‘ธปท.’ เผยเศรษฐกิจไทย พ.ค.68 ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน จาก ‘ภาคผลิต-ภาคบริการ-การลงทุน’ ชะลอตัว พร้อมระบุ ‘บาทแข็ง’ จากปัจจัย ‘ดอลลาร์’ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 13 ปี -เคลื่อนไหวสอดคล้อง 'ปัจจัยพื้นฐาน'
......................................
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นางปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน พ.ค.2568 ว่า เศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค.2568 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่บางส่วนเร่งผลิตไปแล้วในเดือนก่อน ประกอบมีการปิดโรงกลั่นชั่วคราว และภาคบริการที่ชะลอลง โดยรายรับการท่องเที่ยวลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะไกล (long-haul) ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงเช่นกัน
สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายของรัฐบาลกลางทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน จากผลของฐานสูงในปีก่อน แต่ยังขยายตัวเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว และการส่งออกสินค้าเร่งตัวขึ้น
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน จากหมวดอาหารสด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบใกล้เคียงกับเดือนก่อน อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคาอาหารสำเร็จรูป ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลลดลงตามดุลการค้าที่กลับมาเกินดุล ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุล จากการส่งกลับกำไรของธุรกิจต่างชาติตามฤดูกาล ด้านตลาดแรงงานโดยรวมปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการจ้างงานในภาคการผลิต

นางปราณี กล่าวว่า แนวโน้มในระยะต่อไป กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมชะลอลง ตามแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอลง อย่างไรก็ดี การผลิตในภาคยานยนต์มีสัญญาณปรับดีขึ้นบ้าง โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.นโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก 2.พัฒนาการของภาคการท่องเที่ยว 3.การปรับตัวของภาคธุรกิจที่ต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และ 4.ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์และปัจจัยภายในประเทศ
นางปราณี ระบุด้วยว่า กรณีที่ ธปท.ได้เผยแพร่ประมาณเศรษฐกิจไทยปี 2568 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตั้งสมมติฐานว่า ไทยจะถูกสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ 18% นั้น ไม่ได้เป็นการประเมินว่า ไทยจะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตรา 18% แต่เนื่องจากในการจัดทำประมาณการฯในครั้งนั้น ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราภาษีที่ไทยจะได้รับ ธปท.จึงใช้อัตราภาษีแบบกลางๆ ซึ่งสอดคล้องกับหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆที่ใช้ในเบื้องต้น ทั้งนี้ ทราบว่าทีมไทยแลนด์กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ไทยได้อัตราภาษีที่ดีที่สุดและต่ำที่สุด
“จึงขอเรียนว่า อัตราที่ 18% นั้น ไม่ได้เป็นการประเมินว่า เป็นอัตราที่ไทยจะได้” นางปราณี กล่าว
นางปราณี กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แสดงความเป็นห่วงว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าผิดปกติ ว่า เรื่องเงินบาท หากไปดูดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเห็นว่าดัชนีฯลดลงมาต่ำสุดในรอบ 13 ปี เนื่องจากคนเริ่มขายเงินดอลลาร์แล้วไปถือสินทรัพย์อย่างอื่นแทน ขณะเดียวกัน การแข็งค่าของค่าเงินบาทดังกล่าว ก็ไม่ใช่เฉพาะค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่า แต่ค่าเงินเกือบทุกสกุลในภูมิภาคมีการแข็งค่าเช่นเดียวกัน
“ถ้าเทียบกับในภูมิภาคเอง การแข็งค่าของเงินบาท หลักๆมาจากปัจจัย global เป็นเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนเป็นสำคัญ” นางปราณี กล่าวและว่า สำหรับปัจจัยภายในประเทศที่ ธปท. ติดตามนั้น มีหลายเรื่อง โดยปัจจัยการเมืองในประเทศก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งต้องจับตาพัฒนาการ
เมื่อถามว่า ธปท. ได้เข้าไปดูแลค่าเงินบาทหรือไม่ นางปราณี กล่าวว่า “จริงๆอย่างที่เรียนไปโดยตลอด การดูแลค่าเงินบาท จะทำเมื่อค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน โดยเราจะดูพวก Bid-Ask Spread (ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย) ที่ผิดปกติ แล้วทำให้ตลาดไม่ function ดังนั้น การดูแลค่าเงินบาทที่ผ่านมา ก็เป็นการดูแลตามปกติ และตอนนี้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทก็ยังสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานและค่าเงินในภูมิภาค”


สำหรับรายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน พ.ค.2568 มีดังนี้
การบริโภคภาคเอกชน เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในหมวดบริการปรับลดลงจากหมวดโรงแรมและภัตตาคารเป็นสำคัญ สอดคล้องกับจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ส่วนหมวดสินค้าไม่คงทนลดลงจากยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ
ขณะที่หมวดสินค้ากึ่งคงทนทรงตัวจากเดือนก่อน สำหรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนและธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง

การลงทุนภาคเอกชน เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศที่ลดลง สอดคล้องกับการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง สำหรับหมวดยานพาหนะทรงตัว โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดยานพาหนะอื่น ๆ อาทิ รถบรรทุก และรถกระบะลดลง ด้านหมวดก่อสร้างทรงตัวเช่นกัน โดยหมวดที่มิใช่ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ ขณะที่หมวดที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์

จำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวนและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวระยะไกล (long-haul) ที่มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปสูง เช่น ยุโรปไม่รวมรัสเซีย และออสเตรเลีย หลังเร่งไปมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวระยะใกล้ (short-haul) เพิ่มขึ้นในหลายสัญชาติ อาทิ จีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวในประเทศดังกล่าว

การส่งออกสินค้า มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวด โดยเฉพาะการส่งออก 1) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตามการส่งออกอุปกรณ์สื่อสารไปสหรัฐฯ คอมพิวเตอร์ไปจีนและฮ่องกง รวมถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ data center 2) ยานยนต์ ตามการส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะไปออสเตรเลีย อาเซียน และตะวันออกกลาง 3) สินค้าเกษตร ตามการส่งออกทุเรียนและมังคุดไปจีน
และ 4) เครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยเฉพาะหม้อแปลงไฟฟ้าไปสหรัฐฯ จากอุปสงค์ data center นอกจากนี้ หมวดสินค้าเกษตรแปรรูป และเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ตามการเร่งส่งออกในช่วงก่อนที่มาตรการเก็บภาษีนำเข้า (reciprocal tariff) จะมีผลบังคับใช้
การนำเข้าสินค้า มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดสินค้าทุนไม่รวมเครื่องบินตามการนำเข้าคอมพิวเตอร์จากไต้หวันเป็นหลัก และหมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามการนำเข้ารถยนต์นั่งจากจีน รวมถึงยาจากสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี หมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง ลดลงตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน และน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ และตะวันออกกลาง
การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน จากกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 จากหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าตามการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ลดลงหลังเร่งผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลังไปแล้วในเดือนก่อน ประกอบกับการผลิตเพื่อส่งออกน้อยกว่าร้อยละ 30 ลดลง จากหมวดวัสดุก่อสร้างตามการผลิตคอนกรีตและปูนซีเมนต์ รวมถึงหมวดปิโตรเลียมที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันชั่วคราว อย่างไรก็ดี กลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนร้อยละ 30-60 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากหมวดยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง ที่อุปสงค์ในประเทศมีสัญญาณกระเตื้องขึ้น

ภาคบริการ เครื่องชี้ภาคบริการที่ไม่รวมการซื้อขายทองคำและขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน โดยกิจกรรมในภาคการค้าลดลงตามการผลิตในภาคอุตสาหกรรม แม้ยอดขายรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่การขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการส่งออกสินค้า นอกจากนี้ กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวลดลงเช่นกัน จากทั้งธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร และการขนส่งผู้โดยสารตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ลดลง
รายได้เกษตรกร รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดเป็นสำคัญ ได้แก่ 1) ข้าวขาว จากอุปทาน ข้าวไทยและโลกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการกลับมาส่งออกข้าวของอินเดีย 2) ยางพารา จากผลของราคาที่สูงในปีก่อน เนื่องจากผลผลิตน้อยจากผลกระทบของปรากฎการณ์เอลนีโญ 3) ทุเรียน จากความกังวลต่อการล่าช้าในการตรวจสอบสารตกค้างของตลาดส่งออกหลัก ประกอบกับผลผลิตทุเรียนในปีนี้เพิ่มขึ้น และ 4) มันสำปะหลัง จากความต้องการจากจีนที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี ผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากข้าว ยางพารา และทุเรียนเป็นสำคัญ ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
การใช้จ่ายภาครัฐ การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง จากผลของฐานสูงในปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดี หากเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต รายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางยังขยายตัวจากปีก่อนตามการเบิกจ่ายเงินบำนาญ ค่าตอบแทนบุคลากร และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ และการเบิกจ่ายลงทุนของหน่วยงานด้านคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ตามลำดับ สำหรับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อนตามการเบิกจ่ายในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

ภาวะการเงิน การระดมทุนของภาคธุรกิจ โดยรวมปรับเพิ่มขึ้น โดยการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นในเกือบทุกสาขาธุรกิจ ยกเว้นธุรกิจการค้าและก่อสร้างที่ลดลงเล็กน้อย สำหรับการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากกลุ่มการเงินและโทรคมนาคม
โดยเป็นการกู้ยืมเพื่อการต่ออายุ (rollover) หุ้นกู้ที่ใกล้ครบกำหนดชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในระยะสั้น ขณะที่การระดมทุนผ่านตลาดทุน เพิ่มขึ้นจากการขายหุ้มเพิ่มทุนของธุรกิจกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มการเงินเป็นสำคัญ สำหรับต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ในเดือนพฤษภาคม ถึง 25 มิถุนายน 2568 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นและระยะยาวเฉลี่ยปรับลดลงตามการคาดการณ์นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของไทยเป็นสำคัญ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. เดือนพฤษภาคม ถึง 25 มิถุนายน 2568 เงินบาทเฉลี่ยปรับแข็งค่าขึ้นจากเดือนเมษายนสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาคเนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวล หลังการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศคู่ค้าสำคัญกับสหรัฐฯ มีความคืบหน้าในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ด้านดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เดือนพฤษภาคม 2568 เฉลี่ยปรับแข็งค่าจากเดือนเมษายน สะท้อนการคลายความกังวลของตลาดต่อผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้าสหรัฐฯ ต่อไทย ตามพัฒนาการเชิงบวกของนโยบายการค้าสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้า ขณะที่เดือนมิถุนายน (ข้อมูลถึง 25 มิถุนายน 2568) ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เฉลี่ยเคลื่อนไหวทรงตัว

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน สาเหตุจากอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดที่ลดลงจากผลของฐานราคาผักที่สูงในปีก่อนที่เผชิญภัยแล้ง ประกอบกับราคาผลไม้ลดลงตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบใกล้เคียงกับเดือนก่อน สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคาอาหารสำเร็จรูป ส่วนหนึ่งจากการส่งผ่านต้นทุนวัตถุดิบ อาทิ เนื้อสุกร และน้ำมันพืช

สำหรับภาวะตลาดแรงงานโดยรวมปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เพิ่มขึ้นในหลายสาขา โดยเฉพาะภาคการผลิต และภาคการค้า รวมถึงสัดส่วนผู้ขอสิทธิว่างงานรวมและรายใหม่ต่อผู้ประกันตนรวมที่ปรับลดลง
ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลลดลงจากดุลการค้าที่กลับมาเกินดุลเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการส่งกลับกำไรไปต่างประเทศ


อ่านประกอบ :
ธปท.ชี้เศรษฐกิจ เม.ย.ดีขึ้น-มองเจรจาการค้า‘สหรัฐ-จีน’สัญญาณบวก ‘จีดีพี’ปีนี้อาจโตเกิน 2%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ มี.ค.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน เผย‘ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภค-ลงทุน’แผ่ว
‘ธปท.’ชี้‘ท่องเที่ยว-ส่งออก-บริโภคเอกชน’โต หนุนเศรษฐกิจ ม.ค.68 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ธ.ค.ชะลอตัว-หั่นคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4/67 เติบโตไม่ถึง 4%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ พ.ย.ชะลอ หลังเร่งตัวจาก‘เงินโอน’-แนะรัฐบาล‘ลงทุน’ได้ผลดีกว่า‘แจกเงิน’
IMF มองจีดีพีไทยปีหน้าโต 2.9% แนะ‘กนง.’ลดดบ.อีก 1 ครั้ง-‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ ต.ค.67 ดีขึ้น
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ก.ย.67 ชะลอลงจากเดือนก่อน-คาดจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวใกล้ 3%

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา