
'รักชนก ศรีนอก' ชี้ทุจริตทำภาครัฐสูญเงิน 5 แสนล./ปี เสนอ 4 กระบวนการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณแก้คอร์รัปชัน 'ทำงบประมาณแบบ ZERO BASE+TOP DOWN budgeting-เปิดข้อมูลต่อสาธารณะ-มีแพลตฟอร์มสืบราคากลาง-ปฏิรูปสตง.-สำนักงบประมาณ'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที 28 พ.ค. 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
น.ส.รัชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่า ตนเองจะอภิปรายในหัวข้อการปฏิรูปงบประมาณเพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่นและลดการทุจริตในภาครัฐ มี 3 ส่วน ได้แก่
1.การจัดการปัญหาคอร์รัปชั่น คือ นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะข้อมูลจาก ACT AI ชี้ว่าการคอร์รัปชั่นในภาครัฐสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี และงบก้อนใหญ่ที่สุดในการทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่ที่การจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งมีการคอร์รัปชั่นมูลค่าสูงสุด 2-3 แสนบาท โดยเฉพาะในงบลงทุนที่เป็นงบก้อนใหญ่ในการจัดซื้อจัดจ้าง ที่จะเห็นตามหน้าข่าวว่าการคอร์รัปชั่นจะเกิดในงบก่อสร้างถนน ตึก อาคาร แหล่งน้ำการเกษตร หรือ ครุภัณฑ์ต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิด ฝักบัว ลู่วิ่งกทม. เป็นต้น อาจคิดได้ว่าเป็นเพราะ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังหรือไม่ ที่กำหนดสัดส่วนรายจ่ายลงทุนไม่ต่ำกว่า 20% ของงบประมาณแผ่นดินประจำปีเลยมีงบส่วนนี้รวมกันถึง 5-7 แสนล้านบาทในแต่ละปี แม้ว่าจะมีรายจ่ายลงทุนมากมาหลายปี แต่ทำไมโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่หวัง คำตอบ คือ เพราะการคอร์รัปชั่นในภาครัฐที่เกิดขึ้น
"เสือตัวที่ 5 ที่ประเทศไทยอยากเป็นเราเป็นไม่ได้ แต่คอร์รัปชันติด 1 ใน 5 ของเอเชียเราใกล้จะเป็นได้ เพราะตอนนี้เราอยู่ในอันดับที่ 6 แล้ว ดัชนีคอร์รัปชั่นไม่ได้สะท้อนแค่ปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างเดียว แต่สะท้อนโอกาสทางเศรษฐกิจด้วย ถ้าวันนี้เราเสกให้คอร์รัปชันหายจากประเทศไทยได้ เราจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทันที 5 แสนล้านบาท คือ 3% ของ GDP ประเทศ ที่รัฐบาลจะเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจท่าไหนก็ได้กระแทกๆ ทุกปีได้เลย 5 แสนล้านบาท ข้อมูลดัชนีคอร์รัปชันของประเทศไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมาไม่เคยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เราถูกเพื่อนบ้านแซงหน้าไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็แล้วแต่ ประเทศไทยไม่เคยมีเลยก็คือรัฐบาลที่มีเจตจำนงในการจัดการปัญหาทุจริตและคอร์รัปชัน" น.ส.รัชนก กล่าว
2.การหาส่วนต่างจากงบประมาณ จากเสาไฟกินรีสู่ตึก สตง.ถล่ม ในการหาส่วนต่างจากงบประมาณ แบ่งวิธีการหาได้เป็น 5 กลุ่มใหญ่ คือ 1.การเพิ่มรายการและโครงการที่ไม่จำเป็น 2.ของแพงเกินราคาในตลาด 3.การล็อกสเปค 4.ฮั้วประมูล 5.แก้ไขสัญญา จากเสาไฟกินรีสู่ตึกสตง.ถล่ม ถ้านำกรณีงบประมาณแปลก ๆ ที่เห็นตามหน้าข่าวมาเรียง จะเห็นว่าทุกโครงการที่ส่อเค้าลางทุจริตจะเข้าองค์ประกอบใน 5 ข้อนี้ เช่น เสาไฟกินรี ปฏิทินประกันสังคม และตึก สตง.ที่เข้าทุกข้อใน 5 ข้อ ทั้งหมดนี้เราสามารถปรับปรุงให้ทุจริตได้ยากขึ้นและป้องกันก่อนที่จะเกิดขึ้นได้
3.ข้อเสนอในการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณ เพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดอัตราคอร์รัปชันในภาครัฐ ตนเองมีข้อเสนอในการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาและลดการคอร์รัปชั่นในภาครัฐ แบ่งตามขั้นตอนงบประมาณ 4 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่ 1 กระบวนการเตรียมคำของบประมาณ ตนเองขอเสนอว่าให้จัดทำงบประมาณแบบ ZERO BASE+TOP DOWN budgeting โดยนำอำนาจในการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ กลับมาให้กระทรวงหรือหน่วยงานที่ต้องเป็นผู้รับผิดรับชอบจัดสรรงบเองเพื่อให้เกิดการรับผิดรับชอบชัดเจน หากมีการทุจริตคนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐมนตรี ส่วนสำนักงบประมาณทำหน้าที่เป็นผู้วัดผลโครงการต่าง ๆ ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
ขั้นที่ 2 กระบวนการพิจารณางบประมาณ สำนักงบประมาณต้องเปิดเผยข้อมูลทำของบประมาณทุกโครงการต่อสาธารณะ เช่น กรณีที่ สส.พริษฐ์ วัชรสินธุ เปิดเผยคำของบประมาณของรัฐสภาล เป็นต้น และยังต้องมีการเปิดถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ดูในทุกขั้นตอนในทุกระดับทั้งในสภาและท้องถิ่น โดยเฉพาะในสภาซึ่งที่ผ่านมาในชั้นอนุกรรมาธิการฯ บางครั้งมีผู้รับเหมาเข้าไปนั่งฟังได้ ถึงขั้นเคยมี สส.รีดไถเงินอธิบดีในกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งเคสนี้ถูกสั่งติดคุกไปแล้ว
ขั้นที่ 3 กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เสนอให้มีแพลตฟอร์มคล้าย Shopee Lazada เพื่อสืบราคาวัสดุที่ภาครัฐจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อแก้ปัญหารัฐซื้อของแพงกว่าราคาตลาด เปิดเผยข้อมูลของโครงการ หน่วยงานเอกชนและข้าราชการที่มีความน่าสงสัยว่าจะทุจริต เปิดเผยรายละเอียดสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ
ขั้นที่ 4 การสอบทาน ปฏิรูปสตง.และสำนักงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณต้องมีการวัดผลโครงการ หากโครงการใดทำมาหลายปีแล้วไม่มีผลสัมฤทธิ์ สำนักงบประมาณต้องไม่ปล่อยให้เกิดโครงการซ้ำซาก ส่วนสตง.ต้องเป็นเสาหลักในการทำงบประมาณให้ถูกต้อง คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น
“วันนี้คนที่ดิฉันอยากสื่อสารมากที่สุดคือประชาชนที่อยู่ทางบ้าน ดิฉันกล้าพูดว่าถ้าพวกเราพรรคประชาชนมีอำนาจ พวกเราทำได้ พวกเราจะสร้างระบบงบประมาณที่ทำให้ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของท่าน ถูกใช้อย่างคุ้มค่า ถูกใช้เพื่อพัฒนาทุกชีวิตในประเทศนี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง และก่อนที่เราจะลดคอร์รัปชันได้เราจะต้องมีรัฐบาลที่มันจริงจังก่อน ดังนั้นตนจึงไม่สามารถโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ นอกจากพวกเราจะล้างบางพวกทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดประเทศก่อน”น.ส.รัชนก กล่าว
ทั้งนี้ภายหลังน.ส.รักชนก กล่าวอภิปรายเสร็จสิ้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับการขออนุมัติงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรที่นายพริษฐ์ วัชระสินธุ เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ว่า การที่นายพริษฐ์ยกประเด็นงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะมีการโกง แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรเลย ซึ่งจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จะจัดตั้งขึ้นมา ขอเรียนว่าสภาได้งบ 8,000 พันล้าน ซึ่งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรเราเพิ่งตรวจรับงานช่วงกลางปี 2567 เราใช้ฟรีมา 5 ปี โดยไม่มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แต่ก๊อกน้ำในห้องน้ำก็ยังซ่อมไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับการส่งมอบ
แต่เมื่อได้รับการส่งมอบแล้วต้องจัดการหลายสิ่งหลายอย่าง น้ำรั่วเพราะเราไม่ได้รับงบประมาณซ่อมแซมเพราะยังอยู่ในสัญญา ดังนั้นเมื่อรับมอบแล้วก็จำเป็นต้องตั้งงบประมาณดำเนินการในส่วนที่ยังขาดอยู่ เช่น ที่จอดรถ เพราะที่จอดรถไม่พอ และสถานที่ใกล้เคียงก็ยังไม่พอ พื้นที่ใช้สอยของสภาฯมี 4 แสนตารางเมตร ถ้าจะให้สมดุลกับที่จอดรถจะต้องมีที่จอดรถถึง 7,000 คัน แต่ตอนนี้มีเพียง 3,000 คัน ผิดกฎหมาย ซึ่งสาเหตุที่ไม่ก่อสร้างมาตั้งแต่แรกเพราะงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรที่ใช้ก่อสร้าง 20,000 กว่าล้าน ถูกตัดเหลือ 12,000 ล้าน เพื่อให้เกิดโครงของอาคารก่อน แล้วค่อยหาทางแต่งเติมให้สมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อรับมอบงานแล้วก็ต้องหาทางทำให้สมบูรณ์ให้สมศักดิ์ศรีฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา