‘นภินทร’ ระงับสร้างบ้านหรูย่านสนามบินน้ำ-‘ปปง.’สอบเส้นเงิน‘บ.เหลียนเซิง’ ปมนอมินีแล้ว

politics046

‘นภินทร ศรีสรรพางค์’ รมช.พาณิชย์ เผย ระงับก่อสร้างโครงการบ้านหรูย่านถนนสนามบินน้ำแล้ว ‘ปปง.’ อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน ‘บริษัท เหลียนเซิง’ เป็นนอมินี หรือไม่ เผย ความคืบหน้าล้าง ‘นอมินี’ 4.6 หมื่นบริษัท 6 กลุ่มธุรกิจเสี่ยง ขีดเส้น 6 เดือน – 1 ปี หมดไปจากประเทศไทย

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอิศราถึงกรณีการดำเนินคดีกับบริษัท เหลียนเซิง จำกัด ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์โครงการบ้านราคาแพงย่านถนนสนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี ราคาประเมิน 1,450 ล้านบาท ว่า ปัจจุบันได้ระงับการก่อสร้างไปแล้ว และอยู่ระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท เหลียนเซิง ว่าคนไทยได้มีการลงเงินจริงหรือไม่ เป็นบริษัทนอมินีหรือไม่

นายนภินทรยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าขั้นตอนในกระบวนการของการล้างของเก่า 4.6 หมื่นบริษัท ของผู้ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย โดยมีรายชื่อของบริษัทที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นใน 6 ประเภทกลุ่มเสี่ยง จำนวน 4.6 หมื่นบริษัท ซึ่งมีข้อมูลทั้งหมดว่า บริษัทมีที่ตั้งอยู่ที่ไหน โดยให้กระทรวงมหาดไทยส่งเรื่องไปยังจังหวัดต่าง ๆ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าฯ เป็นประธานคณะทำงาน และมีพาณิชย์จังหวัดเป็นฝ่ายเลขานุการ เข้าไปตรวจสอบบริษัทเหล่านี้ว่า ไปทำธุรกรรมหรือธุรกิจอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างแต่ละจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยให้พาณิชย์จังหวัดรายงานผลให้ทราบทุก 3 เดือน

นายนภินทรกล่าวว่า เชื่อว่าจังหวัดเล็กๆซึ่งมีบริษัทอยู่จำนวนไม่มาก ภายใน 3 เดือน จะดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนจังหวัดที่มีบริษัทลงไปจดทะเบียนจำนวนมากอาจต้องใช้เวลาอีก 3 เดือน คาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ

“สิ่งที่ตรวจ คือ บริษัทนั้นทำธุรกรรมอะไร ถ้าเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องห้ามของคนต่างด้าว ก็ต้องลงไปตรวจสอบในทางลึกว่า คนไทยที่เข้าไปถือหุ้นมีการลงเงินจริงหรือไม่ หรือมีฐานะที่จะสามารถลงหุ้น ลงเงินหรือไม่ มีความเกี่ยวพันกับคนต่างด้าวอย่างไร มีความรู้จักคุ้นเคยอย่างไร และธุรกิจเหล่านั้นได้เข้าไปบริหารแค่ไหนเพียงใด ที่จะสื่อให้เห็นว่า เป็นนอมินีหรือไม่”นายนภินทรกล่าว

นายนภินทรกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาในอนาคตตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อเพิ่มฐานความผิดฐานนอมินีเข้าไปในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปปง. พ.ศ.2542 ซึ่งผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว และอยู่ระหว่างร่างกฎหมายในขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร

“ถ้ามีเรื่องของบริษัทนอมินีเป็นฐานความผิดหนึ่งในกฎหมายฟอกเงินจะทำให้สามารถริบทรัพย์สินได้ ทำให้เกิดความเกรงกลัว โดยจะพยายามเสนอ ครม. ว่า เมื่อกฎหมายเข้าสู่สภาจะขอให้ครม.มีมติให้ใช้คณะกรรมาธิการเต็มสภาในวาระสองเพื่อพิจารณาสามวาระรวด”นายนภินทรกล่าว

นายนภินทรกล่าวทิ้งท้ายว่า หากดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี คาดว่า บริษัทนอมินีจะหมดไปจากประเทศไทย

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนิติบุคคลที่มีต่างชาติถือหุ้นในสัดส่วน 0.01-49.99% ทั่วประเทศ จำนวน 46,918 ราย แบ่งออกเป็น 6 ประเภทธุรกิจกลุ่มเสี่ยง ดังต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 กลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รวม 9,354 ราย