
อัพเดท ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ ‘เลขาฯEEC’ แย้ม ‘อัยการฯ’ ใกล้สรุปร่างสัญญาใหม่แล้ว หลังหนีบ ‘รถไฟ’ ไปชี้แจง วางกรอบน่าจะส่งกลับมาภายใน ก.ค.นี้ ก่อนชงเข้า EEC-ครม. จบ ก.ย. 68 ระบุนโยบาย 20 บาทตลอดสายรัฐบาลที่สั่งให้ไปติดตั้ง EMV บนแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์อาจกระทบสัญญาอีกรอบ อาจต้องตั้งโต๊ะคุยซี.พี.อีกยก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของโครงการ และมีบจ.เอเชีย เอรา วัน (ซี.พี.) เป็นเอกชนคู่สัญญานั้น ปัจจุบัน EEC และ รฟท.เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ซึ่งตอนนี้ร่างสัญญาของโครงการที่ปรับแก้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็กำลังตรวจทานอยู่ โดยน่าจะสรุปรายละเอียดร่างสัญญาทั้งหมด แล้วส่งกลับมาที่ รฟท.ภายในเดือน ก.ค.นี้ ส่วนสิ่งที่ไปชี้แจงกับอัยการสูงสุดคืออะไรนั้น ขอไม่เปิดเผย แต่เป็นประเด็นเกี่ยวกับการปรับแก้ถ้อยคำในสัญญาเท่านั้น ไม่ได้กระทบกับสาระสำคัญของโครงการที่มีการเห็นชอบไปก่อนหน้านี้
นายจุฬากล่าวต่อว่า เมื่ออัยการสูงสุดส่งร่างสัญญากลับมาที่ รฟท. ทางรฟท.กับซี.พี.ก็จะร่วมตรวจสอบร่างสัญญาอีกทีหนึ่ง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็จะเสนอร่างสัญญาเข้ามาที่คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และบอร์ด EEC เพื่อให้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนส่งต่อไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติร่างสัญญาที่ได้รับการแก้ไข ซึ่งประเมินคร่าวๆ ช่วงส.ค.นี้ จะเข้าสู่การประชุมของบอร์ด EEC ได้แน่นอน จากนั้นช่วงก.ย. 68 น่าจะเข้า ครม.ได้
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ทาง ซี.พี. จะไม่เห็นด้วยกับร่างสัญญาที่อัยการสูงสุดปรับแก้หรือไม่ และได้เตรียมแผนสำรองอย่างไร นายจุฬากล่าวว่า ตอบแทนทาง ซี.พี.ไม่ได้ แต่แนวโน้มไม่น่าจะมีแบบนั้น เพราะหลักการที่เสนอไป มันตกลงกันได้แล้วว่า จะไปตามนั้น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปนั้น รัฐบาลรักษาการสามารถอนุมัติร่างสัญญาใหม่ได้ไหม นายจุฬากล่าวว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติได้ เพราะเป็นผลผูกพันกับรัฐบาลถัดไป ลักษณะคล้ายๆรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาช่วงรักษาการตอนเลือกตั้งปี 2566 ที่ไม่สามารถอนุมัติอะไร ทำได้เพียงรายงานความคืบหน้าเท่านั้น
@ค่ารถไฟฟ้า20บาท ชนวนใหม่สัญญาไฮสปีด?
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มติครม.เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 68 มีข้อสั่งการให้ระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์เร่งติดตั้งระบบเก็บค่าโดยสารที่รองรับบัตร EMV เพื่อให้รองรับนโยบายค่าโดยสาร 20 บาท จะกระทบกับร่างสัญญารถไฟความเร็วสูงที่ผนวกเอาโครงการแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ไปด้วยหรือไม่ นายจุฬาตอบว่า มีผลกระทบ และอาจจะต้องเจรจากับ ซี.พี. ใหม่ แม้ตอนนี้ รฟท. จะเป็นผู้จัดเก็บรายได้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ แต่หลังจากที่มีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง ซี.พี.จะกลายเป็นผู้จัดเก็บรายได้แทนทันที ทาง รฟท.ต้องเป็นคนดูแลและไปเจรจากับ ซี.พี. ให้ดี
ส่วนจะต้องแก้สัญญาเพิ่มอีกหรือไม่ นายจุฬาระบุว่า ต้องขอดูก่อน เพราะในสัญญาที่ทำกันไว้มีบอกชัดเจนว่า เอกชนจะต้องได้รับรายได้จากค่าโดยสารเท่าไหร่? และจะต้องมีการปรับอัตราค่าโดยสารตามที่ระบุไว้ แต่ถ้ามีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทเข้ามา ก็ต้องมาคุยกันอีกว่า จะเป็นอย่างไรต่อ?
“สมมติแอร์พอร์ตลิ้งก์เดิมค่าโดยสารมันประมาณ 20-40 บาท ถ้านโยบายจะให้เก็บแค่ 20 บาทก็ต้องไปดูว่าผู้โดยสารที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากค่าโดยสารที่ถูกลงจะพอชดเชยกันได้ไหม? ก็ต้องดูอีก” นายจุฬากล่าว
@ทวน 5 หลักการแก้ไขสัญญาไฮสปีด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักการการแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่บอร์ด EEC เห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 67 ประกอบด้วย
1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC) จากเดิม จ่ายเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงฯ แล้ว รัฐจะแบ่งจ่ายเป็นเวลา 10 ปี ปีละเท่าๆ กัน รวมเป็นจำนวน 149,650 ล้านบาท เปลี่ยนเป็น จ่ายเป็นงวด ตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท โดยเอกชนต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท (สำหรับค่างานโยธาและค่าระบบรถไฟฟ้า) เพื่อรับประกันว่าจะก่อสร้างและเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงฯ ได้ภายใน 5 ปี ทั้งนี้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของภาครัฐ (รฟท.) ทันทีตามงวดของการจ่ายเงิน
2. กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่า ๆ กัน โดยต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา ในการนี้ เอกชนจะต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคาร ในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่นที่ รฟท. ต้องรับภาระ
3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการฯ ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ และเป็นผลให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ ตามจำนวนที่จะตกลงกันต่อไป
4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) โดยให้คู่สัญญาจัดทำบันทึกข้อตกลงยกเว้นเงื่อนไข NTP ที่ยังไม่สำเร็จ เพื่อให้ รฟท. สามารถออก NTP ได้ทันทีเมื่อลงนามสัญญาที่แก้ไขตามหลักการทั้งหมดนี้
5. การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น
อ่านประกอบ
- 'อีอีซี’ ขยายเวลา 1 เดือน ส่งมอบ NTP สนามบินอู่ตะเภา รับ UTA มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา
- ขีดเส้น 18 มิ.ย. 68 ส่งมอบ ‘สนามบินอู่ตะเภา’ - ไฮสปีดรอ ‘อัยการ’ ตรวจร่างสัญญา
- ครม.อนุมัติ 'คลัง‘ กู้ AIIB สร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา 13,891 ล้านบาท
- ‘สุริยะ’ ชี้แก้สัญญาไฮสปีด ไม่ได้เอื้อใคร ผุดทางด่วน 2 ชั้นแก้จราจร
- ลุ้นบอร์ดรถไฟนัด 13 มี.ค. 68 พิจารณาร่างแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน
- สตง.แนะไฮสปีด 3 สนามบิน การแก้สัญญาควรยืนอยู่บนหลักการร่วมทุน
- ชงร่างสัญญาใหม่ ไฮสปีด 3 สนามบินให้ ‘อัยการฯ’ ตรวจ คาด เม.ย. 68 ก่อสร้าง
- ‘ภูมิใจไทย’ ขวางเสนอ ครม.อนุมัติแก้สัญญาไฮสปีด หวั่นลาม รมต.ร่วมรับผิดชอบ-รัฐเสียประโยชน์
- ไฮสปีด 3 สนามบิน จบไม่ลง ถกเถียงหลักเกณฑ์เสนอ ครม.
- พรรคร่วมฯ’ ขวาง ดันแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบินเข้า ครม.
- สุริยะ’ ยันแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ไม่มีเอื้อ ซี.พี.
- ปะชาชน’ ถามแก้สัญญาไฮสปีดเอื้อเอกชนหรือไม่? ‘พิชัย’ โต้แต่ละเงื่อนไขบีบวางหลักประกัน
- เปิดรายงาน‘สตง.’ชำแหละ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ล่าช้า เสี่ยง‘ค่าโง่’-พบ‘คู่สัญญา’ขาดสภาพคล่อง
- สตง.เตือน‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’เสี่ยงค่าโง่-แบ่งจ่าย'แอร์พอร์ตเรลลิงก์’กระทบหลักการร่วมทุนฯ
- บอร์ดอีอีซี อนุมัติเงียบ แก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน เร่งชงครม. ต.ค.นี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา