50,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 4 ปี 32 เดือน และปรับ 200,000 บาท ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน ให้รอลงอาญา 2 ปี คุมความประพฤติ ทำกิจกรรมบริการสังคม ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามกฎหมาย หากต้องกักขังแทนค่าปรับไม่เกิน 1 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา