
นักวิเคราะห์-ฝ่ายค้านกัมพูชา เชื่อเวียดนามมาแน่หากกัมพูชาขัดแย้ง พิพาทชายแดนไทย ชี้เป็นการได้ประโยชน์เพราะเวียดนามได้หน้าในฐานะผู้แก้ปัญหาอาเซียน แต่ยอมรับกัมพูชาอาจเสียดินแดนให้เวียดนามเพิ่มอีก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทยกัมพูชาอ้างอิงข่าวจากสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียหรือ RFA ของสหรัฐอเมริกาว่าย้อนไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เพจเฟซบุ๊กกองทัพกัมพูชา โพสต์ว่า ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 70 นายพลเฮม ทา เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 301 ของเวียดนาม ที่กรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 18 ถึง 20 มิถุนายน
โดยนายนายคิม ซก (Kim Sok) นักวิเคราะห์การเมืองที่กำลังลี้ภัยหลังจากถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาท กล่าวถึงข่าวการจับมือเป็นพันธมิตรกันระหว่างผู้นำทหารกัมพูชาและเวียดนามว่าเป็นยุทธศาสตร์เพื่อยั่วยุฝ่ายไทย และเปิดทางให้เวียดนามสามารถทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างกัมพูชากับไทยได้ หากไทยต้องการแก้ไขปัญหาโดยสันติ
“รัฐบาลตระกูลฮุนแสดงให้เห็นว่ามีพันธมิตรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อส่งสัญญาณให้ฝ่ายไทยไม่หยิ่งผยองเกินไป แต่แน่นอนว่านี่เป็นประโยชน์ต่อเวียดนามเพราะประการแรก เวียดนามได้เปรียบในอาเซียนในฐานะผู้แก้ปัญหาในภูมิภาคอาเซียน ประการที่สอง เวียดนามได้รับประโยชน์จากการแทรกแซงเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่ากัมพูชาที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบตระกูลฮุนอยู่ภายใต้อิทธิพลของการตัดสินใจของเวียดนาม” นายคิม ซก กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายอัม ซัม อัน อดีตสมาชิกรัฐสภาพรรคซีเอ็นอาร์พีซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเชื่อว่ากลยุทธ์การขัดแย้งกับประเทศในฝั่งตะวันตกและการวิ่งไปหามิตรฝ่ายตะวันออก ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ดีสำหรับกัมพูชา ตรงกันข้าม เขาเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้กัมพูชาเสี่ยงต่อการเสียดินแดนให้เวียดนามมากขึ้นในอนาคต
นายอัม ซัม อัน กล่าวต่อไปว่าเขาเชื่อว่าเมื่อเกิดสงครามใหญ่เวียดนามจะเข้ามาช่วยเหลือแน่นอน ไม่ว่าจะลับหรือเปิดเผย เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยได้อย่างไร แต่เมื่อเราอาศัยความช่วยเหลือจากเวียดนาม เช่นในปี ค.ศ. 1979 เมื่อเวียดนามช่วยปลดปล่อยกัมพูชา นายฮุน เซนได้ลงนามในสนธิสัญญาพื้นที่น้ำทางประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1982 โดยมอบเกาะตรัลและเกาะครกเซสให้กับเวียดนาม และมอบพื้นที่ทางทะเล 30,000 ตารางกิโลเมตรให้กับเวียดนาม และในปี ค.ศ. 1983 และ ค.ศ. 1985 เขาได้ลงนามในสนธิสัญญาเกี่ยวกับพรมแดนทางบกของเรากับเวียดนาม

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา